"ลิโอเนล เมสซี" ชายผู้สร้างปรากฏการณ์ เพิ่มมูลค่าตลาดให้กับ MLS...
21ก.ค.23 บัตรเข้าชมมากกว่า 21,000 ใบ ซึ่งเต็มความจุสนาม Drive Pink Stadium ของ “สโมสรอินเตอร์ ไมอามี” (Inter Miami) ถูกจำหน่ายหมดเกลี้ยง ทั้งๆ ที่ “ราคา” สำหรับผู้ปรารถนาจะเข้าไปรับชมเกมระหว่าง "อินเตอร์ ไมอามี" และ "สโมสรครูซ อาซูล" (Cruz Azul) จากเม็กซิโก ในศึกลีกคัพ (การฟาดแข้งระหว่างสโมสรจากลีกสหรัฐฯ, แคนาดา และเม็กซิโก) ณ วันดังกล่าว มี “ราคาสูงสุด” สำหรับที่นั่งใกล้ขอบสนามถึง 32,737 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 1,128,444 บาท! ส่วนราคาต่ำสุดอยู่ที่ 314 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 10,823 บาท หรือ คิดเป็นค่าเฉลี่ยต่อบัตร อยู่ที่ 1,294 ดอลลาร์สหรัฐ (44,604) ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นถึง +2021% จากราคาเฉลี่ยปกติเมื่อฤดูกาลก่อน (61 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 2,102 ดอลลาร์สหรัฐ)
...
เหตุใด...ชาวสหรัฐฯ ที่จนถึงทุกวันนี้ ยังเรียก “กีฬาฟุตบอล” แตกต่างจากชาวโลกว่า “ซอคเกอร์” ถึงใคร่อยากดูสโมสรที่ ณ ปัจจุบัน อยู่ในอันดับรั้งท้ายของสายตะวันออก ศึก Major League Soccor หรือ MLS กันมากมายขนาดนี้ “คำตอบ” ของ “คำถาม” ที่เกริ่นมาเสียยืดยาวจนถึงบรรทัดนี้ก็คือ....ถูกต้อง! “ลิโอเนล เมสซี” เพราะนี่คือ...การสัมผัสพื้นหญ้าบนแผ่นดินสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก ของ “บุรุษมหัศจรรย์” ที่พรากถูกแชมป์เมเจอร์หลักในโลกใบนี้ มาไว้ในอ้อมกอดเสียจนหมดสิ้นแล้ว!
มหาบุรุษแห่งอาร์เจนตินา “สร้างปรากฏการณ์” อะไรขึ้นบ้างแล้ว? หลังก้าวเท้าเหยียบแผ่นดินสหรัฐอเมริกาวันนี้ “เรา” ไปเฝ้าสังเกตการณ์ “แรงสั่นสะเทือน” ที่ว่านี้ร่วมกัน!
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง :
Messi Phenomenon
1. ราคาบัตรเข้าชมสโมสรอินเตอร์ ไมอามี :
หลังมีการยืนยันอย่างชัดเจนว่า “ลิโอเนล เมสซี” ตกลงปลงใจอยู่กินกับ “อินเตอร์ ไมอามี” ราคาบัตรเข้าชมไม่ว่าจะเป็นทั้งเกมเหย้า หรือเกมเยือนของสโมสรแห่งนี้ ได้กลายร่างเป็น “Rare item” ขึ้นมาในบัดดล!
โดยสโมสรอินเตอร์ ไมอามี ซึ่งก่อตั้งและเข้าร่วมลีกเป็นครั้งแรกเมื่อฤดูกาล 2019/2020 มี “ค่าเฉลี่ยราคาบัตรเข้าชมต่อฤดูกาล” ในยามเล่นเกมเหย้าและเกมเยือนอยู่ที่ประมาณเพียง 66-61 ดอลลาร์สหรัฐ (2,240-2,102 บาท) เท่านั้น!
แต่แล้ว...หลังการมาถึงของ “เมสซี” ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปทันที โดยปัจจุบัน (24ก.ค.23) ตามรายงานของเว็บไซต์ Ticketiq.com ระบุว่า “ค่าเฉลี่ย” ราคา Resale บัตรเข้าชมการแข่งขันเกมเหย้าของ อินเตอร์ ไมอามี อยู่ที่ประมาณ 280 ดอลลาร์สหรัฐ หรือพุ่งขึ้นจากราคาเฉลี่ยปกติถึง +459%! ส่วน “ค่าเฉลี่ย” ราคา Resale บัตรเข้าชมการแข่งขันเกมเยือน อยู่ที่ประมาณ 340 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ เพิ่มขึ้นถึง +558%!
...
ทั้งนี้ ราคา Resale บัตรเข้าชมการแข่งขันของสโมสรอินเตอร์ ไมอามี นัดต่อไป ที่กำลังทะยานขึ้นไปจนแทบสูงเสียดฟ้าแล้วก็คือ นัดที่จะเผชิญหน้ากับ "สโมสรแอล เอ เอฟซี" แชมป์ MLS ฤดูกาลที่แล้ว ในวันที่ 3 กันยายน
โดยปัจจุบัน (24 ก.ค.23) ตั๋วเข้าชมการแข่งขันนัดดังกล่าว ที่มีราคาถูกที่สุดอยู่ที่ประมาณ 518 ดอลลาร์สหรัฐ (17,855 บาท) และสูงสุดอยู่ที่ 12,000 ดอลลาร์สหรัฐ (413,640 บาท) หรือมีค่าเฉลี่ยต่อใบที่ประมาณ 2,023 ดอลลาร์สหรัฐ! (69,732 บาท) แล้ว
2. Social Media :
ภายหลัง สโมสรอินเตอร์ ไมอามี ประกาศยืนยันได้ตัว “เมสซี” 100% ยอดผู้ติดตามอินสตาแกรมของสโมสร “พุ่งสูงขึ้น” อย่างชนิดไม่หยุดยั้ง โดยล่าสุด (24ก.ค.23) IG ของสโมสรซึ่งเดิมเคยมียอดผู้ติดเพียง 1 ล้าน Follower ได้เพิ่มเป็น 11.8 ล้าน Follower หรือ เพิ่มขึ้นมากกว่า 10 ล้าน Follower จากอิทธิพลของอัจฉริยะหมายเลข 10 แห่งอาร์เจนตินาผู้นี้แล้ว!
...
โดยยอดผู้ติดตาม IG ของ อินเตอร์ไมอามี นั้น นอกจากจะสูงที่สุดในลีก MLS แล้ว ยังเป็นรองเพียง "ทีมโกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส" (31ล้าน Follower) , "ลอส แอนเจลิส เลเกอร์ส" (23ล้าน Follower) และ "คลิฟแลนด์ คาวาเรีย" (15.9ล้าน Follower) ยักษ์ใหญ่แห่งอเมริกันเกม ณ เวลานี้เท่านั้น
3. จุดสนใจของเหล่าเซเลบ :
เหล่าเซเลบคนดังของสหรัฐฯ แห่ไปปรากฏตัวในนัดประเดิมสนามของ “เมสซี” มากหน้าหลายตา ไม่ว่าจะเป็น “เลอบรอน เจมส์” (LeBron James) นักบาสเกตบอลที่เก่งที่สุดในโลก...หลัง “ไมเคิล จอร์แดน” ประกาศรีไทร์ (Oops!) ที่ถึงขั้นแฝงตัวเนียนๆไปทักทาย “เมสซี” ในแบบสุดใกล้ชิด และได้สวมกอดแสดงการต้อนรับอย่างอบอุ่นเสียด้วย
...
นอกจากนี้ ยังมีคนดังอย่าง “คิม คาร์เดเชียน” The Reality Star และลูกชายผู้ชื่นชอบกีฬาซอคเกอร์, “เซเรนา วิลเลียมส์” (Serena Williams) อดีตนักเทนนิสหญิงอันดับหนึ่งของโลกที่อุ้มท้องมาดูฟุตบอลนัดนี้กับสามี, “มาร์ค แอนโทนี” (Marc Anthony) นักร้องนักแต่งเพลงชื่อดัง, รวมไปจนกระทั่งถึง เจ้าของร่วมสโมสรอินเตอร์ ไมอามี “เดวิด และ วิคตอเรีย เบคแคม” ที่มาร่วมนั่งลุ้นถึงขอบสนาม
4. มูลค่าทีมอินเตอร์ ไมอามี เพิ่มสูงขึ้น :
จากการประเมินล่าสุดของ Forbes "สโมสรอินเตอร์ ไมอามี" ซึ่งมีรายได้เมื่อปี 2022 ที่ประมาณ 56 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1,930ล้านบาท) และมีผลการดำเนินงานที่ “ขาดทุน” 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (172ล้านบาท)
มีมูลค่าสโมสร ณ ปี 2023 ที่ประมาณ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (20,682 ล้านบาท) โดยถือเป็นสโมสรที่มีมูลค่าสูงสุดในลำดับที่ 11 ของลีก MLS
ส่วนสโมสรที่มีมูลค่า "สูงที่สุด" ในลีก MLS คือ "สโมสร แอลเอ เอฟ.ซี." (Los Angeles FC) ซึ่งมีรายได้เมื่อปี 2022 ที่ประมาณ 116 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (3,998ล้านบาท) และมีผลการดำเนินงาน “กำไร” 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (275ล้านบาท)
และมีมูลค่าสโมสร ณ ปี 2023 ที่ประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (34,470ล้านบาท) โดยถือเป็นสโมสรฟุตบอลที่มีมูลค่าเกิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นสโมสรแรกในลีกนับตั้งมีการก่อตั้ง MLS เป็นต้นมา
ขณะที่สโมสรที่ "มูลค่าน้อยที่สุด" ในลีก คือ "สโมสรโคโลราโด ราปิดส์" ที่มีมูลค่าเพียง 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (12,064ล้านบาท)
สำหรับ “ค่าเฉลี่ย” ของมูลค่าทีมใน MLS ทั้ง 29 สโมสร ณ ปี 2023 นั้น อยู่ที่ประมาณ 579 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (19,958ล้านบาท)
อย่างไรก็ดี จากแนวโน้มที่ในแง่บวกที่ได้จากทั้ง “อินเตอร์ ไมอามี” (การปรากฏตัว เมสซี) และ แอลเอ เอฟ.ซี. (ดัชนีความนิยมที่เพิ่มสูงขึ้น) รวมถึงการเทเงินจำนวนมหาศาล สำหรับการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ เพื่อเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2026 และที่สำคัญที่สุด คือ เงินที่ได้จากการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดของ Apple มูลค่า 2,500 ล้านดอลลาร์ (86,175ล้านบาท) ภายในระยะเวลา 10 ปี ทำให้บรรดานักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่าสำหรับ “ฤดูกาลนี้” มูลค่าตลาด MLS น่าจะขยายตัวได้อย่างมีนัยสำคัญ
เป้าหมายของอินเตอร์ ไมอามี หลังการมาถึงของ เมสซี :
“Jorge Mas” หนึ่งในสามเจ้าของร่วมสโมสรอินเตอร์ไมอามี วางเป้าหมายสำหรับทีมเอาไว้ว่า ภายในปี 2024 ทีมจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 1,300-1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ เพิ่มขึ้นจากปีนี้ 116-150% หลังการประเดิมสนามของ “เมสซี” สามารถทำให้เกิดแรงกระเพื่อมให้กับ MLS ได้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจากทั้งบรรดาผู้ให้การสนับสนุน และยอดขายสินค้าที่ระลึกต่างๆ โดยเฉพาะ “เสื้อสโมสร” ที่มีหมายเลข 10 และชื่อของ “เมสซี” ปักไว้ด้านหลัง
ที่ปัจจุบัน...ถูกขายหมดเกลี้ยงแทบจะในทันทีที่มีการวางจำหน่าย แม้ว่า “อาดิดาส” (Adidas) จะพยายามเพิ่มจำนวนการผลิตเพื่อเร่งการส่งมอบจากเดิมที่ต้องใช้เวลา 6 เดือน ให้เหลือเพียง 3 เดือน เพื่อให้เท่าทันกับยอดจองซื้อจำนวนมหาศาลก็ตาม!
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
กราฟิก : Sathit Chuephanngam
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง