คุยกับ 2 นักศึกษา Backup Dancer เพลง ROCKSTAR เล่าเบื้องหลังออดิชันและการทำงาน เผยไม่รู้มาก่อนว่าจะได้ร่วมเฟรมกับ 'ลิซ่า ลลิษา' รับตื่นเต้นจนเกือบทำอะไรไม่ถูก!

"Lisa, can you teach me Japanese?" I said, "はい, はい!"

That’s my life, life, baby, I’m a rockstar!

ความร้อนแรงแห่งวงการเพลงนาทีนี้ คงจะหนีไม่พ้น ROCKSTAR ผลงานคัมแบ็กของ ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล ภายหลังเปิดตัวเมื่อ 28 มิถุนายน 2567 ไปได้เพียง 27 นาที เอ็มวี ROCKSTAR ภายใต้ค่าย LLOUD ซึ่งเธอนั่งแท่น CEO ด้วยตัวเอง ก็สามารถคว้ายอดเข้าชมทะลุ 1 ล้านครั้งได้สำเร็จ

ความปังยังไม่หมด ROCKSTAR ทะยานคว้าตำแหน่ง MV ของศิลปินเดี่ยวที่มียอดวิวบน YouTube ช่วงเปิดตัว 24 ชั่วโมงแรก มากที่สุดในปี 2024 ด้วยยอดผู้เข้าชมสูงถึง 32.4 ล้านครั้ง แซงเพลง Fortnight ของ Taylor Swift นักร้องสาวคันทรีป๊อประดับโลก ที่เคยทำสถิติผู้เข้าชมไว้ที่ 19.5 ล้านครั้ง

...

กิมมิกของ ROCKSTAR คือการเลือกใช้สถานที่ในเมืองไทยตลอดเอ็มวี นอกจากนั้นยังมีแดนเซอร์และนักแสดงเป็นคนไทย ซึ่งสิ่งนี้เองที่สามารถเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย เพราะหลายคนถึงกับตั้งคำถามว่า "ต้องมืออาชีพขนาดไหน ข่าวการมาไทยของลิซ่าจึงไม่เล็ดลอดออกมาเลย ทั้งที่ในเอ็มวีต้องใช้คนจำนวนมาก!?"

เอาล่ะ… เดี๋ยววันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านไปคลายสงสัย คุย 'เปิดใจ' แบบเท่าที่จะเผยได้ กับ น.ส.ชิดชนก แก้วโพธิ์ (ฟีมล์) นักศึกษาสาขาวิชาภาษาอังกฤษ วิทยาลัยศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต และ น.ส.ณัฐวดี สมพงษ์ (ฟาง) นักศึกษาสาขาวิชาสื่อสารการแสดง วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต 2 นักศึกษาทุนความสามารถพิเศษด้านศิลปวัฒนธรรม สถาบันศิลปวัฒนธรรมและพัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ที่มีโอกาสได้เป็น Backup Dancer ในเพลง ROCKSTAR งานนี้พวกเธอถึงกับเอ่ยปากว่า "ดีใจสุดๆ ตื่นเต้นตลอดการถ่ายทำ!"

ไม่รู้มาก่อนว่าได้ร่วมงานกับลิซ่า : 

หลายคนอาจจะคิดว่าการได้ร่วมงานกับศิลปิน ทุกคนน่าจะต้องรู้กันมาก่อนอยู่แล้วว่าเป็นใคร เพื่อลดความตื่นเต้น แต่สำหรับ ROCKSTAR ไม่ใช่อย่างนั้นเลย เพราะทั้ง 2 สาว Backup Dancer ไม่รู้มาก่อนเลยว่าเจ้าของเพลงนี้คือ ลิซ่า ลลิษา

"เขาไม่ได้บอกอะไรเลย ในสัญญาไม่มีการเขียนชื่อศิลปินด้วยซ้ำ มีเพียงนามแฝงเท่านั้น ทางทีมงานไม่บอกอะไรเลย แต่พวกหนูแค่มาพอเดาออกตอนได้ยินเพลงแล้ว เพราะพอจะจำเสียงได้ จนกระทั่งวันถ่ายจริงที่เราได้เจอตัว เลยชัวร์ว่าเป็นพี่ลิซ่าจริงๆ" ฟีมล์ ชิดชนก กล่าวกับทีมข่าวฯ ด้วยน้ำเสียงที่พอจะทำให้เรานึกสีหน้าออกว่า เธอกำลังเล่าพร้อมรอยยิ้ม

ฟาง ณัฐวดี กล่าวเสริมเพื่อนของเธอว่า ต้องยอมรับจริงๆ ค่ะว่าวันถ่ายพวกเราตื่นเต้นมาก เพราะไม่รู้อะไรมาก่อนเลย จนกระทั่งพี่ลิซ่าเดินเข้ามาในเซต หนูสารภาพตรงๆ ว่าเก็บอาการไม่อยู่ หน้าหนูยิ้มตลอดเวลา แต่ก็ต้องพยายามเก็บสีหน้าให้นิ่งไว้ เพราะนั่นเป็นการทำงาน 

"ถึงตอนแรกพวกหนูไม่รู้ว่าจะได้ถ่ายเอ็มวีกับพี่ลิซ่า แต่ก็คิดว่าศิลปินที่จะได้ร่วมงานด้วยคงเบอร์ใหญ่มากๆ เพราะช่วงซ้อมก่อนเข้าฉาก โคโรกราฟที่สอนเต้นบินมาจากต่างประเทศโดนตรงเลย" ฟางกล่าวกับเรา

น้องฟีมล์ เล่าต่อไปว่า บรรยากาศวันถ่ายทุกคนตื่นเต้นมากๆ ถึงในใจจะแอบเดาว่าน่าจะเป็นพี่ลิซ่า แต่ไม่คิดว่าจะมาจริงๆ พอได้เจอเลยทำให้พวกหนูตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มีบางช่วงเต้นผิดๆ ถูกๆ อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้เป็นอะไรที่เป็นเกียรติมากๆ ที่ได้ร่วมงานในเอ็มวี ROCKSTAR 

ฟาง - ณัฐวดี สมพงษ์
ฟาง - ณัฐวดี สมพงษ์

...

อึดอัดเป็นเดือน เหตุบอกใครไม่ได้ : 

ฟีมล์ ชิดชนก บอกกับเราว่า ถ่ายเอ็มวีประมาณวันที่ 22 พฤษภาคม 2567 นับจากวันนั้นจนกระทั่งก่อนเอ็มวีออน เธอแอบรู้สึกอึดอัดในใจเล็กน้อย ซึ่งไม่ใช่อึดอัดเพราะเรื่องที่ไม่ดี แต่เกิดจากการที่เธอไม่สามารถบอกใครได้เลยว่า ได้ร่วมเฟรมกับลิซ่า

"ตอนนั้นคนก็พูดลือกันว่าพี่ลิซ่าจะมีเพลงใหม่ เขาเม้าท์กันไปเม้าท์กันมา หนูเองก็อยากร่วมวงด้วยมาก แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรเลย เพราะเป็นข้อห้ามในสัญญา" น้องฟีมล์เล่าพร้อมกับหัวเราะ

ทีมข่าวฯ ถามว่า หากเป็นอย่างนี้แสดงว่าไม่มีใครรู้ว่าไปเป็นแดนเซอร์ นอกจากเพื่อนที่ไปด้วยเลยใช่หรือไม่ ฟีมล์ตอบรับว่า "ใช่ค่ะ กระทั่งเพื่อนที่เรียนคลาสเดียวกับหนูก็ไม่รู้ ครอบครัวก็ไม่รู้เลย อย่างที่บอกไปว่าเราบอกใครไม่ได้จริงๆ ถือเป็นโอกาสรอเซอร์ไพรส์ทีเดียว"

ฟีมล์เล่าความประทับใจในวันถ่ายทำให้เราฟังว่า ฉากที่เธอถ่ายเป็นการถ่ายทำในสตูดิโอ เมื่อเซตทุกอย่างพร้อมแล้ว ลิซ่าจึงจะเดินเข้ามายังจุดที่กำหนดไว้ ช่วงนี้เองลิซ่าไม่ได้พูดอะไรกับทุกคน เพราะอยู่ในโหมดของการทำงานที่ต้องใช้ความจริงจัง เมื่อเวลาผ่านไประมาณ 4-5 ชั่วโมง ถือว่าการถ่ายทำเป็นที่เรียบร้อย

"พอถ่ายเสร็จพี่เขาก็ทักทายพวกเราเล็กน้อย ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานกัน หนูก็พูดออกไปว่า พิลิซ่าสวยมากเลยค่ะ พี่เขาขอบคุณตอบกลับ การทำงานก็ประมาณนี้เลยค่ะ ไม่ได้คุยกันมาก หลังจากนั้นพี่ลิซ่าก็บอกลาพวกเรา เพราะเหมือนว่าจะมีงานต่อ"

ฟีมล์ - ชิดชนก แก้วโพธิ์
ฟีมล์ - ชิดชนก แก้วโพธิ์

...

ซ้อมเต้นตอนกลางคืน ออดิชันตอนเช้า : 

หากจะถามว่าน้องฟีมล์ และน้องฟาง คือคนไหนในเอ็มวีแล้วล่ะก็ เราอาจจะนั่งชี้ได้ไม่ถนัดนัก แต่ทีมข่าวฯ สามารถบอกได้ว่า นักศึกษาทุนทั้งสองอยู่ในฉากที่มีคนใส่ชุดขาวกว่าร้อยคน และลิซ่ายืนอยู่ตรงกลาง เราถามปลายสายว่า ทราบข่าวมาจากไหนถึงการออดิชันเข้าร่วมครั้งนี้

ฟีมส์และฟางตอบพร้อมกันทันทีว่า "จากรุ่นพี่ค่ะ" ก่อนที่ฟีมล์จะอธิบายเพิ่มเติมว่า รุ่นพี่เขาเป็นโมเดลลิ่ง (Modeling) อยู่แล้ว เขามาถามหนูว่า 'มีเพื่อนที่เต้นได้ไหม' ซึ่งหนูและเพื่อนๆ ที่ไปแคสพอจะเต้นได้อยู่แล้ว เพราะเป็นเด็กทุนและเด็กกิจกรรม และมองว่างานตรงนี้น่าจะเป็นโอกาสเลยตัดสินใจไปออดิชันกัน

ฟาง ยืนยันกับทีมข่าวฯ อีกครั้งว่า "ไม่เคยรู้มาก่อนว่าต้องร่วมงานกับพี่ลิซ่า เขาบอกแค่ว่าลองไปแคสเต้นดู เชื่อพี่ไม่มีผิดหวัง ผู้ติดตามเยอะมาก และเป็นศิลปินต่างชาติ" ฟีมล์ กล่าวเสริมว่า ใช่ค่ะ เขาไม่ได้ระบุอะไรเลย พูดแค่ว่า "เล่นเถอะ ไม่ผิดหวัง เชื่อพี่" หนูก็โอเคเชื่อที่พี่เขาพูด และดีแล้วที่หนูเชื่อเขา (หัวเราะ) ถ้าไม่เชื่อไม่ได้มาอยู่ตรงนี้

...

"เพลงที่ใช้ออดิชันตอนแรกไม่ใช่เพลง ROCKSTAR ค่ะ แต่เป็นเพลงของศิลปินท่านอื่น โดยเขาจะมีท่ากำหนดมาให้แล้วเราก็เต้นตาม ตรงนี้ต้องยอมรับว่าเขาทำระบบป้องกันไว้ดีมาก ไม่มีข่าวหลุดออกมา ไม่มีเพลงหลุดออกมาเลย" ฟาง ณัฐวดี กล่าวเสริม

เราถามต่อไปว่า ต้องออดิชันกันกี่รอบ คำตอบคือ ออดิชันแค่รอบเดียว แต่กรณีของน้องฟีมล์จะได้ออดิชัน 2 รอบ เพราะเธอมีโอกาสได้เข้าไปแคสเป็นนักเต้นหลัก หรือที่เรียกกันคุ้นปากว่า เมนแดนซ์ (Main Dance) แม้สุดท้ายฟีมล์จะชวดตำแหน่งดังกล่าว แต่เธอก็ไม่เสียใจที่ได้พยายาม

ฟีมล์ เล่าว่า หนูมีโอกาสได้เข้าไปแคสเมนแดนซ์ ซึ่งตอนแรกถูกวางไว้ 12 คน แต่วันนั้นที่ไปออดิชันหนูเบลอเพราะนอนน้อย และห่างการเต้นจริงๆ จังๆ มาพอสมควร ทำให้รับการต่อท่าเต้นไม่ค่อยทัน เนื่องจากเขาต่อกันไวมาก และทุกคนจำท่าได้เร็วมาก

"ส่วนตัวหนูเป็นคนหัวช้านิดนึงค่ะ หนูเต้นได้แค่อาจจะยังตามไม่ทันพี่คนอื่นๆ ทำให้สุดท้ายเขาคัดเมนแดนซ์เหลือ 10 คน หนูแอบเสียดายนิดหน่อยที่มีโอกาสเข้าไปแล้ว แต่ก้าวไปไม่ถึง แต่ก็ต้องยอมรับว่าเมนแดนซ์ทุกคนเก่งมาก เป็นมืออาชีพกันอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ภูมิใจแล้วที่มีโอกาสเข้าไปคัดเลือกตรงนั้น"

เมื่อถามว่า ความยากของการออดิชันครั้งนี้อยู่ที่จุดไหน ฟีมล์ ตอบว่า "ทุกอย่างรวดเร็วและไวมากเลยค่ะ ซ้อมกันแทบจะไม่ได้นอนเลย ซ้อมทั้งคืน ขนาดถึงที่แคสต์แล้วพวกหนูยังซ้อมอยู่เลยค่ะ เพราะพวกหนูตื่นเต้น และแต่ละท่าต้องใช้สกิลเต้นเยอะมากๆ บวกกับพวกหนูตื่นเต้นด้วย ทุกอย่างเลยเหมือนผ่านไปไวค่ะ แต่สนุกมากเลยค่ะ เป็นประสบการณ์ที่ดีเลยได้เจอคนเก่งๆ เยอะมากค่ะ"

ทำงานแบบวันต่อวัน! : 

ทีมข่าวฯ สอบถามนักศึกษาทุนทั้งสองที่อยู่ปลายสายว่า เมื่อไม่รู้ว่าเป็นลิซ่า ไม่รู้ว่าจะได้ร่วมงานกับใคร ทำไมถึงยังเลือกเดินหน้าออดิชันต่อไป?

ฟีมส์ ตอบว่า หนูแค่คิดว่ามันคือโอกาส หนูไม่รู้ว่าศิลปินคือใคร แต่พวกหนูเป็นคนที่ทำอะไรเต็มที่กันอยู่แล้ว อยากให้ทุกงานออกมาดี สมกับที่เราได้รับโอกาส ยิ่งพอมารู้ว่าศิลปินเป็นพี่ลิซ่า ยิ่งทำให้ภูมิใจว่าความพยายามของเรามันสุดๆ จริงๆ ไม่เสียแรงที่ได้พยายามไป เพราะถ้าทิ้งโอกาสเราจะไม่ได้มายืนจุดนี้ และไม่ได้เจอเขาแน่นอน 

ส่วน ฟาง กล่าวว่า ส่วนตัวแล้วหนูเป็นคนที่รักและชื่นชอบการเต้นมาก ตอนนั้นคิดแค่ว่าโอกาสมาถึงมือแล้ว ก็เลยเลือกจะคว้าไว้ ซึ่งสิ่งที่ทำไปถือว่าคุ้มค่ามาก ประสบการณ์ตรงนี้เป็นกำไรชีวิต เพราะการได้ร่วมงานกับทีมงานทุกคน เขาทำงานเป็นมืออาชีพมากค่ะ โปรดักชันใหญ่จริงๆ เขาวางไว้โดยละเอียดแล้วว่าจะถ่ายยังไง เฟรมไหนต้องมีอะไรบ้าง

ทำงานแบบวันต่อวัน ประโยคนี้น่าจะกล่าวสรุปกระบวนการสร้างสรรค์เพลง ROCKSTAR จากคำบอกเล่าของ Backup Dancer ได้เป็นอย่างดี!

"ทุกคนทำงานเป็นมืออาชีพมากเลยค่ะ เก็บความลับกันเก่งมากๆ พวกพี่ๆ และพวกเราทำงานกันหนักมากๆ เพื่อให้ผลงานนี้ออกมาดีที่สุดให้พี่ๆ เขาเห็นค่ะ พวกหนูลุ้นกันสุดๆ ว่าเอ็มวีมันจะออกมาเป็นยังไง พอออกมาแล้วหายเหนื่อยเลยค่ะ ดีใจมากๆ ที่ได้ทำงานกับพี่ๆ มืออาชีพและพี่ลิซ่าค่ะ" ฟีมล์ เล่าให้ทีมข่าวฟัง ก่อนที่ ฟาง กล่าวเสริมว่า "เขาทำระบบป้องกันไว้ดีมากจริงๆ ค่ะ"

ฟีมส์ เล่าต่อไปว่า อย่างเซตที่ถ่ายทำพวกหนู (แดนเซอร์ชุดขาว) ใช้กระบวนการถ่ายทำจบภายในวันเดียว ถ้าถามว่าซ้อมท่ากันนานไหม ก็ต้องบอกว่าไม่นานเลยค่ะ ซ้อมวันเดียว จริงๆ ไม่ถึงวันด้วยซ้ำ ถ้านับจริงๆ แค่ครึ่งวัน อย่างเซตชุดขาวเราก็ซ้อมวันเดียวแล้วถ่ายเลย 

ซ้อมไม่ถึงวัน จำท่ากันได้อย่างไร? เราถามด้วยความสงสัย

ฟาง แสดงความคิดเห็นว่า หนูคิดว่าเขามีการคัดคนมาระดับหนึ่ง คงมองแล้วว่าใครสามารถจำท่าได้ และพอที่จะแก้สถานการณ์หน้างานได้ 

ทำทันทีที่มีโอกาส : 

เป็นที่น่าเสียดายว่า สองสาวไม่สามารถเปิดเผยเบื้องหลัง และกระบวนการทำงานทั้งหมดได้ เนื่องจากบางส่วนเป็นความลับของบริษัท อย่างไรก็ตาม การสนทนาในวันนี้ก็พอจะหอมปากหอมคอ ทำให้เราพอเข้าใจถึงเบื้องหลังของ ROCKSTAR 

ก่อนการสนทนาถึงเบื้องหลัง ROCKSTAR จะจบลง เราถาม Backup Dancer ทั้งสองคนว่า มีเรื่องที่อยากฝากถึงผู้อ่าน หรือใครบางคนที่อาจกำลังเดินตามฝันของตัวเองอยู่หรือไม่…  ฟาง-ณัฐวดี สมพงษ์ กล่าวว่า ฝากถึงทุกคนที่มีความฝัน อย่ากลัวที่จะเริ่ม จุดเริ่มต้นจากความไม่รู้อาจเป็นจุดสำเร็จหนึ่งในชีวิตของเราของได้

ทางด้าน ฟีมส์-ชิดชนก แก้วโพธิ์ บอกว่า ถ้ามีโอกาสเข้ามาอยากบอกทุกคนว่า ให้ลองลงมือทำไปเลย ยังไม่ต้องหวังว่าศิลปินที่เราจะได้ร่วมงานด้วยเป็นใคร เพราะสุดท้ายแล้วไม่ว่าจะได้ทำงานกับใคร ฟีมล์เชื่อว่าจะมีสิ่งหนึ่งที่ได้กลับมาแน่ๆ คือ ประสบการณ์ทำงานที่ดี ที่จะช่วยต่อยอดสู่อนาคต สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านั้นจะช่วยสั่งสมให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น ส่วนพวกหนูเองก็คงถือว่าโชคดีมาก ที่ได้ร่วมงานกับทีมงานโปรดักชันระดับโลก แต่ความโชคดีนี้ก็มาจากโอกาสที่หนูไม่ปล่อยมันไป

.........

ขอบคุณภาพจาก LISA - ROCKSTAR (Official Music Video)

อ่านบทความที่น่าสนใจ :