“ป๋อง สุพรรณ” เล่าเบื้องหลัง ปม “รุต นครสวรรค์” เซียนพระดัง ถูกจับปมโกง 380 ล้าน การเช่าพระ ได้เช็คซอย ชี้วงการพระเครื่องกำลังแย่ ชี้บางคนเสียหายนับพันล้าน เคยโดนกับตัว 200 ล้าน...
ถือว่าเป็นวงการที่มีเงินสะพัดมหาศาล สำหรับวงการ “พระเครื่อง” เนื่องจาก “ราคา” ในการเช่า หรือซื้อขายพระนั้น มีตั้งแต่หลักร้อยจนถึงล้าน
กระทั่งล่าสุด มีข่าวสะเทือนไปทั้งวงการ กับการ รวบเซียนพระ “รุต นครสวรรค์” พร้อมกับภรรยา ข้อหาจ่าย “เช็คเด้ง” กว่า 380 ล้านบาท โดยมีผู้เสียหายที่ปล่อยเช่าพระ จำนวน 564 องค์ แต่ได้เพียงกระดาษมาไม่กี่ใบ
“ป๋อง สุพรรณ” เล่าเบื้องหลัง ขายพระได้แค่กระดาษ!
นายเสมอ งิ้วงาม หรือ “ป๋อง สุพรรณ” เซียนพระเจ้าของรางวัลแฟนพันธุ์แท้ “พระเครื่อง” พูดถึง “รุต นครสวรรค์” ว่า มันซื้อพระแล้วมันก็ตีเช็คไว้ แล้วมันไม่ผ่าน จากนั้นเอาพระไปจำนำ แล้วเงินสดมาหมุน แต่สุดท้ายมันก็หมุนไม่ทัน
...
“เรื่องพวกนี้มีบ่อย คนที่ยอมรับเช็ค เพราะเห็นว่าคนที่ให้นั้นพอมีชื่อเสียง มีการซื้อขายกันจริง แต่พอต่อไปๆ มีการจ่ายแบบนี้อีกหลายคน”
พี่ป๋อง เผยว่า มีคนคนหนึ่งผมขอไม่เอ่ยชื่อ มูลค่าความเสียหายพันกว่าล้าน ซึ่งสุดท้ายเขาหยุดจ่ายเช็ค และพยายามจ่ายเงินผ่อนผันคืน เรื่องนี้ยังไม่เป็นข่าว เพราะเจ้าหนี้เขายอม แต่ไม่รู้ว่าสุดท้ายจะเป็นอย่างไร เพราะอาการหนักอยู่ คนนี้เขามีชื่อเสียง โดยเฉพาะการ “ไลฟ์สด”
บางคนไลฟ์สด ทำคอนเทนต์จนเริ่มมีชื่อเสียง คนเข้ามาดูนับล้านวิว ก็มีการซื้อขายพระ มูลค่า 10 ล้านบาท และเริ่ม “ซอยเช็ค” 10 ใบ จ่ายใบละ 1 ล้าน ตีเช็คใบแรกอีก 2 เดือน สมมติเวลานี้เดือน 6 กว่าจะได้เงิน 1 ล้านแรก คือ เดือน 8 เรียกว่า ตีเช็คกันจนพัวพันไปหมด บางคนเอาเช็คไปขายต่ออีก
“การทำอย่างนี้ ทำให้เกิดหนี้พัวพันเป็นลูกโซ่ คนที่เอาเช็คไปขายมีการเซ็นสลักหลัง ก็ต้องไปถ่ายเช็คตัวเอง เกิดคดีความแจ้งความ ส่วนคนที่รับซื้อเช็คกินดอก ก็ต้องไปไล่บี้กันอีก”
วงการพระ 80% จ่ายด้วยเช็ค 20% เงินสด
ป๋อง สุพรรณ ชี้ว่า วงการพระเครื่องนั้นมีหลายกลุ่ม บางกลุ่มซื้อขายกันด้วยเงินสด และบางส่วนก็มีการจ่ายเป็นเช็ค โดยประมาณการว่า จ่ายเช็ค มีประมาณ 80% และ จ่ายเงินสด 20%
“ส่วนตัวผม ผมซื้อขาย ปล่อยเช่าเป็นเงินสดอย่างเดียว ยกเว้น สำหรับบางคนที่ไว้ใจกันจริงๆ ผมเองเคยโดนมาแล้ว...”
คำถามคือ ซื้อพระ 200-300 ล้าน _ึงขายใคร...? ป๋องสุพรรณ พูดอย่างตรงไปตรงมา ลูกค้าคือใคร เงินสดคือใคร กลายเป็นว่า พระที่ซื้อไป เอาไปจำนำ
สมมติว่า ซื้อพระมา 15 ล้านบาท ตีเช็คใบละล้าน จำนวน 15 ใบ แล้วมาจำนำหรือขายเป็นเงินสด 12 ล้าน แปลว่าขาดทุน 3 ล้าน
พระที่ซื้อขายกันนั้น คือ ได้พระมาจริงๆ แต่เอาไปปล่อยต่อเพื่อเอาเงินสด กลายเป็นขาดทุน จากนั้นเอาเงินที่ได้มา โปะตรงนั้น เสียดอกตรงนี้ ใช้หนี้คนนู้นสุดท้ายหมุนไม่ทัน
เซียนป๋อง สุพรรณ บอกว่า เวลานี้วงการพระเรื่อง “น็อก” กันแล้ว และเริ่มเงียบ มีการซื้อซอยแบบนี้ ทำให้พระหมุนเวียน คนที่ซื้อมือแรกๆ ได้เงิน...ความโชคดีของผม คือ เริ่มถอยห่างกับกลุ่มคนเหล่านี้แล้ว ตอนนี้เน้นเก็บพระ ซื้อขายเงินสด สมัยก่อนคือ หากไม่มีเงินก็ซื้อไม่ได้ ไม่มีแบบนี้...
...
“ตอนนี้อยู่ในสถานการณ์อันตราย คนที่มีชื่อเสียง บางครั้งก็ไว้ใจไม่ได้ บางคนทำคอนเทนต์พระเครื่องมีคนดูเป็นล้านวิว น่าเชื่อถือไหม แต่...คนที่ดูล้านวิว คือ คนที่มาซื้อพระหรือเปล่า แต่กลับกัน ล้านวิว มันทำให้คนดูรู้สึกว่าเขาน่าเชื่อถือ มีชื่อเสียง ซึ่งความเป็นจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น การที่คุณไปให้เครดิตกับบางคนที่เป็นลักษณะเซียนผี มันยินยอมพร้อมตาย ผีแม่งเจอป่าช้า...มาตรฐานไม่มี แต่มีการสร้างชื่อ ไปงานประกวด มีการซื้อขายจริง คนเห็นก็อยากจะขาย แต่ไม่รู้ว่าได้เงินจริงหรือไม่”ป๋อง กล่าวและว่า
ตอนแรกก็อาจจะผ่าน เงิน 5 แสน, 7 แสน ก็ทำให้ดูดี จากนั้นก็เล่นใหญ่ เล่นโต ซื้อไปเรื่อย เรานี่ซื้อพระ 20 ล้านดูแทบตาย แต่นี่ซื้อ 25 ล้าน ได้กระดาษ 25 ใบ..
บทเรียนในอดีต เซียนดับชีพตัวเอง เซียนป๋องยังโดน 200 ล้าน!!
เซียนพระสุดเก๋า บอกว่า สมัยก่อนก็มีตัวอย่างมาแล้ว เป็นเซียนชื่อดังที่ท่าพระจันทร์ สุดท้าย...เขาเลือกที่จะปลิดชีพตัวเอง เพราะใช้เงินไม่ไหว พอตายแล้ว หนี้ก็สูญ ซึ่งเราไม่อยากและไม่สมควรที่จะจบแบบนี้
...
ถามว่า มูลค่า 380 ล้าน เช่าขายพระอะไร เซียนป๋อง ชี้ว่า พระที่เช่ากันในราคารวมกันเท่านั้น เชื่อว่าเป็นพระยอดนิยม สมเด็จฯ หลวงพ่อเงิน ชุดเบญจภาคี เรียกว่า หาก “เลือดเข้าตา” จะซื้อหมด แต่เมื่อเอาไปขายจนหมด มันก็น็อก
ช่วงท้าย เซียน ป๋อง สุพรรณ ฝากเตือนคนที่เล่นพระ วงการพระเครื่องว่า ปัญหาเช็คเด้งนั้นเป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือ ของแต่ละคน คนที่เล่นพระ แล้วจ่ายเช็คดีๆ ก็มี ยกตัวอย่าง “เอก มณเฑียร” เขาซื้อพระใครก็ได้ เขาซื้อขายกับผมก็ได้...
ตอนนี้อายุมากแล้ว ไม่อยากเอาตัวเองไปเสี่ยงแล้ว ผมเชื่อว่าคนในวงการเขาก็รู้ว่าใครเสี่ยง ไม่เสี่ยง เพียงแต่ บางคน “รู้ทั้งรู้” แต่ก้าวเท้าเข้าไปแล้ว หวังว่าแค่ 1-2 ล้าน น่าจะผ่าน แต่สุดท้ายมันโดนอยู่ดี เพราะรวมๆ กับคนอื่นก็ 300-400 ล้าน กับคนที่โดนพันกว่าล้านบาท หากไปดูรายคน ก็คนละ 5-6 ล้าน สูงสุด 170 ล้าน
“ผมเคยโดนสูงสุด 200 กว่าล้าน ตอนนี้ก็เป็นคดีความกันอยู่ สุดท้ายก็ผ่อนมั้ง ไม่ผ่อนบ้าง ไม่รู้ว่าใครจะตายก่อนกัน...เรียกว่าเข็ด ที่ผ่านมา เราก็ช่วยมาหลายคน ลองไปถามคนในวงการได้เลย ที่เราพูดไม่ได้หวังจะทวงบุญคุณใคร เพียงแต่ว่า เวลานี้เราเลิกแล้ว ไม่ไหวแล้ว ตอนเราหาพระ ปล่อยเช่ากว่าจะได้ 50,000 - 100,000 บาท นี่แทบตาย วันนี้จึงไม่อยากยุ่ง ผันตัวมาเป็นนักสะสมแล้ว...แล้วเราก็ไม่อยากขาย หากจะขายจริงๆ หมดไปแล้ว” ป๋อง สุพรรณ กล่าว
--------------------------------------------------------------------
...
เรื่องเล่า กว่าจะมาเป็น "ป๋อง สุพรรณ"
---------------------------------------------------------------------
อ่านบทความที่น่าสนใจ