เปิดผลวิจัยคนไทยต้องการลดการกินเนื้อสัตว์กว่า 67% ภายใน 2 ปีข้างหน้า ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และสวัสดิภาพสัตว์ แต่ยังติดที่ข้อจำกัดด้านราคาของโปรตีนทางเลือกมีราคาสูง และหาซื้อทานได้ยาก

งานวิจัยล่าสุดจาก Madre Brava ที่จัดให้ทำการสำรวจแนวโน้มและทิศทางการบริโภคอาหารของผู้บริโภคไทยมากกว่า 1,500 คน พบว่า 67% ของผู้ตอบแบบสอบถามต้องการลดการบริโภคเนื้อสัตว์ภายในสองปี ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ ตามมาด้วยสิ่งแวดล้อม และสวัสดิภาพสัตว์

แม้แบบสำรวจนี้อาจจะสะท้อนความต้องการของผู้บริโภค แต่ในความเป็นจริงการเพิ่มการบริโภคในส่วนของโปรตีนทางเลือกยังมีข้อจำกัด ทั้งเรื่องราคา การเข้าถึง ความหลากหลายและคุณภาพสินค้าที่พร้อมรองรับกับความต้องการนี้

...

จักรชัย โฉมทองดี ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ของ Madre Brava องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่มีเป้าหมายในการสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืน โดยเฉพาะการลดผลกระทบต่อสภาวะโลกร้อนและสร้างสุขภาพที่ดีให้กับประชากร กล่าวว่า จากตัวเลขการสำรวจล่าสุด เห็นชัดว่าผู้บริโภคไทยเป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญต่อสุขภาพสูง เมื่อเทียบกับหลายประเทศและตระหนักว่าการลดเนื้อสัตว์พร้อมการบริโภคโปรตีนจากพืชทดแทนมีผลดี 

สอดคล้องกับความจำเป็นด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากการปล่อยก๊าซเรื่อนกระจกที่สูงของการผลิตโปรตีนจากสัตว์ แต่ที่ยอดขายอาจชะลอตัวในบางส่วน วิเคราะห์ได้ว่าเป็นปัจจัยด้านราคา การเข้าถึง ความหลากหลายและคุณภาพสินค้า เป็นสัญญาณสำคัญให้กับทั้งภาครัฐและเอกชนให้เห็นถึงประโยชน์และโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ และมีนโยบายสนับสนุนส่งเสริมที่เหมาะสม ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางการบริโภคและแนวโน้มนโยบายการค้าในตลาดส่งออกของไทย

คนไทยอยากลดการกินเนื้อสัตว์ แต่โปรตีนทางเลือกราคาแพง

Madre Brava ทำการสำรวจผู้บริโภคไทย 1,500 คน ผ่านทางสำนักวิจัย Northstar / HarrisX จากกลุ่มตัวอย่างมีความหลากหลายของอายุ เพศ ภูมิภาค การอาศัยเขตเมือง-ชนบท กลุ่มรายได้ การศึกษา โครงสร้างครอบครัว ความสนใจด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ซึ่งผลที่ออกมาช่วยให้เห็นทิศทางการบริโภคของไทยได้เป็นอย่างดี

แม้ว่าผู้บริโภคจะตระหนักถึงประโยชน์ต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม แต่โปรตีนทางเลือกยังถูกมองว่าราคาแพงและผ่านกระบวนการแปรรูปสูง

ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการเลิกกินเนื้อสัตว์โดยสิ้นเชิง แต่มากถึง 67% ระบุว่าต้องการบริโภคเนื้อสัตว์น้อยลงภายในสองปี เป็นสัดส่วนที่มีนัยสำคัญ โดยชี้ว่าต้องการหันไปบริโภคโปรตีนจากพืชทั่วไปและโปรตีนทางเลือก เช่น โปรตีนพืชที่ผลิตออกมาในลักษณะเดียวกับเนื้อสัตว์ ทั้งนี้ 41% ของผู้ที่เคยบริโภคโปรตีนทางเลือกแล้วยังต้องการที่จะบริโภคเพิ่มขึ้นไปอีกหากเป็นไปได้

แต่อุปสรรคสำคัญคือ ราคาที่สูงกว่าเนื้อสัตว์ในปริมาณที่เท่ากัน ส่วนของผู้บริโภคทั่วไป ยังมีความกังวลที่เกี่ยวกับการแปรรูป รวมถึงการเข้าถึงของผู้บริโภคที่ไม่สามารถหาซื้อโปรตีนทางเลือกใกล้ที่พักอาศัยหรือร้านค้าที่ซื้อเป็นประจำได้

ทั้งนี้กลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามที่เห็นด้วยกับการสนับสนุนโปรตีนทางเลือก ต้องการที่จะเห็นการลดภาษีที่จะทำให้ราคาสินค้าเหล่านั้นถูกลง และยังหนุนให้เพิ่มการลงทุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์โปรตีนทางเลือก และสนับสนุนเกษตรกรในการผลิต

หากสามารถทำให้โปรตีนทางเลือกมีราคาถูกลง คนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น โปรตีนทางเลือกจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในเมนูของร้านอาหารตามสั่ง นอกจาก หมู ไก่ กุ้ง แล้ว ยังมีโปรตีนจากพืชให้เลือก คนที่อยากกินอาหารที่ให้รสชาติแบบเนื้อสัตว์อยู่ก็สามารถสั่งโปรตีนทางเลือกได้หรือแม้แต่ผสมระหว่างโปรตีนทางเลือกกับเนื้อสัตว์ได้ซึ่งก็จะส่งผลดีมากกว่าทานเนื้อสัตว์อย่างเดียว

...

โปรตีนพืชโอกาสภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมอาหารไทย

ปัจจุบันมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ทั้งภาครัฐและเอกชนจะต้องแก้ไขปรับปรุงข้อจำกัดต่อการเปลี่ยนผ่านสู่การบริโภคที่ดีต่อสุขภาพและยั่งยืนขึ้น พร้อมทั้งสร้างโอกาสการเติบโตของภาคการผลิตอาหารของไทย

หากรัฐบาลมีนโยบายในการสนับสนุนการผลิตโปรตีนจากพืชและโปรตีนทางเลือกอย่างจริงจัง ทั้งสำหรับการบริโภคในประเทศและการส่งออก จะสอดรับกับทิศทางทั้งตลาดภายในและตลาดส่งออก เราจำเป็นต้องอ่านเกมทันและเริ่มเปลี่ยนตั้งแต่ตอนนี้ ไม่อย่างนั้นอาจตกขบวนและเสียโอกาสไป
ประเทศไทยไม่ได้ผลิตอาหารเพื่อบริโภคภายในประเทศเท่านั้น แต่ประเทศไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกอาหารสำคัญของโลก ถ้าเรามีการปรับสัดส่วน มีอาหารที่เป็นโปรตีนจากพืชมากขึ้นจะทำให้เราสามารถมีอาหารที่ดี คุณภาพดี ในราคาที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้ ไม่เฉพาะคนไทย แต่รวมถึงผู้บริโภคในตลาดส่งออก ซึ่งจะเป็นบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง ทำให้ประเทศไทยมีโอกาสและที่ยืนที่สำคัญในระดับสากล

โปรตีนจากพืชเป็นส่วนหนึ่งของอาหารแห่งอนาคต (future food) หากเราต้องการเป็นครัวของโลก การดำเนินในแนวทางนี้จะทำให้เราเป็นผู้นำเรื่องอาหารได้ การปรับเปลี่ยนขนาดใหญ่ด้านอาหารของโลกกำลังจากมาถึง การเจรจาล่าสุดที่ COP28 ได้มีการบรรจุวาระเรื่องอาหารเข้ามาอย่างเป็นทางการแล้ว เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้เราจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการมีความผูกพันเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการผลิตอาหารได้อีกต่อไป

อีกทั้งในอนาคตอีกไม่นานภาคเกษตรจะกลายเป็นภาคที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันดับหนึ่งของสหภาพยุโรป ตลาดส่งออกของไทยจำนวนมากจะเริ่มมีมาตรการทางการค้าในเรื่องนี้ ไทยไม่เพียงต้องไม่ตกขบวนแต่ควรมองไปข้างหน้าและลงทุนทั้งการวิจัยและส่งเสริมเกษตรกรเพื่อให้เป็นหนึ่งในผู้นำด้านอาหารยั่งยืน ที่สำคัญคือจะทำอย่างไรเพื่อให้เกษตรกรรายย่อยได้ประโยชน์สูงสุดจากการเปลี่ยนผ่านนี้ด้วย

...

ประเทศไทยเรามีเทคโนโลยีด้านอาหาร เราเป็นผู้เล่นระดับต้นๆ ของโลก ยิ่งเมื่อเทียบกับสัดส่วนประชากรและขนาดประเทศแล้วผมมองว่าประเทศไทยไม่เป็นรองใคร ดังนั้นถ้าเราต้องการพัฒนาต่อยอดด้านใด เราควรพิจารณาถึงศักยภาพที่มีอยู่ ควบคู่ไปกับการเปลี่ยนแปลงและความจำเป็นในระดับสากลด้วย.