28 ปีก่อน คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าแหม่มสาวชาวอังกฤษ โจแอน มาเชเตอร์ ตำรวจไทยแทบพลิกแผ่นดินค้นหา ก่อนพบเธอถูกฆาตกรรม ด้วยเงื้อมมือพระในวัดแห่งหนึ่ง จ.กาญจนบุรี อำพรางศพ ทิ้งภายในถ้ำ คดีนี้ใช้เวลาสืบหาอยู่นาน จนพบเบาะแสสำคัญ ว่ามีรองเท้าเดินป่า 1 คู่หายจากกระเป๋าเดินทางผู้ตาย นั่นทำให้มีการตามหา ลากตัวฆาตกรมาลงโทษได้

28 พ.ย. 2538 บัณฑิตสาวชาวอังกฤษ โจแอน มาเชเตอร์ เดินทางมาพักผ่อนในไทย โดยขอทางครอบครัวว่า อยากมาชื่นชมแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ เป็นของขวัญหลังจบการศึกษา แต่การเดินทางไกลครั้งนี้ ไม่มีใครรู้ว่าเป็นครั้งสุดท้ายของแหม่มสาว

ล่วงเข้าสู่ศักราชใหม่ปี 2539 ครอบครัวโจแอน ที่อังกฤษ เริ่มวิตกกังวลกับการหายตัวไปของเธอในไทย เพราะหลังการติดต่อครั้งสุดท้าย ว่าเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลแห่งหนึ่ง เธอก็หายไป

...

แม้ก่อนเดินทางมา ให้สัญญาว่า จะกลับไปฉลองปีใหม่กับที่บ้าน การหายตัวไปของแหม่มสาว ทำให้ครอบครัวต้องจ้างนักสืบเอกชนอังกฤษเข้ามาไทย เพื่อสืบหาเบาะแส การหายตัวไปของโจแอน ส่งผลต่อภาพลักษณ์ท่องเที่ยวไทย ทำให้ตำรวจระดมกำลังตามหา โดยเริ่มค้นหาในสถานที่พัก ถนนข้าวสาร กรุงเทพฯ จุดสำคัญที่ครอบครัวระบุว่า เธอได้เข้ามาพักในย่านนี้ แต่การค้นหากลับไม่พบชื่อของเธอในการเข้าพัก ขณะเดียวกันมีการติดประกาศรูปภาพโจแอนในพื้นที่ต่างๆ

ยุคนั้นการติดป้ายประกาศตามโรงแรม และแหล่งท่องเที่ยว เป็นเครื่องมือสำคัญในการตามหา จนตำรวจพบข่าวดี เพราะฝรั่งหนุ่มรายหนึ่งแจ้งว่า พบโจแอน เดินทางมาท่องเที่ยวบนเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี และพบว่าเข้าพักในโรงแรม หาดทรายแก้ว จ.ระยอง เป็นเวลา 5 วัน จากนั้นเช็กเอาต์ เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2538

การสืบหาเชิงลับ ดำเนินต่อไป จนพบกระเป๋าเดินทางโจแอน ฝากไว้กับบริษัทท่องเที่ยวในถนนข้าวสาร กรุงเทพฯ บนกระเป๋าเดินทางพบติดสติกเกอร์ การบินไทย เที่ยวบิน ทีจี ซิดนีย์ - กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่รับฝากของระบุว่า เธอมาฝากกระเป๋าเดินไว้ ก่อนไปเที่ยวเชียงใหม่ เกาะสมุย และเกาะเสม็ด ครั้งสุดท้ายพบวันที่ 12 ธ.ค. 2538

เบาะแสสำคัญกลับอยู่ในกระเป๋าเดินทางของโจแอน ภายในพบฟิล์มภาพถ่าย ในการเดินทางเที่ยวป่าเขา เชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน

แต่...รองเท้าในกระเป๋า ที่เธอนำมา 3 คู่ กลับมีคู่หนึ่งเป็นรองเท้าเดินป่าหายไป มีการตั้งข้อสันนิฐานว่า โจแอน อาจใช้ช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนกลับบ้านเกิด ไปแหล่งท่องเที่ยวเดินป่าไม่ไกลจากกรุงเทพฯ จากความสงสัย ทำให้พบเบาะแสใหม่ว่า โจแอน เดินทางมา จ.กาญจนบุรี เข้าพักในเกสต์เฮาส์ ก่อนหายตัวไป

นี่เป็นร่องรอยการค้นหา เข้าใกล้ผู้สูญหายมากที่สุด โดยพบว่าวันที่โจแอน หายไป ได้เช่าจักรยาน ปั่นไปท่องเที่ยวในพื้นที่ ตำรวจดำเนินการค้นหา จนไปพบจักรยานของเธอจอดไว้บริเวณปากถ้ำ วัดถ้ำเขาปูน เบื้องต้นได้ค้นหาภายในถ้ำ แต่ไม่พบเธอ จึงทำการสอบพยานในพื้นที่

ถ้ำดังกล่าวตั้งอยู่ไม่ไกลจากกุฏิ พระยอดชัด ขณะนั้นวัย 21 ปี เคยมีประวัติกระทำผิดพยายามข่มขืนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จนติดคุกมาแล้ว หลังจากออกมาจึงได้มาบวช เมื่อค้นกุฏิ ตำรวจถึงกับผงะ เพราะพบยาบ้า 3 เม็ด ไม้คมแฝก ที่มีคราบเลือด และมีดปลายแหลม จึงควบคุมตัวไปสอบสวนความจริง

...

บิดา ของโจแอน เดินทางด่วนมาจากอังกฤษ เพื่อค้นหาความจริง สุดท้ายมีการค้นพบร่างของเธอบริเวณเหวลึก 50 เมตร ชาวบ้านเรียกจุดนี้ว่า ถ้ำทิ้งหมา เพราะเวลาสัตว์เลี้ยงเสียชีวิต จะนำมาโยนทิ้งในเหวนี้

หลังทำการสึก อดีตพระยอดชัด ได้ถูกสอบสวน จนรับสารภาพว่า วันที่ 10 ธ.ค. 2538 โจแอน เดินมายังถ้ำดังกล่าว ขณะที่ตนคอยเก็บเงินนักท่องเที่ยวก่อนเข้าถ้ำ ด้วยความที่แหม่มสาวหน้าตาดี และมีทรัพย์สิน จึงออกอุบายให้เดินไปยังเหวลึก ไม่ไกลจากถ้ำ และกระชากกระเป๋า เพื่อชิงทรัพย์ แต่ผู้ตายต่อสู้ จึงผลักตกเหว และเพื่อให้แน่ใจ ได้ปีนลงไปก้นเหว ก่อนใช้หินทุบศีรษะผู้ตาย ขุดหลุมฝัง แม้ได้เงินติดตัวผู้ตายเพียง 500 บาท

คดีนี้ทำให้วงการศาสนาต้องวางมาตรการเข้มงวด ในการตรวจสอบประวัติของพระที่มาบวชใหม่ จุดจบของคดี ศาลมีคำสั่งให้ประหารชีวิต อดีตพระยอดชัด แต่ได้รับการลดหย่อนโทษ เป็นจำคุกตลอดชีวิต ต่อมาได้ล้มป่วยภายในเรือนจำ และเสียชีวิตอย่างไร้อิสรภาพ

28 ปี คดีโจแอน ยังคงสะท้อนภาพอาชญากรในสังคมไทย โดยเฉพาะผู้ที่กระทำผิดซ้ำ หากไม่มีแนวทางดูแลอย่างเข้มงวด พลิกฟื้นให้คนเหล่านี้กลับตัวกลับใจ อาจมีจุดจบไม่ต่างจากคดีนี้.

...