ใครเป็นสายมูตัวจริง ต้องรู้จักป่าคำชะโนด หรือวังนาคินทร์คำชะโนด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี บนพื้นที่เกาะลอยน้ำที่เต็มไปด้วยต้นชะโนด สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นประตูสู่เมืองบาดาล ดินแดนพญานาค ที่ปู่ศรีสุทโธและย่าศรีปทุมมาพำนักอยู่

หลายคนเดินทางมากราบไหว้ขอพรในเรื่องการงาน สุขภาพ ขอโชคลาภ ให้โชคดี ร่ำรวย ทำมาค้าขึ้น และหนึ่งในพิธีกรรมสำคัญ ต้องสักการะปู่ศรีสุทโธ หลายคนประสบผลสำเร็จตามพรที่ขอ มีการบอกต่อๆ กันถึงความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่แห่งนี้ จนโด่งดังทั่วประเทศ ทำให้วันนี้ผู้คนต่างเดินทางมากราบไหว้บูชากันเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง 

...

แต่มีอีกหนึ่งเรื่องราวลี้ลับ อาถรรพณ์ที่เล่าขานกันมานาน ทำให้ผู้คนรู้จักคำชะโนด นั่นคือตำนานผีจ้างหนัง มีชายคนหนึ่งเดินทางไปตัวเมืองอุดรธานี เพื่อว่าจ้างหน่วยฉายหนังเร่แจ่มจันทร์ภาพยนตร์ ไปฉายที่หมู่บ้าน แต่กลับมีข่าวไปฉายหนังในป่าคำชะโนด แล้วฉายให้ใครดู

แม้ผ่านมา 35 ปี ผู้คนก็ยังคงนึกถึงเรื่องเล่าตำนานผีจ้างหนัง อะไรที่ทำให้วันนี้ยังคงถูกพูดถึง ติดตามในภารกิจ “See True ให้คุณเห็นความจริง” ว่าเรื่องเล่านี้จะเป็นเพียงข่าวลือ หรือเป็นตำนานเรื่องจริง แต่ได้ทำให้การถวายฉายหนังกลางแปลง เป็นที่นิยมในการแก้บน นอกเหนือจากการถวายชุดพานบายศรี หรือถวายนางรำ โดยมีรถหน่วยฉายหนังกลางแปลง เจ้าของตำนานผีจ้างหนัง จอดให้บริการอยู่บริเวณด้านหลัง  

คนกวักมือ พาไปจุดฉายหนัง ขนหัวลุกอยู่ไม่ได้ ผีหลอกทั้งคืน

การพิสูจน์ให้เห็นความจริง เริ่มต้นจากการสอบถามข้อมูลจาก เฮียเบิ้ม หรือธงชัย แสงชัย เจ้าของแจ่มจันทร์ภาพยนตร์ แต่น่าเสียดายที่เฮียเบิ้มไม่สามารถให้สัมภาษณ์ได้เนื่องจากปัญหาสุขภาพ จึงพูดคุยกับป้าแจ่มจันทร์ แสงชัย ภรรยาของเฮียเบิ้ม และธีรภพ เชียงดี ผู้เป็นหลานชาย กับตำนานผีจ้างหนัง จากข้อมูลที่ได้มามีการยืนยันได้ไปฉายหนังจริงตามสัญญาว่าจ้าง โดยผู้จ้างคือ จำปา คำแก้ว จนเกิดเรื่องราวต่างๆ ตามมา

“ธีรภพ เชียงดี” หลานชายเจ้าของแจ่มจันทร์ภาพยนตร์ ระบุเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2531 มีผู้ชายคนหนึ่งไปที่บริษัท เพื่อทำการว่าจ้างให้ไปฉายหนังที่หมู่บ้านวังทอง และได้ตกลงราคาทำสัญญาว่าจ้างเป็นที่เรียบร้อย แล้วเดินทางไปหมู่บ้านวังทอง เมื่อไปถึงจุดได้มีผู้ชายคนหนึ่งออกมากวักมือเรียกบอกว่า “มานี่ๆ จะพาไปชี้จุดฉายหนัง" พอถึงเวลา 3 ทุ่ม ตามสัญญาว่าจ้าง ได้มีคนบอกว่าให้เริ่มฉาย จนถึงเวลาตี 4 มีคนมาบอกให้หยุดฉาย แล้วให้เก็บของ เพราะถ้าสว่างจะออกเดินทางยาก ปรากฏว่าคนที่นั่งดูหนังไม่รู้ไปไหน

กระทั่งวันที่ลูกจ้างกลับมาบริษัท มีการยื่นเงิน 3,500 บาท ทุกคนพูดว่า "เฮียผมขอลาออก ผมไม่อยู่แล้ว ผมอยู่ไม่ได้ ผีหลอกทั้งคืน" เช่นเดียวกับ ป้าแจ่มจันทร์ แสงชัย บอกว่า เมื่อมีข่าวลือออกมา จึงมีการพิสูจน์ ตามหา ก็ไม่รู้ว่าไปไหน

...

คนจ้างหนัง ยืนยันให้ไปฉายในหมู่บ้าน ไม่ใช่ป่าคำชะโนด

เพื่อให้ได้ข้อมูลอีกด้าน จึงเดินทางมาที่หมู่บ้านวังทอง เพื่อพบกับ "ลุงจำปา คำแก้ว" ผู้ถูกระบุว่าเป็นคนจ้างหนังให้ผีดู เมื่อ 35 ปีก่อน ยืนยันไปจ้างหนังมาฉายกับน้องชาย เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แม่ ไม่ได้แก้บน ตกลงกันที่ราคา 3,500 บาท มัดจำไป 500 บาท ให้มาฉายที่หมู่บ้านจนถึง 6 โมงเช้า โดยนั่งดูหนังอยู่ด้วยตั้งแต่ครั้งแรก ซึ่งในยุคนั้นคนนิยมชอบดูหนัง

ลุงจำปา ยังย้ำอีกว่าจ้างหนังมาฉายที่หมู่บ้านวังทอง ไม่ได้จ้างไปฉายที่คำชะโนด อีกทั้งรถฉายหนังไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะถนนเป็นขี้โคลน พร้อมพาไปจุดที่ฉายหนัง เคยมีชาวบ้านทั้งหมู่บ้านมาดูกัน และชาวบ้านในพื้นที่ก็ต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกัน

35 ปีก่อน รถฉายหนัง เข้าไปในป่าคำชะโนด ได้อย่างไร?

การฉายหนังในค่ำคืนวันที่ 20 ธ.ค. 2531 ยังคงเป็นปริศนาว่าทำไมรถฉายหนังของแจ่มจันทร์ภาพยนตร์ ถึงเข้าไปในป่าคำชะโนดได้ ทั้งๆ ที่รถเข้าไปไม่ได้ และจากข้อเท็จจริงทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งคนจ้างกับคนฉาย มีการจ้างและไปฉายหนังจริง ทั้งจากหลักฐานสัญญาว่าจ้าง และจากปากของผู้ว่าจ้าง

...

หรือเหตุการณ์ผีจ้างหนังน่าจะเป็นคนละเหตุการณ์กัน แต่เรื่องราวทั้ง 2 เหตุการณ์ถูกเชื่อมโยง จนกลายเป็นตำนานเรื่องเล่าที่ทำให้คำชะโนดเป็นที่รู้จัก กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนต่างเคารพและศรัทธา เป็นสถานที่แห่งความหวัง ความเชื่อ จะช่วยให้ชีวิตพบเจอแต่ความสำเร็จ หากมาที่คำชะโนด รวมถึงเรื่องเล่าผีจ้างหนังที่เป็นตำนานมานาน 35 ปี และยังคงพูดถึงกันอยู่จนถึงปัจจุบัน อาจไม่มีข้อพิสูจน์ได้ชัดว่าในค่ำคืนนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง

...

แต่นำมาสู่ความเชื่อของผู้คนในการฉายหนังถวายแด่ปู่ศรีสุทโธ และย่าศรีปทุมมา หากประสบผลสำเร็จจากพรที่ขอไว้ และมีสิ่งหนึ่งที่พิสูจน์ให้เห็นความจริงแล้วว่า คำชะโนด ได้กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่กับความเชื่อ ความศรัทธาของผู้คนที่มากราบไหว้ และจะยังคงอยู่ตลอดไป ติดตาม #ข่าวแสบเฉพาะกิจ รายการวาไรตี้ข่าวสุดแสบ จะพิสูจน์ ตรวจสอบ พร้อมลงทุกพื้นที่ ขยี้ทุกความจริง ทุกวันเสาร์ 6 โมงเย็น ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32.