เมื่อ TikTok ขยายธุรกิจ จนกลายเป็นผู้ท้าชิงที่น่าจับตาในตลาดสตรีมมิงเพลง ที่มี Spotify และ Apple Music ครอบครอง...

หลังกวาดต้อนเหล่า Gen Z รวมถึงสามารถ “ตีชิง” รายได้จากค่าโฆษณา จนกระทั่งทำให้บรรดาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ “หวาดผวา” ล่าสุด “TikTok” ได้ประกาศเดินเกมรุกเข้าสู่ตลาดสตรีมมิงเพลงที่มีมูลค่ามากกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมี “สปอติฟาย” (Spotify) และ “แอปเปิล มิวสิก” (Apple Music) เป็นขาใหญ่ครอบครองส่วนแบ่งการตลาดแล้ว

ภยันอันตรายจากการคุกคามของ TikTok น่าเกรงขามมากน้อยเพียงใด สำหรับทั้ง “Spotify” และ “Apple Music” วันนี้ “เรา” ลองไปไล่เรียงข้อมูลเพื่อค้นหา “คำตอบ” ที่ว่านั้นกันดู 

...

Music Streaming War 

ส่วนแบ่งการตลาดสตรีมมิงเพลง : 

จากรายงาน The IMS Business report 2023 ของ “MIDiA Research” บริษัทวิเคราะห์อุตสาหกรรมบันเทิงระดับโลก ระบุว่า “อุตสาหกรรมสตรีมมิงเพลง” (Music Streaming) ปี 2022 มียอดผู้ติดตามรวมทั่วโลก 616.2 ล้าน Subscribers โดยแยกเป็น... 

1. Spotify : 187 ล้าน Subscribers (30.5%)

2. Apple Music : 84 ล้าน Subscribers (13.7%)

3. Tencent Music : 82.7 Subscribers (13.4%)

4. Amazon Music : 82.2 ล้าน Subscribers (13.3%)

5. Youtube Music : 55.1 ล้าน Subscribers (8.9%)

6. NetEase : 37.6 ล้าน Subscribers (6.1%)

7. Other : 13.9%

โดย Spotify ยังคงเป็นผู้เล่นหลักในธุรกิจแพลตฟอร์มสตรีมเพลง โดยครองส่วนแบ่งยอด Subscribers เป็นอันดับที่หนึ่ง โดยแชร์ส่วนแบ่งได้มากถึง 1 ใน 3 อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องจับตา คือ Tencent Music และ NetEase แพลตฟอร์มสัญชาติจีน ที่ค่อยๆ เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่ Spotify และ Apple Music ไม่ได้ถูกแบนในประเทศจีนก็ตาม  

มูลค่าตลาดสตรีมมิงเพลง : 

MIDiA Research ระบุว่า ปี 2022 ภาพรวม “อุตสาหกรรมดนตรีโลก” ค่อยๆ เริ่มฟื้นตัวจากปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 เมื่อช่วง 2 ปีก่อนหน้า โดยมีรายได้รวมทั่วโลกประมาณ 31,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1 ล้านล้านบาท) โดยธุรกิจสตรีมมิงเพลง สามารถทำเงินได้มากที่สุดที่ประมาณ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (681,600 ล้านบาท) หรือคิดเป็นสัดส่วนถึง 64.1% ของรายได้จากอุตสาหกรรมเพลงเมื่อปีที่ผ่านมา ขณะที่ยอดขาย Physical (เทป ซีดี และแผ่นเสียง) อยู่ที่เพียงประมาณ 4,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (149,952 ล้านบาท) หรือคิดเป็นเพียง 14.10%  

ฐานแฟนเพลงที่กำลังเติบโต :  

จากข้อมูลของ MIDiA Research ฐาน Fanbase ของดนตรีแนว Electronic music กำลังเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย TikTok มีอัตราการเติบโตมากกว่าแนว Hip Hop ซึ่งครองตลาดมาเนิ่นนานถึง 10 เท่า! (ยอด followers ดนตรีแนว Electronic music เพิ่มขึ้นถึง 21% ส่วน Hip Hop อยู่ที่เพียง 2%)   

อย่างไรก็ดี สำหรับแพลตฟอร์มสตรีมมิงเพลงอันดับหนึ่งอย่าง Spotify ดนตรีแนว Hip Hop ยังคงได้รับความนิยมมากกว่า โดยได้ ยอด Followers เพิ่มขึ้น 24% ส่วน Electronic music อยู่ที่ 13%  

...

Spotify : 

ตามรายงานผลประกอบการไตรมาสแรก ปี 2023 “Spotify” มีจำนวน Active users รวมทั้งสิ้น 515 ล้าน Users โดยแบ่งเป็น 317 ล้าน Users ที่เป็นสมาชิกแบบรับชมโฆษณา ส่วนอีก 210 ล้าน Users ที่เป็น Premium Subsribers (เสียเงินรายเดือน) โดยกลุ่มอายุที่เป็น Premium Subsribers มากที่สุด คือ กลุ่มอายุ 25-34 ปี โดยคิดเป็นสัดส่วน 29%

สำหรับค่าบริการรายเดือน อยู่ที่ 10.99 ดอลลาร์สหรัฐ โดยจะเริ่มเก็บเงินหลังจากสิ้นสุดการทดลองให้ใช้บริการฟรี 1 เดือน สำหรับรายได้ปี 2022 ของ “Spotify” อยู่ที่ 11,720 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Apple Music : 

“Apple Music” มีจำนวนผู้ใช้งานรวมทั้งสิ้น 88 ล้าน Users โดยกลุ่มอายุที่ใช้มากที่สุด คือ กลุ่มอายุ 25-34 ปี โดยคิดเป็นสัดส่วน 23%  

...

สำหรับค่าบริการรายเดือน อยู่ที่ 10.99 ดอลลาร์สหรัฐ โดยจะเริ่มเก็บเงินหลังจากสิ้นสุดการทดลองให้ใช้บริการฟรี 1 เดือน สำหรับรายได้ปี 2022 ของ “Apple Music” อยู่ที่ 8,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ผู้ท้าชิง TikTok Music (Beta) : 

ล่าสุด “TikTok Music” ได้ทยอยปล่อยตัว Beta ให้ทดสอบแล้ว 5 ประเทศ ประกอบด้วย  

1. ประเทศออสเตรเลีย โดยคิดค่าบริการ 11.99 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (277 บาท) ต่อเดือน 2. ประเทศเม็กซิโก คิดค่าบริการ 115 เปโซเม็กซิโก (232 บาท) ต่อเดือน 3. ประเทศสิงค์โปร์ คิดค่าบริการ 9.9 ดอลลาร์สิงค์โปร์ (255 บาท) ต่อเดือน 4. ประเทศอินโดนีเซีย 49,000 รูเปียห์ (112 บาท) ต่อเดือน 5. ประเทศบราซิล 16.9 เฮอัล (123 บาท) ต่อเดือน

สำหรับค่าบริการ TikTok Music ที่มีการระบุไว้ในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการนั้น สำหรับแพ็กเกจ Individual Plan ในช่วงปล่อยตัว Beta จะคิดค่าบริการเพียง 8.99 ดอลลาร์สหรัฐ (306 บาท) จากราคาจริง 11.99 ดอลลาร์สหรัฐ (408 บาท) ต่อเดือน โดยจะคิดค่าบริการหลังใช้งานฟรี 3 เดือน และไม่มีบริการ “รับฟังเพลงฟรีแลกโฆษณา” 

...

เหตุใด TikTok Music จึงเป็นคู่แข่งที่น่าวิตก : 

จำนวนผู้ใช้งาน TikTok ปัจจุบัน : 

จำนวนผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน TikTok ปัจจุบัน มีจำนวนผู้ใช้งาน 1,600 ล้าน Users สำหรับรายได้ปี 2022 อยู่ที่ 9,401 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (320,386 ล้านบาท) 

แล้วเหตุใด “จำนวนผู้ใช้งาน” ของ TikTok จึงกลายเป็นประเด็น?

อ้างอิงจากข้อมูลล่าสุดจากการวิเคราะห์ของ “Datareportal” เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ระบุว่า “จำนวนการเข้าถึงผู้ชมโฆษณาที่เผยแพร่ผ่าน Self Service Tools ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป” มีจำนวนมากมายถึง 1,092 ล้าน Users! นอกจากนี้ กลุ่มอายุที่ใช้งาน TikTok มากที่สุด คือ กลุ่มอายุ 18-24 ปี (Gen Z) โดยคิดเป็นสัดส่วนถึง 34.9% อีกด้วย! หรือพูดง่ายๆ “กลุ่มคนรุ่นใหม่” กำลังเติบโตมากับการเล่น TikTok ซึ่งมี “เพลง” เป็น “หมัดฮุก” เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกิจวัตรประจำวันนั่นเอง

อิทธิพลของ TikTok ที่กำลังปกคลุมอุตสาหกรรมดนตรีโลก :

Businessinsider รายงานว่า ปัจจุบันเพลงที่ติดเทรนด์บน TikTok จะติดชาร์ต Billboard 100 หรือ Spotify Viral 50 นอกจากนี้ “เพลงฮิตในอดีต” ยังสามารถย้อนกลับมาอยู่ในความสนใจของบรรดาคนรุ่นใหม่ได้อีกครั้ง หลังมันถูก “อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังทั่วโลก” หยิบฉวยมาใช้ในการผลิตคอนเทนต์

ด้าน Musicbusiness Worldwide (MRC Data) ผู้ให้บริการข้อมูลเชิงวิเคราะห์สำหรับธุรกิจเพลงและผู้บริโภค ระบุอีกด้วยว่า จากการศึกษาเมื่อปี 2021 พบว่า ผู้ใช้งาน TikTok มากถึง 67% มีแนวโน้มที่จะไปค้นหาเพลงใน Music streaming ต่างๆ เพื่อรับฟังเวอร์ชันเต็ม หลังได้รับฟังเพลงบน TikTok ด้วย หรือเรียกได้ว่า ปัจจุบัน TikTok กำลังกลายเป็น “ช่องทางสำคัญสำหรับโปรโมตเพลงฮิต” ในยุคนี้ก็คงไม่ผิดนัก!

การแย่งชิง “ลูกค้า” จาก Spotify และ Apple Music : 

นักวิเคราะห์ทางการตลาดในสหรัฐฯ เชื่อมั่นว่าการที่ TikTok Music จะแย่งชิงลูกค้ามาจากเจ้าตลาดอย่าง Spotify และ Apple Music ไม่น่าเกิดขึ้นได้ง่ายนัก เนื่องจากเหล่า Gen Y และ Gen X ฐานลูกค้าคนสำคัญของทั้ง 2 แพลตฟอร์มนั้นมีความภักดีต่อแบรนด์สูง

แต่กับบรรดาผู้ที่อยู่ในระบบนิเวศของ TikTok การยอมจ่ายเงินให้กับ TikTok Music นั้น ดูจะเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าและแม้ว่าในช่วงแรกๆ TikTok Music อาจไม่ถึงกับสามารถขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดได้ในทันที แต่ก็น่าจะสามารถ “แชร์ส่วนแบ่ง” ได้ในระดับหนึ่งแน่นอน จากฐานผู้ใช้งาน “TikTok” ที่กำลังเติบโตมากขึ้นๆ ในทุกๆ วัน   

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน 

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง