5 พระเครื่องมหานิยมของคนจีนเหมือนของคนไทย พร้อมราคาอัปเดต 2023 และ 3 พระเครื่องจากเกจิดังที่กำลังได้รับความนิยม 

ปิดคดีไปเรียบร้อยแล้วสำหรับกรณีการหลอกขายพระเครื่อง และทองปลอมของแก๊งชาวจีนที่อาศัยความมีชื่อเสียงของวัดดังอย่าง “เขาชีจรรย์” ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เช่าที่และทำการหลอกขายพระปลอม ทองปลอม โดยมีต้นทุนแค่ 400 บาท แต่หลอกขายนักท่องเที่ยวจีนที่ศรัทธาพระเครื่องไทยในราคาถึง 20,000 บาท ซึ่งลักษณะที่ใช้คล้าย “ทัวร์ 0 เหรียญ” ซึ่งเรื่องนี้ทางตำรวจได้ทำการกวาดล้างและจับผู้เกี่ยวข้องเป็นคนจีนได้ 6 ราย แบ่งเป็นคนจีน 4 ราย ในข้อหาหลักคือการ “ฉ้อโกงประชาชน” ขณะที่เจ้าอาวาสวัดเองก็โดนหางเลขไปด้วย กับมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และหญิงไทยหนึ่งคน ในข้อหาสนับสนุน เป็นผู้เช่าที่ให้คนจีนจำหน่าย ซึ่งล่าสุดทางตำรวจประสาน ปปง. ได้ติดตามตรวจยึดทรัพย์สิน คาดว่ามีกว่า 137 ล้านบาท 

แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นย่อมส่งผลไม่ดีกับวงการ “พระเครื่อง” ของไทยที่ปัจจุบันได้รับความนิยมในระดับอาเซียน โดยเฉพาะตลาดจีน สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไต้หวัน ฮ่องกง ซึ่งคาดว่าทั้งตลาดอาจมีเงินหมุนเวียนมากกว่าหมื่นล้าน 

เก้ อมตะ เซียนพระมือดีข้างกาย “ป๋อง สุพรรณ” เซียนพระระดับประเทศ บอกกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ว่า คนจีนให้ความสนใจพระเครื่องของไทยมาพักใหญ่แล้ว แต่ประเด็นคือก็มีทั้งคนดีและไม่ดี ที่หลั่งไหลเข้าสู่วงการ คนที่ไม่ดีอาจจะเห็นช่องว่างและจ้องจะหาผลประโยชน์กับคนชาติเดียวกัน ซึ่งยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยาก ส่วนกรณีคนจีน จะแฝงตัวเข้ามาอยู่ หรืออาศัยเช่าที่ในวัดและหาประโยชน์นั้น ไม่ทราบจริงๆ ว่าขนาดไหน แต่รู้ว่าเข้ามาเยอะ ส่วนกรณี “เขาชีจรรย์” นั้นส่วนตัวยังไม่ทราบ

...

ส่วนกระแสความนิยม “พระเครื่อง” ในประเทศจีนนั้นเท่าที่ทราบจากคนจีน มาจากความชื่นชอบวัฒนธรรมของไทย โดยเฉพาะ “สายมู” ในการลงอักขระเลขยันต์ ศิลปะของไทย และได้นำพระเครื่องไปขาย 

แต่...การขายที่เกิดขึ้นในอดีตเป็นพวกคนจีนที่ไม่ดีได้เข้ามาเมืองไทยและไปซื้อพระสมเด็จฯ ปลอม แล้วไปหลอกขายคนจีนในราคาสูงๆ โดยที่คนจีนเขาก็ดูไม่ออกหรอกว่าพระจริงพระปลอมเป็นอย่างไร เขารู้เพียงอย่างเดียวว่าเป็น “พระสมเด็จฯ” จากประเทศไทย 

“แต่เมื่อเขารู้ มันจึงเกิดความเสื่อมศรัทธา แต่ประเด็นคือคนที่หลอกไม่ใช่คนไทย แต่เป็นคนจีนด้วยกัน แต่ภายหลังก็เริ่มดีขึ้น เพราะคนจีนที่ดีๆ ก็เข้ามาซื้อพระแท้จากไทยไปขาย”

เก้ อมตะ บอกว่า เมื่อในจีนมีกระแสความนิยมสูงขึ้น เวลานี้ทางรัฐบาลจีนจึงเริ่มออกกฎหมายควบคุมในบางมณฑล โดยระบุว่า “ห้ามซื้อขายสิ่งของที่เกี่ยวกับความเชื่อ” กฎหมายดังกล่าวจึงรวมถึง “พระเครื่อง” ด้วย ฉะนั้นกระแสพระเครื่องในจีนจึงเริ่มลดลง แต่...ยังมีบางคนที่ศรัทธาและชื่นชอบพระเครื่อง กระทั่งประเทศไทยเปิดรับนักท่องเที่ยว กลุ่มทุนจีนบางส่วนจึงแทรกซึมเข้ามาในธุรกิจพระเครื่อง ผ่านวัด ผ่านสำนักสงฆ์ และมาหลอกขายคนในประเทศตัวเอง เพราะคนที่ศรัทธาพระเครื่องไทยในจีนมีจำนวนมาก 

“ช่วงโควิดระบาด พระเครื่องบูมมาก แต่เจอกฎหมายควบคุม จึงเริ่มลดลง แต่ก็ยังมีขายอยู่ แต่ไม่มาก” 

ทุนจีนรุก กระทบธุรกิจเช่าพระเครื่อง? 

เก้ อมตะ เซียนพระของไทย ยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันมีผลกับธุรกิจพระเครื่องของไทย หากไม่มีใครอธิบาย กลุ่มคนจีนอาจจะคิดไปเองว่าพระที่จำหน่ายในไทยมีแต่ของปลอม 

“เราไม่รู้ว่าคนจีนคุยอะไรกัน แต่ถ้าเขาเข้าใจหลักการเช่าพระของไทย ก็เชื่อว่าจะไม่มีปัญหา แต่ถ้าเขาโดนหลอกมากๆ ก็จะทำให้เขาขยาดและไม่กล้า เพราะที่มาของพระดังกล่าว มันก็อาจจะมีคนไทยเกี่ยวข้องด้วย” 

ส่วนตัวรู้สึกเห็นใจพระเจ้าอาวาสนะ เชื่อว่าท่านก็ไม่รู้อะไรด้วย เพราะการเข้าถึงตัวท่าน ก็ต้องมีคนไทยนำพาเข้ามา ท่านแค่อยากให้ญาติโยมเข้ามาทำบุญ หาเงินเข้าวัด ประเด็นคืออยู่ที่คนจีนที่เข้ามาว่ายื่นผลประโยชน์อะไรให้ท่าน หากท่านเห็นว่าได้ประโยชน์ท่านก็รับ 

เมื่อถามว่า เวลานี้คนจีนเล่นพระประเภทไหน นิยมอย่างไร เก้ อมตะ เผยว่า คนจีนเล่นพระเหมือนคนไทย และ 5 อันดับที่นิยมก็เหมือนคนไทยก็คือ... สำหรับพระเครื่องที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั้งคนไทยและคนจีน ก็คงหนีไม่พ้นชุด “เบญจภาคี” 

...

มูลค่า 5 พระเครื่องมหานิยมของชาวจีน 

อันดับ 1 สมเด็จวัดระฆัง และ สมเด็จวัดบางขุนพรหม ราคาเฉลี่ย 100-300 ล้านบาท  

อันดับ 2 พระรอด พิมพ์ใหญ่ กรุมหาวัน จ.ลำพูน ทั่วไป ราคาเฉลี่ย 50-200 ล้านบาท  

อันดับ 3 พระซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่ กำแพงเพชร ราคาเฉลี่ย 50-100 ล้านบาท  

อันดับ 4 พระนางพญา พิมพ์ใหญ่ พิษณุโลก ราคาเฉลี่ย 50-100 ล้านบาท  

อันดับ 5 พระผงสุพรรณ หน้าแก่ กรุวัดพระศรีมหาธาตุ ราคาเฉลี่ย 25-100 ล้านบาท

**คิดจากราคาขายในจีน**

อ้างอิง : เก้ อมตะ เซียนพระชื่อดัง 

“พระทั้ง 5 องค์นี้คือพระที่ได้รับความนิยมและมีราคาสูงตลอดกาล โดยเฉพาะพระสมเด็จวัดระฆังเวลานี้ราคาอยู่ที่ 20-40 ล้านบาท หากสภาพดี 50-60 ล้านบาท แต่หากไปขายที่จีนราคาจะพุ่งไป 3-5 เท่า ราคาเฉลี่ยที่ 100-300 ล้านบาท ขณะที่พระรุ่นอื่นๆ จะราคาอยู่ที่ 5-40 ล้านบาทไทย ไปจีนก็ 50-200 ล้าน” 

เมื่อถามว่า มีพระใน 5 อันดับเหล่านี้อยู่ในมือคนจีนบ้างไหม เก้ อมตะ เผยว่า มี... โดยเฉพาะผู้ที่ถือครองพระสมเด็จฯ ซึ่งเชื่อว่าคนเดียวไม่สามารถถือครอง 5 องค์ได้ อาจจะมีแบบสลับๆ กัน ซึ่งเท่าที่ทราบข่าวก็ทราบว่าใครนำไปปล่อย แต่ไม่ทราบว่าปล่อยให้มหาเศรษฐีคนใด 

...

ส่วนพระใหม่ที่ได้รับความนิยม เก้ อมตะ ไล่เรียงดังนี้ 

1.หลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน 

2.หลวงพ่อจื่อ วัดเขาตาเงาะอุดมพร 

3.พระอาจารย์โชติ วัดพุทไธศวรรย์ 

เก้ อมตะ กล่าวว่า ตอนนี้พระเครื่องรุ่นใหม่ที่ได้รับความนิยม และผู้ที่ปลุกเสกยังมีชีวิตอยู่ มี 3 วัด คือ หลวงพ่อพัฒน์, หลวงพ่อจืด และ พระอาจารย์โชติ โดยราคาพระเครื่องจะเริ่มต้นที่หลักร้อยจนถึงแสน โดยพระอาจารย์โชติมีการปลุกเสกองค์พ่อจตุคามรามเทพ ปัจจุบันมีชาวต่างชาติแวะเวียนมาไหว้เยอะ” 

สิ่งที่เป็นห่วง.. ปัจจุบันนี้มีกลุ่มคนที่เล่นพระแท้ได้มาตรฐาน แต่ก็มีบางส่วนที่ตั้งตัวเองเป็นเซียนพระหลอกชาวบ้าน บอกว่าตัวเองมีพระสมเด็จฯ เป็นหีบๆ ซึ่งคนก็หลงเชื่อไปเช่าพระมาองค์ละ 2,000-3,000 บาท บางคนหาช่องทางด้วยการออกใบเซอร์ให้คนที่ถือครองพระอยู่ เขาก็อยากรู้ว่าพระตัวเองแท้หรือเปล่า นี่ก็ไปออกใบเซอร์ให้ คิดค่าออกใบเซอร์แล้วบอกเป็นพระแท้ แต่...พอถึงเวลาชาวบ้านเอาพระไปขายให้ปรากฏว่า “ปลอม” 

...

“ผมจึงแนะนำชาวบ้านคนนั้นที่มาที่ร้าน โดยบอกว่าหากร้านรับออกใบเซอร์เหล่านี้ ยืนยันว่าพระของคุณแท้ เขาต้องรับซื้อพระของคุณ แต่ถ้าออกใบอย่างเดียว แต่ไม่รับซื้อ แบบนี้ไม่ใช่...ถามดูเลยว่าพระสมเด็จฯ เล่นกันราคาเท่าไร หากเขาตีว่าแท้ พี่เสนอขายเขาถูกๆ เลย ว่าเขาซื้อไหม..”. 

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน 

อ่านบทความที่น่าสนใจ