ในงานวิจัย “การพนันมวยเด็กในประเทศไทย” (2562) โดย ผศ.ดร.รัตพงษ์ สอนสุภาพ และ ดร.อิสรีย์ ภักดิ์ศรีแพง ระบุว่า ประเทศไทย มีค่ายมวย 5,062 ค่าย มีนักมวยอยู่ราว 150,000-200,000 คน มีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ราวร้อยละ 37.2 หรือประมาณ 7,4000 คน

“เด็ก” เหล่านี้คือหนึ่งในกลไกการพนันมวยไทย มูลค่า 4,000-5,000 ล้านบาท จากมูลค่าทั้งหมด 40,000-50,000 ล้านบาทต่อปี

ข้างต้น คือ ผลงานวิจัยที่จัดทำขึ้นเมื่อปี 2562 สะท้อนภาพกีฬามวยไทย ที่แฝงไปด้วยการพนันอย่างแนบแน่น และเป็นที่ยอมรับว่าเป็นเรื่อง “ปกติ” ที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านานแล้ว

แต่ในช่วงหลังมานี้ ได้เริ่มมีนักวิชาการและหลายภาคส่วน พยายามปกป้อง “ชีวิต” ของเด็กๆ เหล่านี้ เพราะกีฬาที่ต้องใช้ร่างกาย ชีวิต เลือดเนื้ออย่าง “มวยไทย” ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบในระยะยาวของชีวิต

...

ธุรกิจ “มวยเด็ก” กับการเดิมพันติดปลายนวม

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ พูดคุยกับ นายดำรงค์ ต่ายทอง หรือ ที่รู้จักกันในนาม “สมิงขาว” นักพากย์มวยไทยชื่อดัง ที่อยู่ในวงการมวยมาหลายสิบปี เผยว่า ปกติแล้ว ในการชกมวยเวทีใหญ่ในกรุงเทพฯ จะไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีขึ้นเวที ฉะนั้น มวยเด็กส่วนมาก จึงกระจายอยู่ตามภูธร

ในเวทีใหญ่ เด็กจะต้องมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 100 ปอนด์ หรือ ราว 45-46 กิโลกรัม ยิ่งเป็นสมัยก่อน โปรโมเตอร์ดังๆ จะเข้มงวดมาก ถ้าใครไม่ผ่านตราชั่งสนามมวย หรือ ไม่ถึง 100 ปอนด์ เขาอาจจะให้กลับบ้านไม่ให้ชก

ฉะนั้น บางค่ายมวยจึงมีเทคนิคก่อนชั่ง เช่น บางคนน้ำหนักยังขาดอยู่ เขาจะให้ไปอาบน้ำก่อนชั่งน้ำหนัก และห้ามเช็ดตัว ให้มาชั่งน้ำหนักทั้งที่ยังเปียกๆ แบบนี้ เพื่อให้น้ำหนักตัวเพิ่ม จะได้ผ่านตราชั่งสนามมวยไปได้...

เบื้องหลังเดิมพันสูง เพราะร่วมลงขันจากหลายส่วน

นักพากย์มวยชื่อดัง เผยว่า ปัจจุบัน “มวยเด็ก” กลายเป็นธุรกิจมากขึ้น นักมวยบางคนเป็นที่จับตา หรือ ชื่นชอบของแฟนมวย จึงทำมีโปรโมเตอร์มากมายอยากจะจัดเวทีให้ขึ้นชก ซึ่งก็แน่นอน ทำให้เกิดการ “เดิมพันติดปลายนวม” ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็ประมาณหลักแสนถึงหลักล้านบาท

“สาเหตุที่เป็นเงินค่อนข้างสูง เพราะเป็นการระดมเงินกัน แม้กระทั่งญาติพี่น้อง คนในหมู่บ้านเดียวกัน บางครั้งมาดูการซ้อมและเห็นว่า ฟอร์มดี ก็ลงเงินลงขันกันใหญ่ ยิ่งมีการโฆษณาว่าจะมีการจัดแข่งขันกันด้วยแล้ว ก็ยิ่งลงเงิน เรียกว่า บางครั้งใครได้เป็นฝ่ายชนะ ต้องมานั่งดูบัญชี เห็นรายชื่อคนวางเดิมพันเป็นหางว่าว”

แต่สำหรับ มวยฝีมือที่แจ้งเกิดจากมวยเด็ก ในอดีตก็มีมากมายหลายคน อาทิ ก้องธรณี, สามารถ พยัคฆ์อรุณ หรือ หนุมาน ศิษย์พ่อหลวง ขึ้นชกในน้ำหนัก 100 ปอนด์ เรียกว่า หาคู่ชกได้ยาก ซึ่งแต่ละคนชื่อมาก่อนตัวด้วยซ้ำ

กลับกัน เป็นสมัยนี้สิ...เรียกว่า “พวกใครพวกมัน...ใครกระเป๋าหนักกว่ากัน ใครเทได้มากกว่า ฝ่ายนั้นก็จะเป็นต่อ”

บางคู่จะจัดการแข่งขันในลักษณะ “คลุมถุงชน” หรือ “มวยซ่อน” คือ มาเปิดหน้าท้าชนกันในช่วงการชั่งน้ำหนักตอนเช้า ซึ่งทำเหมือนไม่รู้จักกันมาก่อน ไม่รู้ว่าคู่ต่อสู้เป็นใคร แต่ในความเป็นจริงนั้น ส่วนมากก็รู้ก่อนชกทั้งนั้น ว่าคู่ต่อสู้เป็นใคร เก่งใช้อาวุธแบบไหน ซึ่งก็ต้องวางกลยุทธ์ในการต่อสู้ เช่น ถ้าเป็นมวยเตะ ก็พยายามยกบังให้ได้

...

“การพนัน” ที่หล่อเลี้ยงวงการมวย?

เมื่อถามว่า ถ้ามวยเด็ก ไม่มีติดปลายนวม วงการมวยจะอยู่ได้ไหม สมิงขาว เชื่อว่า ก็อาจจะยังอยู่ได้ แต่การแข่งขันจะไม่สนุก เพราะบางครั้งการฟิตซ้อม จะเอาใจใส่แตกต่างกัน จะไม่เต็ม 100 ถามว่าชกได้ไหม...ชกได้ แต่ก็จะไปแก้กันบนเวที แต่ถ้ามีเดิมพัน หลักแสน หรือ หลักล้านบาท ทั้งโค้ช คู่ซ้อม ทุกอย่างจะเต็มที่ คนในหมู่บ้าน ตำบล หรือ อำเภอมาร่วมลงขันเดิมพันอีก

“แค่มาดูการซ้อมแล้ว รู้สึกฮึกเหิม ต้องเพิ่มเดิมพันกันแล้วแบบนี้... ซึ่งมวยเด็กสมัยนี้ นอกจากฝีมือแล้ว ยังขึ้นอยู่กับกำลังเงิน และกำลังทรัพย์ ใครจะมากกว่ากัน”

การพนัน มวยไทย และท่าทีของสังคมที่ให้การยอมรับ

สำหรับประเด็นเรื่องการพนันในวงการมวย สมิงขาว บอกว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่รู้กันทั่วอยู่แล้ว ผู้หลักผู้ใหญ่ก็รู้กันหมด เอาจริงๆ หากไม่มีการพนัน เชื่อว่า ต่อให้จัดดีแค่ไหนอาจจะไม่มีคนมาดูก็ได้ เวลานี้ ก็แทบจะแย่งกันจัดการแข่งขัน เพราะมีการพนันทั้งนั้น ยิ่งช่วงโควิดกำลังซาลงไป แบบนี้ยิ่งต้องจัด เพราะแฟนหมัดมวยเขายอมตีตั๋วเข้ามา ส่วนหนึ่งก็เพราะต้องการมาเล่นการพนัน

...

“การซื้อตั๋วเข้าสนามมวย มี 2 รูปแบบ คือ ตั๋วแบบกีฬา กับ ตั๋วการพนัน ซึ่งค่าตั๋วเข้าชมมวยไม่ได้มีราคาถูกเลย...”

บางคนไม่ได้อยู่ในวงการหมัดมวย อาจจะรู้สึกว่า “มวยเด็ก” เป็นการทรมาน แต่ใน เซียนมวย อาจจะมีความศรัทธามวยเด็กในลีลาการชก ในขณะที่ตัวเด็ก ก็เป็นการสร้างอาชีพที่ครอบครัวให้การสนับสนุน เพราะนอกจากจะได้เงินแล้ว ยังสามารถห่างไกลจากยาเสพติด หรือ กลายเป็นนักเลง เกเร ซึ่งยิ่งเป็นยุคสมัยนี้
ได้โพสต์ภาพ คลิป ลงโซเชียลฯ ได้ มันจะรู้สึกเท่ ภาคภูมิใจที่หาเงินได้”

นักมวยเด็ก มาจากครอบครัวที่ยากจน?

เมื่อถามว่าจริงไหม เด็กที่อยู่ในวงการมวย ส่วนใหญ่มาจากครอบครัวที่ยากจน นายดำรงค์ กล่าวว่า จะเรียกว่าจนก็ไม่ถึงขั้นนั้น ส่วนมากกว่า 70% เด็กมาจากครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง ที่ต่อสู้ชีวิต ทำมาหากินตามปกติ โดยมากจะมาจากชนบท ส่วนลูกคนที่รวยหน่อย บางคนเขาก็สนใจ 20-30%

เงินพนันในวงการมวยไทย มวยเด็ก VS ผู้ใหญ่

เมื่อถามว่า เท่าที่กะเกณฑ์ คิดว่าวงการมวย มีเงินพนันหมุนเวียนปีละประมาณกี่บาท ผู้คร่ำหวอดในวงการมวยอย่าง สมิงขาว ยอมรับว่า ประเมินได้ยากมาก ว่าจะมีเงินเท่าไร เบื้องต้นคาดว่า น่าจะมีมากกว่าหลายพันล้านบาท/ปี เพราะมวยบางคู่ แค่เดิมพันฝ่ายละ 1-2 ล้านบาทแล้ว

...

หากเทียบสัดส่วนระหว่าง มวยเด็ก และ มวยผู้ใหญ่ การเดิมพันส่วนมากไปลงกับมวยอะไร นักพากย์มวยชื่อดังเชื่อว่า เงินเดิมพันจะไปลงกับมวยเด็กราว 35% มวยผู้ใหญ่ราว 65%

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา มีการเรียกร้องให้ยกเลิก หรือ เปลี่ยนกติกา สำหรับมวยเด็ก เพราะห่วงสมองได้รับการกระทบกระเทือน สมิงขาว มองว่าเป็นไปได้ และเชื่อว่าคนที่ไม่ได้อยู่วงการมวย ก็จะคิดแบบนี้ทุกคน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งปัจจุบัน การแข่งขันมวยสำหรับเด็กก็มีอุปกรณ์ป้องกันในการเซฟอยู่ เช่น ขนาดของนวม หรือ แม้แต่อุปกรณ์ป้องกันการบาดเจ็บ ส่วนตัวมองว่าก็น่าจะดีระดับหนึ่งแล้ว

เข้าสนามมวยต้องระวังภาษามือเล่นพนัน

สมิงขาว กล่าวว่า ภาษามือในวงการมวย จะมีความแตกต่างกันแต่ละที่ ซึ่งเซียนมวยจะรู้จักกันดี หากต้องการศึกษาจริงๆ คงต้องเข้าไปดูในสนามมวย โดยพื้นฐานคือ ถ้าคว่ำมือลง ก็จะเล่นฝ่ายเป็นต่อ ส่วนหงายมือก็จะเล่นฝ่ายเป็นรอง ส่วนสัญลักษณ์ จะเน้นใช้นิ้วชี้ เป็นหลัก ประมาณ 80-90%

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน 

อ่านสกู๊ปที่น่าสนใจ