คุยกับ “ป้าแจ๊ว” โพธิ์ชัย เช่าที่ดิน ปลูกแตงโม ในพื้นที่ 25 ไร่ แค่ 2 เดือน กำไร 2 เท่า ได้เงินแสนใช้ เผยเบื้องหลังชีวิตชาวนากว่า 50 ปี 

หนึ่งในเมนูโปรดหลายคนตอนนี้ เวลาเจออากาศร้อนๆ นั่นก็คือ น้ำแตงโมปั่น หวาน...เย็นชื่นใจ แล้วคุณรู้หรือไม่ว่า การปลูกแตงโม นั้นใช้เวลานานแค่ไหน...วันนี้เรามีคำตอบ กับการพูดคุยกับ “ป้าแจ๊ว” บุญนาค ชาลี เจ้าของสวนแตงโมหวาน โพธิ์ชัย บ้านลำใต้ อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งถือว่าเป็น “แตงโม” ขายดีเบอร์ต้นของ จ.สิงห์บุรี ที่จะมาแย้มเคล็ดลับการปลูก แถมรายได้ดีอีกต่างหาก...

“ป๊าแจ๊ว” ที่ยึดอาชีพชาวนา มาทั้งชีวิต หันเหชีวิตมาปลูกแตงโม เพื่อหารายได้เสริม บนเนื้อที่ 25 ไร่ เล่าให้ฟังว่า ป้าทำนามาทั้งชีวิต ถึงวันนี้ก็ 50-60 ปีแล้ว ซึ่งการทำนานั้น มันก็มีความเสี่ยงเยอะ บางช่วงราคาข้าวตกต่ำ บางช่วงได้รับความเสียหายจากฝน หรือแล้ง หรือบางช่วงก็เจอเพลี้ยทำลายพืชผล หรือบางปี ขายได้ไร่ละ 9,000 กว่าบาท แต่ลงทุนไปไร่ละ 8,000 บาท  

“มีอยู่ครั้งหนึ่ง เคยปลูกข้าวไว้ หวังว่าจะได้เก็บเกี่ยวในช่วงตุลาคม ประมาณ 50 ไร่ ปรากฏว่า เจอน้ำนาล่ม เรียกว่าเสียหายไป 500,000 บาท...เป็นหนี้เขาอีกแล้ว ซึ่งพื้นที่ 50 ไร่ดังกล่าว ไม่ใช่เนื้อที่ของเรา เป็นการ “เช่า” เพื่อทำนา” 

...

พอเข้าช่วงปี 2557 นั้น น้ำที่มีในพื้นที่มันน้อยลง โดยในระบบชลประทาน มันก็มีน้ำนะ แต่น้ำมันมาไม่ถึง ตำบลโพธิ์ชัย ตำบลมหาสอน ซึ่งเราไม่รู้จะทำยังไง การปลูกข้าวได้ยากขึ้น ฉะนั้น เราจึงต้องหันมาปลูกพืชน้ำน้อยแทน ไม่อยากจะง้อแล้ว คิดว่า ช่วงในการพักทำนานี่แหละ หันมาปลูกแตงโมดีกว่า ตั้งเป้าไว้สัก 25 ไร่... เพราะเราเห็นญาติเขาทำ ในที่ดิน 4-5 ไร่ ได้เงินหลักแสนบาท โดยใช้ระยะเวลาเพียง 60 วัน 

ป้าแจ๊ว เล่าต่อว่า เมื่อเห็นดังนั้น เราจึงขอไปเรียนรู้กับเขา ตั้งแต่ขั้นตอนแรก คือ การเตรียมดิน จนถึงขั้นตอนสุดท้ายในการเก็บเกี่ยว จนได้วิชา “ปลูกแตงโม” มา จากนั้นก็เอามาสอนพี่ๆ น้องๆ ตั้งแต่วิธีการรดน้ำตั้งแต่เช้ามืด 

เมื่อกลับมา เราก็เริ่มทดลองปลูกแตงโม เริ่มจาก 5 ไร่ก่อน โดยเนื้อที่ ก็เป็นการเช่า ไร่ละ 1,000 บาท (ต่อ 2 เดือนรอบปลูกแตงโม) เพราะที่ดินเหล่านี้เขาไม่ได้ใช้อยู่แล้ว ระหว่างรอเวลา เราก็ปรับพื้นที่ ช่วงกุมภาพันธ์ จนถึง มีนาคม ก่อนจะคืนที่ดินให้เขาในช่วงพฤษภาคม กลับไปทำนา 

เราทำมาเรื่อยๆ จาก 5 ไร่ เพิ่มเป็น 10 ไร่ จนกระทั่งเวลานี้ได้ 25 ไร่ แล้ว โดยมีการวางระบบน้ำ ทำสายน้ำหยด ลงทุนหมื่นกว่าบาท/ไร่ ตอนนี้มีลูกน้อง 18 คน ซึ่งส่วนใหญ่ ก็รู้จักกัน ช่วยกันทำ ตั้งแต่คลุมผ้าใบ วางสายน้ำหยด พอเริ่มปลูก ได้สัก 10 วัน ก็เริ่มถอนหญ้าที่ขึ้นมา ในรอบหลุมแตง

อีก 25 วัน ก็เริ่มออกยอด ทอดยอด จากนั้น เราก็เริ่มเดินตรวจตามหลุมต่างๆ เพื่อจัดระเบียบให้กับยอด จัดแขนงให้ลงมา ไม่ย้อยลงบ้านอื่น พอได้สัก 1 เดือนครึ่ง ลูกแตงโม จะได้ 1 กก. แล้ว พอได้สัก 58 วัน เราก็จะผ่าดู พอได้ 60 วัน เราจะนัดคนงานเราให้เตรียมพร้อม ก่อนเก็บ โดยสังเกตจาก “ขั้ว” ที่นวล ดีดๆ แตงโม ดู หากเสียงดัง “ปุ๊กๆๆ” เหมือนคนท้องอืด เราก็เก็บผลผลิต ช่วยกันโยนขึ้นรถ ตั้งเต็นท์ขาย...

“พอถึงเวลา เราก็ขาย ลง Facebook แชร์ไลน์ ลูกค้าก็แห่กันเข้ามาซื้อ ทั้งพ่อค้าแม่ค้าจากราชบุรี ฉะเชิงเทรา มาจากทั่วสารทิศ ซึ่งเราก็ตั้งขายตั้งแต่ลูกแรก จนหมด 4 ตัน...โดยไม่เจาะจงขายให้ใครเป็นพิเศษ หรือพ่อค้าคนกลางจากตลาดใหญ่” 

ขายแตงโม ราคาดี ได้กำไร 2 เท่า 

ด้วยที่ “ป้าแจ๊ว” เป็นคนใจดีมาก จึงตั้งราคาขายไม่ต่างจากท้องตลาด หรือว่าถูกกว่าตลาดด้วยซ้ำ หรือถ้าใครซื้อมากก็จะลดราคาต่อกิโลกรัมให้ 

นางบุญนาค เผยว่า การลงทุนในการปลูกแตงโม นั้นถือว่าสูงระดับหนึ่งเลย โดยจำนวน 25 ไร่ที่ทำ ใช้เงินต้นทุนกว่า 3 แสนบาท โดยค่าใช้จ่ายส่วนมาก คือ แรงงานคน ปุ๋ย ส่วนยาฮอร์โมน ใช้นิดหน่อย เพื่อเร่งโต ในขณะที่ เกษตรอำเภอ ก็ช่วยนำ พด.ในการปรับสภาพดิน ไม่ให้เป็นกรด หรือด่างมากเกินไป 

เมื่อถามว่า “เทคนิคการปลูกแตงโม” ของป๊าแจ๋ว คืออะไร เจ้าของสวน ตอบว่า มันคือความใส่ใจในทุกขั้นตอน “ยอดแตงโม อย่าชะเง้อมองหน้าฉันนะ...ถ้ามองก็ต้องพบแพทย์” คือถ้ายอดมันไม่เดิน มันก็จะไปไม่ได้ ผลผลิตก็จะไม่โอเค ยาสารเคมี เราไม่ได้เน้น ใช้นิดหน่อย แต่สิ่งที่ทำให้สวยงาม คือ ปุ๋ยหมัก น้ำหมัก หากปลูกไปแล้ว แตงโม จะต้องแดง...หวาน เรื่องนี้ได้รับคำแนะนำจากเกษตรอำเภอ ช่วยดูแลอยู่ 

...

“ทางเกษตรอำเภอ ได้เข้ามากินแตงโมของเรา เขาก็ตั้งชื่อให้ว่าเป็น แตงโมป้าแจ๊ว แตงโมหวานโพธิ์ชัย ส่วนรายได้นั้น ก็ถือว่า ดี แม้จะลงทุนเยอะ แต่ก็ได้เงินกลับมา เป็นกำไร 2 เท่า เรียกว่าได้เงินดี พออยู่ได้ และดีกว่าการทำนาเสียอีก เพราะได้เงินเร็วกว่า เวลาลูกค้ามาซื้อ ทำอย่างเดียว คือ เก็บเงินให้ทัน” ป้าแจ๊ว อมยิ้ม เล่าด้วยน้ำเสียงมีความสุข

ทำนารายได้น้อย ทำไมต้องทำต่อไป? 

เคยคิดจะเลิกปลูกข้าวไหม...เพราะรายได้ไม่ดี ป้าแจ๊ว บอกว่า ที่ผ่านมา แม้รายได้จะไม่มากจากข้าว ขายข้าว แล้วคนขายปุ๋ย และยา เขารวย เราจึงเลือกมาปลูกแตงโม แต่เราก็ยังไม่อยากจะทิ้งการปลูกข้าว ซึ่งเวลานี้ ราคาข้าวดีขึ้น ราคาปุ๋ยลดลง จากพันกว่าบาท เหลือ 800 กว่าบาท  

“เราเปลี่ยนไปเลยไม่ได้ เพราะหากเป็นฤดูฝน ก็จะมีผลกระทบเยอะกับแตงโม บางพื้นที่ เป็นส่วนที่เหมาะกับการทำนา มีการแบ่งซ้ายขวา หากเป็นพื้นที่นา จำเป็นต้องฉีดยาคลุมเลน หากเรามาปลูกอย่างอื่น ก็จะได้รับกระทบ... ฉะนั้น การจะปลูกแตงโม จำเป็นต้องดูช่วงจังหวะ ว่าที่นา “ล้อม” เราหรือไม่...นี่แหละ คือ เหตุผลว่าทำไมเราไม่ปลูกแตงโมทั้งปี เพราะเราทำไม่ได้ ดังนั้น สำหรับการปลูกแตงโมของป้านั้น เหมาะกับการทำเป็นอาชีพเสริม สร้างรายได้” 

...

อยากจะแนะนำมือใหม่ อย่างไร นางบุญนาค บอกว่า ที่ผ่านมา ก็มีการชวนคนอื่นๆ มาปลูกแตงโมเหมือนกับเรานะ แต่หลายคนก็พูดว่า ทำสู้ป้าแจ๊วไม่ได้ (หัวเราะ) ถามว่าทำไม เขาตอบว่า ความขยันแพ้ป้าแจ๊ว ทำแตงโม เขาได้เงิน 1-2 แสน เงินเท่านี้ป้าแจ๊ว ไม่ทำหรอก ถ้าป้าทำ ต้องได้เงิน 7-8 แสน (หัวเราะ) ใส่ใจเข้าไปด้วย เช้าถึงเย็นถึง ความใส่ใจมันต้องมา คอยศึกษา คอยดู คุยกับเขา 

พันธุ์อะไรขายดีที่สุด ป้าแจ๊ว บอกว่า “ทัมอัพ” บอกว่า เนื้อจะแน่น และหวานกรอบ พ่อค้าแม่ค้าก็เชียร์ให้ปลูกเยอะหน่อย เพราะขายดี แต่เราก็ปลูกหลายพันธุ์ นอกจาก ทัมอัพแล้ว ยังมี พันธุ์ซอนญ่า พลัส และตอร์ปิโด 

“แต่ที่ป้าปลูก กินทุกพันธุ์ ก็อร่อยทุกพันธุ์นะ (หัวเราะ ฉ่ำ) ... ใครมาซื้อ ป้าก็ให้ชิมทุกพันธุ์เลยนะ” 

การทำเกษตร รวยได้ไหม ป้าแจ๊ว ที่เป็น ชาวนา ล้มลุกคลุกคลานมา เป็นหนี้บ้าง มีเงินใช้บ้าง ตอบว่า ชีวิตนี้ก็ได้อะไรหลายอย่างนะ ได้ประสบการณ์ทั้งสุขและทุกข์ การเป็นชาวนา มันก็หล่อเลี้ยงชีวิตเราและครอบครัว มาทำแตงโม ก็มีรายได้เสริม เงินที่ได้ ก็เอามาเลี้ยงลูกหลาน ถามว่าป้าแจ๊ว รวยไหม ป้าแจ๊ว ก็ไม่รู้ คนอื่นว่าป้าแจ๊วรวย แต่เราว่าไม่ใช่หรอก พออยู่พอกิน ที่ดินของตัวเองก็มีนิดหน่อย ให้ลูกหลาน 

...

อ่านบทความ