คุยกับ ผอ.นิด้าโพล กับข้อมูลเชิงสถิติ มุมมองประชาชน ปมอนาคตพรรคก้าวไกล และ “เศรษฐา” ที่อาจนำไปสู่การเปลี่ยนตัว หรือ พลิกขั้วการเมือง...

เดือน “สิงหาคม” ถือเป็นเดือนร้อนระอุในวงการเมือง เพราะกำลังมีเรื่องใหญ่ๆ เกิดขึ้นพร้อมกันถึง 3 เรื่อง แต่สิ่งที่โฟกัสหลักจะอยู่ที่ 2 เรื่องร้อน ได้แก่ เรื่องแรก...กำลังจะเกิดขึ้นในวันนี้ (7 ส.ค.) โดยเวลา 15.30 น. ศาลรัฐธรรมนูญ นัดฟังคำวินิจฉัยคดีพรรคก้าวไกล จากข้อหามีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยฯ จากการนำเสนอนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 

ส่วนเรื่องที่สอง ถัดไปอีก 7 วัน คือ 14 สิงหาคม ศาลรัฐธรรมนูญ นัดฟังคำวินิจฉัยคุณสมบัติของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จากคดีผิดจริยธรรมร้ายแรง 

จาก 2 ประเด็นดังกล่าว “เรา” มีโอกาสพูดคุยกับ ผศ.ดร.สุวิชา เป้าอารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" (NIDA Poll) นักเก็บสถิติการเมืองที่น่าสนใจ มาบอกเล่าเรื่องราวที่เกี่ยว “ความคิดเห็น” ของประชาชน กับ “นักการเมือง” และ “เหตุการณ์ทางการเมือง” อย่างมีนัยสำคัญก่อนจะมีคำตัดสิน “ชี้ชะตา” 

...

ผศ.ดร.สุวิชา กล่าวว่า ตัวเลขโพลที่เราเคยเก็บล่าสุดเกี่ยวกับการเมืองที่เกี่ยวกับอนาคตพรรคก้าวไกลนั้น เราใช้หัวข้อโพลว่า “Believe It or Not! ทางการเมืองไทย ตอน เดือนพิพากษา” (ข้อมูล 25 ก.ค.-1 ส.ค.) 

คำถามแรก ที่ถามว่า “เชื่อหรือไม่ ว่าจะมีการเปลี่ยนนายกฯ” นี่คือคำถามเดียวกันที่เคยถามในเดือนมิถุนายน 

คำตอบในเดือนมิถุนายน คนส่วนใหญ่ตอบว่า “ไม่เชื่อ” แต่กับล่าสุด คำตอบที่ได้คือ “ไม่เชื่อ” มากขึ้นกว่าเดิม...

คำตอบที่ได้จากสิ่งนี้คือ คนที่เราไปสำรวจมีความมั่นใจกว่าเดิมว่า คุณเศรษฐา จะยังเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป 

กับคำถามต่อมา “ถ้ามีการเปลี่ยนนายกฯ” ใครจะได้เป็นนายกฯ (จากพรรคร่วมรัฐบาล) ผศ.ดร.สุวิชา เล่าต่อว่า ที่ตั้งคำถามแบบนี้เพราะเชื่อว่าซีกฝั่งรัฐบาลนั้นจับมือกันอย่างแนบแน่นอยู่แล้ว 

ส่วนผลโพลที่ออกมาคือ คุณอิ๊งค์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มาอันดับ 1 ร้อยละ 31.95 ตามมาด้วย คุณอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ร้อยละ 30.99 ซึ่งห่างกันไม่ถึง 1%  

“ตัวเลขนี้สิ่งที่น่าสนใจคือ สูสีกันมาก และกระแสคุณอนุทินกำลังมา แต่...คนส่วนหนึ่งเชื่อว่า คุณทักษิณ ชินวัตร ไม่มีทางปล่อยให้ถึงมือคุณอนุทิน เรื่องนี้หากไร้ทางเลือกจริง ก็ต้องดันลูกสาวขึ้นสู่อำนาจ นอกจากนี้เป้าประสงค์คือ ความพยายามให้คะแนนนิยมเพื่อไทยกลับมา การได้ “ลูกสาว” ขึ้นเป็นนายกฯ จะเรียกว่าอยู่ในการควบคุม” 

ผอ.นิด้าโพล กล่าวและอธิบายต่อว่า ลูกสาวเสมือน “ฉากหน้า”...

หากเดือนพิพากษานี้ คุณเศรษฐา พลาดพลั้งจริงๆ ทางเลือกจะมี 2 ทาง 

1.ฉีดยาให้คุณ “ชัยเกษม นิติสิริ” แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย กลับมาให้ได้ แม้จะมีข้อกังวลในเรื่องสุขภาพ และที่ผ่านมาแกก็หายไปจากหน้าสื่อเลย...

ทางที่ 2 คือ การส่ง “อิ๊งค์” ขึ้น ทางนี้ก็ต้องไปเจรจากับ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยาเสียก่อน ว่ายอมหรือไม่...

“ต้องยอมรับว่าหากการส่งคุณอิ๊งค์ขึ้นเวลานี้ จะมีความเสี่ยงการโดนรุมกินโต๊ะ เพราะคะแนนนิยมยังไม่มา ดังนั้นเขาไม่มีทางที่จะให้ลูกสาวมาเจอสภาพแบบนี้ ซึ่งนี่คือหนทางที่ไร้ทางเลือกจริงๆ นอกเสียจากคุณหญิงพจมานไม่ยอม” 

ขณะเดียวกันการปล่อยให้ “พรรคภูมิใจไทย” เหมือนการสูญเสียอำนาจ บทบาทการนำเป็นรัฐบาล แบบนี้ไม่เป็นผลดี เพราะภูมิใจไทยคือคู่แข่ง พรรคที่แย่ง สส.ในสนามภาคอีสานเหมือนกัน 

ดังนั้นหากจะปล่อยจริงๆ ส่วนตัวผมคิดว่า ปล่อยให้ไปถึงมือ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รวมไทยสร้างชาติ ดีกว่า เพราะถือว่า “ไม่ใช่คู่แข่ง” โดยเฉพาะพื้นที่อีสาน แบบนี้ไม่เสียรังวัดหรือ เพราะเสียง สส.มีน้อย ผศ.ดร.สุวิชา ตอบว่า อาจจะรู้สึกว่าปล่อยไปถึงระดับนู้นเลย ลุงป้อม เขาก็ไม่ให้อยู่แล้ว 

“การจะยกเก้าอี้นายกฯ ให้คุณอนุทินนั้นเป็นสิ่งที่ต้องคิดหลายตลบว่า จะได้คุ้มกับเสียหรือไม่ การที่คุณอนุทินได้อำนาจ โดยมี คุณเนวิน ชิดชอบ อยู่หลังฉาก ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง... สิ่งที่จำเป็นต้องคิดถึงคือการ “เลือกตั้งครั้งหน้า” ด้วยเพราะ พรรครวมไทยสร้างชาติ ถือว่ายังไม่ใช่คู่แข่ง อย่างเก่งการเลือกตั้งครั้งหน้าก็ได้ 50-60 ที่นั่ง” 

...

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวของ รศ.ดร.สุวิชา เชื่อว่า “เศรษฐา” ยังรอด... เชื่อเหมือนกับคนที่โหวตโพล...

โพลก้าวไกล 

สำหรับประเด็นพรรคก้าวไกล ผศ.ดร.สุวิชา เผยว่า จากผลโพล ประชาชนส่วนหนึ่งไม่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หรือ ความวุ่นวายทางการเมือง ถือว่าเป็นสิ่งที่ประชาชนไม่อยากเห็น แต่...ถ้าเกิดขึ้น เขาก็เฉยๆ ไม่ได้ต่อต้านมาก หรือน้อยลง 

ประชาชนไม่ได้ยอมรับเรื่องนี้ แต่ไม่ได้ต่อต้าน เพราะรู้ว่ามีพรรคใหม่รออยู่ แต่สิ่งที่อาจจะขัดใจคือ “งูเห่า” 

จากการเก็บข้อมูลในเดือนสิงหาคม พบว่า “วิธีคิดของประชาชน” บางส่วนนั้น “เปลี่ยนไป” ว่ายังพอมีโอกาส

...

เมื่อพิจารณาดูคนที่โหวตโพลส่วนใหญ่ยังมีความเชื่อว่ามีโอกาส แต่เมื่อฟังจากกูรูดังหลายๆ คน รวมถึงผม อาจจะมองในมุมตรงกันข้ามอยู่บ้าง อย่างไรก็ตามสิ่งที่สะท้อนให้เห็นคือ ประชาชนมีความเชื่อเป็นของตัวเองมากขึ้น มากกว่าการฟังกูรูวิเคราะห์ 

งูเห่าก้าวไกล 20+

ผอ.นิดาโพล เชื่อว่าหากมีความเปลี่ยนแปลงกับพรรคก้าวไกล น่าจะมีงูเห่ามากกว่า 20 คน เพราะเชื่อว่ามีดีลกันมาแล้ว ไม่น้อย...สารพัดพรรค 

สาเหตุที่ตัวเลขเยอะ เพราะผู้ที่เป็น สส.ก้าวไกลในขณะนี้ไม่ได้มาจากบ้านใหญ่ แต่มาจาก “กระแส” ทั้งนั้น ชีวิตเขาเหล่านั้นไม่แน่นอนว่าจะได้โอกาสลงเลือกตั้งหรือไม่ ฉะนั้นหากมีข้อเสนออะไรดีๆ มา จะแคร์ทำไม...นี่คือความเป็นจริงทางการเมือง 

คนที่ไม่ไป อาจจะต้อง “กอดอุดมการณ์” แต่สำหรับคนที่เป็นงูเห่าก็อาจจะได้ไปกิน “เหลา” อาจจะได้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีก็เป็นได้ 

และที่สำคัญ สส.ก้าวไกลบางคนอาจจะรู้สึกอึดอัดกับประเด็น ม.112 ด้วย เมื่อมีโอกาสก็อยากจะกระโดดหลบ 

...

สส.เดิมย้ายไปพรรค จะมีคะแนนนิยมเท่าพรรคเดิมหรือไม่ 

หัวหน้าพรรค จะมีคะแนนนิยมเท่าคนเดิมหรือไม่ 

นี่คือคำถาม...?

เดิมคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ มีคะแนนนิยมอยู่ 32% จากนั้นโดนยุบพรรค 

“พิธา” ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค แรกเริ่มมีคะแนนนิยมอยู่ 3% 

ความนิยมนี้แปลว่าไม่ได้มรดกอะไรจาก คุณธนาธร เลย รู้จักแค่ว่าคุณพิธา คือ อดีตสามีดารา...

จากนั้น คุณพิธา ค่อยๆ ไต่อันดับขึ้นมาเรื่อย จาก 3 เป็น 5, 10 กระทั่งถึงปัจจุบัน 40 กว่าเปอร์เซ็นต์ 

สิ่งที่เกิดขึ้นนี้แปลว่า แม้จะมีการยกคนย้ายพรรคเข้ามาอยู่พรรคใหม่ แต่คะแนนนิยมก็ไม่ได้ตามมามาก จะต้องค่อยๆ สร้างขึ้นมา ขณะเดียวกันสิ่งที่น่าใจอีกประการ คือ หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้นมา คนที่จะขึ้นเป็น “หัวหน้าพรรค” จะเป็น คุณศิริกัญญา ตันสกุล หรือ คุณไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ จะรับมรดกมาแค่ไหน... แต่ส่วนตัวเชื่อว่า อาจจะมาไม่ครบ 

ยิ่งทุบ ยิ่งโต...? 

ประเด็นนี้ ผอ.นิด้าโพล ค้านว่าไม่จริง แต่สิ่งที่จะทำให้พรรคการเมืองเติบโตได้คือ พลังของคนรุ่นใหม่เทเข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อย และที่สำคัญคือ Leadership ซึ่งสำคัญมาก เผอิญตอนก้าวไกลได้ คุณพิธา ซึ่งขายออก ส่วน คุณศิริกัญญา มีข้อได้เปรียบกว่าคุณพิธา เพราะเธอมีบทบาทมาก่อน

ดังนั้นหาก คุณศิริกัญญา ขึ้นก็จะมีคะแนนสนับสนุนจากผู้หญิง ซึ่งเรื่องนี้ต้องรอดูว่าจะเป็นอย่างไร.... 

ในขณะเดียวกัน หากยังเป็น คุณพิธา ยังเป็นแคนดิเดตนายกฯ แต่กลับกันหาก คุณเศรษฐา เกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ถ้าเกิดพรรคในรัฐบาลบีบ คุณทักษิณ มากๆ ก็มีโอกาส “เปลี่ยนขั้วทางการเมือง” ก็เป็นได้ หาก คุณพิธา ยอมถอย เรื่อง ม.112 โอกาส คุณพิธา กลับมาเป็นนายกฯ ก็ยังมี 

สิ่งที่เกิดขึ้นในสภา วันที่ลงคะแนนเสียงโหวตนายกฯ หากเขาถอยเรื่อง ม.112 ชื่อนายกฯ อาจจะเป็น “พิธา” ไปแล้วก็ได้ แล้วจังหวะนี้ก็ถือเป็นเวลาที่เหมาะในการถอย เนื่องจากศาลก็ได้เตือนมา... หากเกมออกแบบนี้พลิกอีกมุมเลย...

แต่หากทั้งคุณเศรษฐา และพรรคก้าวไกล อยู่ต่อ การเมืองก็เป็นอย่างเดิมต่อไป... 

อ่านบทความที่น่าสนใจ