เทรนด์การดื่ม Specialty Coffee ของคนไทยในวันนี้มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากรสชาติและวิธีการดื่มที่ต่างจากกาแฟทั่วไปแล้ว ยังให้ประสบการณ์การดื่มที่ไม่ซ้ำใครอีกด้วย
Specialty Coffee คืออะไร
Specialty Coffee คือกาแฟที่ใส่ใจคุณภาพตั้งแต่กระบวนการเลือกสายพันธุ์ การปลูก ประเทศที่ปลูก ไปจนถึงการคัดเลือกเมล็ด การคั่ว การบด การชง ซึ่งพิถีพิถันในทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้กาแฟรสชาติดีเยี่ยม และมีเอกลักษณ์ เทรนด์การดื่ม Specialty Coffee ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงที่มีการระบาดของโควิดเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากคนใช้ชีวิตอยู่บ้านมากขึ้น จึงทำให้มีเวลาในการชงกาแฟและคัดเลือกกาแฟที่ชอบเพื่อดื่มเองแทนที่การออกไปซื้อกาแฟในร้านทั่วไป
...
กิจจา วงศ์วารี กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทในเครือ อโรม่า กรุ๊ป (Aroma Group) ได้เห็นถึงพฤติกรรมการชงกาแฟดริป ซึ่งเป็นกระบวนการชง Specialty Coffee ที่กลายเป็นหนึ่งในวิถีของผู้รักการดื่มกาแฟในปัจจุบัน จึงได้ร่วมมือกับ Hario (ฮาริโอะ) แบรนด์ผู้ผลิตเครื่องชงกาแฟจากประเทศญี่ปุ่น เปิดตัวร้าน Hario Cafe Bangkok ทั้งหมด 3 สาขาในไทย คือ โชคชัย 4 ธนิยะพลาซ่า (สีลม) และสุขุมวิท 33 เพื่อเปิดประสบการณ์การดื่มกาแฟ Specialty Coffee แก่คอกาแฟชาวไทยให้มากขึ้น
“เราร่วมมือกับ Hario เมื่อปี 2562 ทำให้เราได้แนวคิดจากเขามาค่อนข้างเยอะ ขนาดเราอยู่ในวงการกาแฟแต่ก็ไม่เคยมีความรู้เรื่องกาแฟดริปมาก่อนก็ทำให้เราได้ความรู้เรื่องการเป็น Specialty Coffee มาจากเขาด้วย การเปิด Hario Cafe จึงเป็นการสร้างประสบการณ์ให้คนได้มาเรียนรู้ โดยออกแบบให้ 90% ของร้านเป็น Slow Bar ทำเป็นบาร์แล้วมีบาริสต้ามาชงกาแฟให้ เพื่อสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า ทำให้คนเกิดความอยากรู้และความสนใจว่ากาแฟนี้คืออะไร รสชาติแบบไหน ลูกค้าสามารถบอกได้ว่าชอบรสชาติยังไง เพื่อทำให้ได้กาแฟในรสชาติที่ลูกค้าต้องการ บาริสต้าจะมีการโชว์ว่าแต่ละเครื่องทำรสชาติแบบไหนได้บ้าง เมื่อลูกค้าสนใจก็เกิดการซื้อต่อ บางเครื่องบางดีไซน์ทำจากวัสดุที่ต่างกันก็ให้รสชาติกาแฟที่ต่างกันไป นี่คือสิ่งที่ทำให้เราได้รู้รายละเอียดมากขึ้นจากการได้ร่วมมือกับ Hario”
...
เปิดประสบการณ์สู่โลก Specialty Coffee
นอกจากเปิดประสบการณ์การดิ่มกาแฟ Specialty Coffee ที่โซน Slow Bar แล้ว บาริสต้ายังทำให้ลูกค้าได้รู้จักอุปกรณ์การชงกาแฟแต่ละชนิดมากขึ้น พร้อมทั้งมีการชงสอนกาแฟดริปเพื่อให้ลูกค้าสามารถนำไปชงดื่มเองที่บ้านด้วยตนเองได้ง่ายๆ นอกจากนี้ ยังมีเวิร์กช็อปสอนการชงกาแฟ สอนการเลือกเมล็ดกาแฟที่ดีให้แก่ลูกค้าที่มาซื้ออุปกรณ์ชงกาแฟในร้านอีกด้วย
...
ขณะเดียวกัน ในฐานะที่อโรม่าโดดเด่นด้านการผลิตและจำหน่ายเมล็ดกาแฟ การจับกลุ่ม Specialty Coffee ก็ช่วยผลักดันให้ลูกค้ามาซื้อเมล็ดกาแฟไปชงดื่มเองที่บ้านด้วย โดยมีลูกค้าอย่างน้อย 10% ที่ซื้อเมล็ดกาแฟทั้งของอโรม่าและเมล็ดกาแฟที่นำเข้ามาจากต่างประเทศกลับไปด้วย เพื่อเป็นการเปิดประสบการณ์ลองรสชาติกาแฟหลายๆ แบบ
...
“เรานำเข้าเมล็ดกาแฟคุณภาพดี ราคาแพงจากต่างประเทศมาขายในร้านในราคาที่สมเหตุสมผล เพื่อเป็นการเปิดประสบการณ์ให้ลูกค้าได้ลองสัมผัสด้วยตนเอง เราต้องการตั้งราคาให้สมเหตุสมผลเพื่อให้ลูกค้าได้จับต้องกาแฟดีๆ ได้ เราทำแบบนี้เพื่อให้อุตสาหกรรมกาแฟไทยเติบโตไปด้วยกัน ถ้าลูกค้าเริ่มเข้าใจและได้กินกาแฟดีๆ ก็มาถามเยอะขึ้น พอเริ่มมีหลายคนเรียกร้อง เราก็ดีใจ”
อนาคตของธุรกิจกาแฟในน่านน้ำสีแดง
เมื่อถามถึงการแข่งขันในอุตสาหกรรมกาแฟ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น Red Ocean ที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด เขากลับมองว่าอุตสาหกรรมนี้ในอีก 5 ปีข้างหน้าก็ยังโตได้อีก 100% ถ้าไม่ใช่ต่างคนต่างแข่งขันทำเลียนแบบกัน นอกจากนี้ การทำธุรกิจร้านกาแฟเพียงเพราะแค่เป็นความชอบอย่างเดียวนั้นยังไม่พอ แต่ต้อง “รักและทำอย่างจริงจัง” ไม่ใช่แค่ทำเพราะอยากทำ ก็จะไปรอดได้ยาก
สิ่งที่ทำให้อโรม่า กรุ๊ป สามารถยืนหยัดบนธุรกิจกาแฟไทยมายาวนานจนแบรนด์มีอายุกว่า 60 ปีในวันนี้ คือการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าจะไม่ใช่การปรับตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นองค์กรใหญ่ แต่ทุกการเปลี่ยนแปลงล้วนผ่านกระบวนการศึกษาและดูทิศทางตลาดอย่างถี่ถ้วนเพื่อมองหาช่องทางที่ถนัดแล้วค่อยๆ เดินหน้าปรับตัวไปให้ถึงที่สุด
“ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าไม่เคยมีใครทำเรื่อง Specialty Coffee มาก่อน แต่เราใช้เวลาศึกษามากพอสมควรแล้วเห็นว่ามีความเป็นไปได้เราจึงเริ่มลงมือ ตั้งแต่เราร่วมมือกับ Hario ก็ทำให้ยอดขายเราโตเกือบ 15 เท่า ภายในเวลา 3 ปี เนื่องจากเรามีทิศทางที่ชัดเจนและเราทุ่มเทกับเรื่องนี้เต็มที่”
ความคาดหวังที่กิจจามีต่อ Hario Cafe Bangkok คือการเป็นแหล่งรวมของคนที่ชอบและมีความสนใจในกาแฟ รวมถึงลูกค้ารุ่นใหม่หรือกลุ่มใหม่ ซึ่งพร้อมรองรับทั้งลูกค้าทั้งในรูปแบบ Slow Bar ที่เป็น Specialty Coffee และ Speed Bar ที่เป็นเครื่องเอสเพรสโซ่ เพื่อทำให้เกิดความหลากหลายในการดื่มกาแฟ ซึ่งปัจจุบันมีกลุ่มคนรุ่นใหม่มาดื่มกาแฟจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จึงสะท้อนว่าเป็นเทรนด์ที่กำลังเติบโต จึงอยากให้ทุกคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมกาแฟช่วยกันผลักดันเพื่อสร้างคุณภาพและประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้าในระยะยาว