แคล้ว ธนิกุล หรือเจ้าพ่อนครบาล ถูกสังหารบนถนนเส้นทางกลับบ้านเกิด จ.สมุทรสงคราม เมื่อ 32 ปีก่อน เป็นการปิดฉากเจ้าพ่อคนสุดท้าย ขึ้นชื่อว่าแคล้วคลาดมานับไม่ถ้วน โดยเฉพาะเหตุระเบิดในสนามมวย ที่คนร้ายมุ่งเป้าดับชีวิต แต่พลาดเป้า จนมาครั้งสุดท้ายถูกประกบยิงบนรถพรุนไปทั้งคัน แม้แคล้วจะอม "สมเด็จวัดระฆัง" ไว้ในปาก แต่คมกระสุนก็เข้าจุดสำคัญ จนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

ไม่ได้ใหญ่คับฟ้า... ขึ้นชื่อว่าเจ้าพ่อนครบาล แคล้ว ธนิกุล ยุครุ่งเรืองไม่ว่าขยับไปทางไหน มีแต่คนรุมล้อม แต่นั่นก็แฝงด้วยภัยอันตรายที่เบอร์หนึ่งอย่างเขาอาจคาดไม่ถึง ดังนั้นทุกฝีก้าว จึงต้องมีลูกน้องฝีมือดีคอยประกบไม่ห่าง

เส้นทางเจ้าพ่อเบอร์ 1 หักเหชีวิตจากชั้นเรียนหนังสือ มุ่งสู่กรุงเทพฯ มาอาศัยกับพี่สาว ย่านสวนมะลิ เส้นทางลูกผู้ชายนำแคล้วเข้าสู่ค่ายมวย ก่อนได้รู้จักเพื่อนสนิทในค่ายดังกล่าว แต่กลิ่นสาปนวมไม่พอต่อยอดให้ชีวิตมั่งมีด้วยเงินทอง

ด้วยอุปนิสัยเป็นคนใจกว้าง ทำให้มีลูกน้องมากมาย ชื่อของ แคล้ว ธนิกุล ปรากฏขึ้นบ่อยครั้งในวงการมวย แต่เส้นทางเซียนมวยสมัยนั้น กล่าวกันว่าเคี่ยวขนาดเอาถึงตาย แต่ชั้นเชิงของแคล้วก็ผ่านหลายจุดเสี่ยงตาย จนสามารถเปิดค่ายมวย "ส.ธนิกุล" และนี่เป็นจุดหักเหสำคัญในชีวิตเจ้าพ่อนครบาล สร้างชื่อเสียงให้คนนอกวงการรู้จัก "เฮียเหลา สวนมะลิ" ซึ่งเป็นชื่อที่คนสนิทยุคบุกเบิกเรียกแคล้ว จนติดปาก

...

ยุคที่แคล้ว ยังไม่ได้ก้าวขึ้นเบอร์ 1 เจ้าพ่อนครบาล เส้นทางของเขา ไปทับเส้นฝ่ายตรงข้าม จนคมกระสุนอาจไม่เพียงพอดับเสี้ยนหนามอย่างเขา...

2 เม.ย. 2525 เสียงตูม! สนั่นของระเบิดแสวงเครื่องทำให้คู่มวยต่อไปที่เรียงแถวกันดวลหมัด ต้องหยุดลง สนามมวยลุมพินี ที่มีทางเข้าออกไม่กี่จุดยัดเยียดไปด้วยแฟนมวยที่หนีตาย ศึกดังทะลุฟ้ามหากุศล ของยอดโปรโมเตอร์ ที่เต็มไปด้วยนักการเมืองระดับวีไอพี และผู้มีอิทธิพล บัดนี้นองไปด้วยคราบเลือด จากผู้ไม่หวังดีโยนระเบิดใส่กลางสนามมวย เพื่อหวังฆ่าแคล้ว

แต่ขึ้นชื่อว่าเจ้าพ่อเบอร์ 1 ก็มุดหนีออกมาพร้อมกับลูกน้อง ในสนามมวยลุมพินี หลังสิ้นความโกลาหล รองเท้าที่แฟนมวยทิ้งไว้กองเป็นภูเขาย่อมๆ เพราะศึกมวยครั้งนั้นมีผู้เข้าชมกว่า 5 พันคน แรงระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 5 คน หนึ่งในนั้นคือ พันตำรวจตรี สุรศักดิ์ โลหะชาละ สารวัตรแผนกฝึกอบรม กองกำกับการอำนวยการ กองบังคับการนครบาลเหนือ กองบัญชาการตำรวจนครบาล

เสียงระเบิดตูมนั้นเป็นเหมือนการหยามศักดิ์ศรี มือระเบิดถูกจับได้ทันควัน มีการซัดทอดไปถึงเพื่อนสนิทของ เต็งโก้ เจ้าพ่ออีสาน คู่อริของ แคล้ว ธนิกุล ไม่นานหลังจากนั้น เต็งโก้ ถูกลอบสังหารด้วยฝีมือคนสนิทแคล้ว

เส้นทางของแคล้วก้าวสู่จุดสูงสุด ทั้งวงการการค้าขาย และค่ายมวย "ส.ธนิกุล" ที่ปั้นนักมวยยอดฝีมือหลายคนมาประดับวงการ ถือเป็นโปรโมเตอร์ผู้กว้างขวางสามารถเจรจาให้นักมวยในอีกสังกัดสนามมวยข้ามมาต่อยกับอีกเวทีได้ และก้าวขึ้นสู่การเป็นนายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ทำให้แสงไฟจากสื่อทั่วประเทศจับจ้องมาที่แคล้ว

บนถนนแห่งอำนาจ เมื่อมีขึ้นย่อมมีลง... การก้าวเข้ามาเป็นใหญ่ทางการเมืองของคนมีสี เริ่มทำให้แคล้วตระหนักว่า เพียงขุมอำนาจที่มีอยู่อาจไม่เพียงพอต่อกรกับสิ่งที่เกิดขึ้น จึงเตรียมตัวเล่นการเมือง และเริ่มหาเสียงในพื้นที่บ้านเกิด

5 เม.ย. 2534 บนถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี รถกระบะขับมาด้วยความเร็ว ปลายทางคือสมุทรสงคราม ผืนดินที่อดีตเจ้าพ่อจากมา โดยคนขับรถเจ้าของฉายามือปืนระดับพระกาฬ "ตี๋ ดำเนิน" ส่วนเบาะด้านหลัง แคล้ว นั่งอย่างสบาย จู่ๆ มีรถประกบข้าง สาดกระสุนสงครามชุดใหญ่ ทั้ง เอ็ม 16 ปืนอาก้า และเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 จนสภาพรถพรุน กระจกแตกละเอียดยับคาถนน

...

ภาพรถกระบะที่พรุนไปด้วยกระสุน ทำเอาคนที่พบเห็นเย็นยะเยือกไปกับความโหดเหี้ยมที่เกิดขึ้น เมื่อเปิดประตูฝั่งคนขับ เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วพวงมาลัยรถ ไม่ทันที่มือปืนระดับพระกาฬจะลั่นไกสู้ ความตายจากคมกระสุนนับร้อยก็พรากชีวิตไปเสียก่อน ส่วนแคล้ว ที่อยู่เบาะหลัง นั่งงอคุดคู้ ไร้สัญญาณตอบรับ เมื่อพลิกร่างเจ้าพ่อนครบาล ก็พบ "พระสมเด็จวัดระฆัง" ค้างอยู่ในปาก บัดนั้นพุทธคุณก็หลุดลอยไปพร้อมภาพสุดแสนอนาถ ปิดฉากเจ้าพ่อนครบาล ผู้มากด้วยบารมี

...

32 ปี ปมสืบสวนเหตุการดักยิง แคล้ว ธนิกุล เป็นปริศนาถึงทุกวันนี้ แม้มีการตั้งข้อสังเกตถึงต้นเหตุความขัดแย้งกับลูกนักการเมืองยุคนั้น ไปจนถึงหนี้สินจากบ่อนการพนัน แต่ปมเหตุที่สร้างความกระอักกระอ่วนใจให้กับเจ้าหน้าที่คือ การออกมาประกาศกวาดล้างผู้มีอิทธิพลในยุคนั้น โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (รสช.)

32 ปี สิ้นเสียงปืน และดับเจ้าพ่อนครบาล ผู้มีอิทธิพลถูกเปลี่ยนบทบาทไปตามยุคสมัย แต่จุดจบล้วนไม่ต่างกัน เพราะสุดท้าย ไม่มีใครได้ใหญ่คับฟ้า...