“ขอบคุณมาก...(น้ำตาคลอ) ไม่ต้องร้องไห้นะ เดี๋ยวคงได้เจอกันอีก ยังไงก็ยังไม่ได้ไปไหน มีอะไรก็บอกได้” นี่คือโมเมนต์ซึ้งๆ ในช่วงกราบลา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จากปาก 1 ใน 3 ทีมโฆษกฯ คือ อ้น ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
อ้น ทิพานัน เล่าว่า “ตอนที่ยืนอำลาท่าน ตอนนั้นน้ำตาคลอ เพราะนึกถึงภาพเก่าๆ ไหลย้อนเข้ามาในหัว นึกถึงวันแรกที่เราพบท่าน เห็นท่านขึ้นปราศรัยที่ สนามกีฬาเทพหัสดิน นั่นคือแรงบันดาลใจ อยากจะทำงานให้ประเทศชาติ แม้ว่าเรามีความตั้งใจในการทำงานการเมืองอยู่แล้ว แต่เมื่อเห็นลุงตู่แล้ว รู้สึกเหมือนตอกย้ำความรู้สึกให้หนักแน่นขึ้นไปอีก เหมือนได้เห็นตัวอย่าง คนเป็น “แม่ทัพ” ที่พร้อมทุ่มเททำงานเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์”
สาเหตุที่พวกเรา ทีมโฆษกฯ ตัดสินใจไปกราบลาท่านวันนั้น เพราะ ต้องการขอบคุณในโอกาส ที่หยิบยื่นให้กับอ้น และทีมโฆษกฯ ถือเป็นโอกาสอันทรงคุณค่า ที่ได้ทำงานให้กับประเทศชาติหรือประชาชน
...
“ลุงตู่ ถือเป็นแบบอย่างของผู้นำ ที่มีวิธีการทำงาน บริหารจัดการและการแก้ปัญหาอย่างแน่วแน่ นอกจากคำขอบคุณแล้ว ยังมีคำสอนมากมาย ที่ใช้เป็นรากฐานในการทำงานของเรา และสามารถนำมาปรับใช้”
ครั้งแรก พบเจอ พล.อ.ประยุทธ์
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยเบื้องหลังการพบเจอ “ลุงตู่” ครั้งแรกว่า ก่อนที่จะเจอ พล.อ.ประยุทธ์ เรารู้สึกเคารพท่านอยู่แล้ว แต่เมื่อเราได้ทำงานร่วมกัน รู้สึกว่าศรัทธาในตัวท่านเพิ่มมากขึ้น
ก่อนหน้านี้เราอาจจะเห็นท่านทำงานผ่านสื่อมวลชน พอเราได้สัมผัสการทำงานกับท่าน เรารู้สึกได้ว่า สิ่งที่ท่านพูดและคิด มันลึกซึ้ง และให้เกียรติทุกๆ คนอย่างมาก เพราะท่านจะนึกถึงจิตใจของผู้รับฟังเสมอ ซึ่งนอกจากคนที่นั่งฟังแล้ว ท่านยังนึกถึงคนที่ไม่ได้อยู่และนั่งฟังตรงนั้น นี่คือความ “ละเอียดอ่อน” ในการพูดคุยและการทำงาน
ในสายตาของสื่อ อาจจะมองว่า ท่านเป็นคนทำงานจริงจัง มีระเบียบวินัย แต่ในอีกมุมหนึ่ง คือ “ลุงตู่” เอาใจใส่ ละเอียดอ่อน กับทุกๆ เรื่อง ทั้งเรื่องการทำงาน การดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาทุกระดับ ที่สำคัญคือ ท่านติดตามผลทุกเรื่องที่สั่งการลงไป ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญในการทำงานให้บรรลุเป้าหมาย
“เรื่องนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญของนักบริหาร โดยเฉพาะ ผู้นำประเทศ นี่คือมุมมองส่วนตัว การเป็นผู้นำไม่ใช่แค่สั่งการ แต่ต้องติดตามผล และทำให้บรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งใจ และการจะเป็นผู้นำ และ นำอย่างเดียว ก็ไม่ได้ แต่ท่านให้เกียรติกับผู้ใต้บังคับบัญชา และพร้อมที่จะแก้ปัญหาให้”
ลุงตู่ ดุไหม...
อ้น ทิพานัน บอกว่า เท่าที่สัมผัสเนื้อแท้ไม่ใช่คนดุ แต่เป็นคนเอาจริงเอาจัง คนที่ดุ จะมุ่งใช้โทสะ แต่คนเอาจริงเอาจัง คือ มุ่งไปที่การทำงาน “งานคืองาน เล่นคือเล่น” แม้ภาพที่คนมองทั่วไปจะดูคล้ายกัน แต่หากมองให้ลึกลงไป คือ การจริงจังกับการทำงาน เพื่อผลิตงานออกมาให้สำเร็จ
แล้ว ลุงตู่ เป็นคนตลกไหม รองโฆษกฯ สาว (หัวเราะ) ท่านก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่มีอารมณ์ขัน และทำให้คนใกล้ตัวยิ้มหรือหัวเราะได้ โดยเฉพาะยามที่เราเครียด เพราะการทำงานด้านนี้มีความกดดัน แต่เมื่ออยู่ในบรรยากาศผ่อนคลาย ก็จะมีเสียงหัวเราะ ออกมาอยู่เสมอ
...
ความประทับใจ
สิ่งที่ประทับใจที่สุด สำหรับอ้น ไม่ได้เป็นเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง เพียงแต่จะรู้สึกดีทุกครั้ง เมื่อได้ออกเดินทางไปต่างจังหวัด ไม่ว่าจะไปตรวจราชการหรือหาเสียงก็ตาม เพราะนั่นคือโอกาสที่เราได้ไปเจอกับพี่น้องประชาชน ซึ่งหลายๆ คนเฝ้ารอที่จะพบลุงตู่ และบางคนก็ไม่กล้าที่จะมาเจอ แม้จะอยู่ในบ้าน หรือโดนมุงๆ ก็ตาม
“หากท่านเห็นว่าคนอยากจะเข้ามาเจอแต่ไม่กล้า ท่านจะเดินเข้าไปหาทันที นี่คือความใส่ใจทุกๆ ความรู้สึก หรือ สายตาที่เฝ้ามอง เพื่อให้กำลังใจ โดยไม่ปล่อยผ่าน หรือ ละเลยแม้แต่คนเดียว แม้จะเข้ามาหาไม่ได้ ท่านก็พยายามโบกมือให้ ทักทายทุกครั้ง”
ลุงตู่ กับ ทีมโฆษกฯ
เบื้องหลังการทำงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ กับ สาวๆ ทีมโฆษกฯ ทิพานัน เล่าว่า ส่วนใหญ่จะให้กำลังใจกันมากกว่า และให้อิสระในการทำงาน เมื่อมอบหมายงานมาแล้ว ก็เชื่อว่าท่านก็เห็นในความตั้งใจในการทำงานของเรา ท่านคอยให้กำลังใจอยู่เสมอ บางครั้งเห็นว่าเราอยู่ดึก ทำงานเยอะ ท่านก็จะเข้ามาหาและบอกว่า “อย่าลืมพักผ่อน” เป็นการแสดงความเป็นห่วงเล็กน้อย ที่เป็นการสร้างกำลังใจให้คนทำงานทุกคน
เมื่อถามว่า หลายครั้งที่ลุงตู่ ชอบนอกสคริปต์ รองอ้น รีบแย้งทันทีว่า แม้จะอยู่ในสคริปต์ หรือนอกสคริปต์ ก็คือตัวตนของท่าน เหนือสิ่งอื่นใด คือ ความปรารถนาดีกับพี่น้องประชาชน และชาติบ้านเมืองจริงๆ
ชีวิตหลังจากนี้ของ “ทิพานัน”
หลังจากนี้ อ้น คงยังไม่มีแผนด้านไหน สิ่งที่ต้องทำ คือการเคลียร์เรื่องเอกสารต่างๆ ก่อน หากมีเวลาก็จะพักผ่อน เพราะเราเองก็ทำงานด้านนี้รวมกันมานาน 2 ปี
“สิ่งที่ภูมิใจ คือ ครั้งหนึ่งเราทำงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งสร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติ และดีใจที่เป็นหนึ่งในคนทำงานที่ร่วมงานกับท่าน ถือเป็นประสบการณ์และอยู่ในความทรงจำตลอดไป...”
...
สำหรับ การทำงานในฐานะองครักษ์พิทักษ์ลุงตู่นั้น ทิพานัน เร่ิมประจำตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในปี พ.ศ. 2564 พอครบ 1 ปี ในเดือนกรกฎาคม 2565 จากนั้นก็ต่อด้วยตำแหน่งรองโฆษกฯ ครบอีก 1 ปี เดือนสิงหาคม 2566 เรียกว่า ครบ 2 ปีเต็ม
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
อ่านบทความที่น่าสนใจ