อีกหนึ่งตำนานคดี “แหกคุก” ครั้งร้ายแรงที่สุด สำหรับการก่อเหตุจลาจล จับผู้คุมเป็นตัวประกัน และพยายามแหกคุกใน จ.สกลนคร

3 นาทีคดีดัง โดย ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จะพาทุกท่านย้อนรอยเหตุการณ์ การแหกคุกเมื่อเกือบ 40 ปีที่แล้ว...

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2528 เกิดจลาจลภายในคุก จ.สกลนคร แก๊งนักโทษคดีอุกฉกรรจ์ 13 คน นำโดย นช.ทองพูน สายวงศ์ นช.อุดม พานิจ นช.ประมวล เพ็ญสุวรรณ รวมตัวก่อความวุ่นวาย หวังจะ “แหกคุก” แก๊งนักโทษจับ เหล็กขูดชาร์ป ตะไบ เหล็กแป๊บ แปลงเป็นอาวุธ โดยมีระเบิดชนิด “เอ็ม 26” รวม 3 ลูก

อาศัยจังหวะที่ นายบรรเจิด พลับพลึง ผบ.เรือนจำสกลนคร เข้ามาร่วมงานปีใหม่ภายในเรือนจำ โดยจัดอาหารเลี้ยงนักโทษ ก่อเหตุจับเป็นตัวประกัน พร้อมผู้คุมอีก 5 คน ซึ่ง 1 ใน 5 คือผู้คุมหญิง ก่อนจะควบคุมตัวผู้คุมได้ ได้ร่วมกับเพื่อนนักโทษก่อเหตุวุ่นวาย จุดไฟเผา ทำให้ต้องเรียกหน่วยดับเพลิงมาดับไฟ จากนั้นได้บุกออกมาจนถึงแดนรับเยี่ยม ซึ่งเหลือเพียงประตูเหล็กหน้าประตู ที่ขวางกั้นอิสรภาพนักโทษเหล่านี้

พ.ต.อ.นภา ปาณิกบุตร ผู้กำกับ สภ.เมืองสกลนคร (ในขณะนั้น) ได้เป็นตัวแทนเข้าเจรจากับกลุ่มนักโทษ โดยมีเจ้าหน้าที่กลุ่มใหญ่ควบคุมสถานการณ์ภายนอก...

ระหว่างนั้นมีนักโทษคนหนึ่งขว้างระเบิดออกมาจากกำแพงคุก ระเบิดลอยไปหากลุ่มตำรวจ กลุ่มตำรวจแตกฮือ วิ่งหนีตาย แต่...เดชะบุญ ระเบิดด้าน ไม่บึม!

...

การเจรจาเกลี้ยกล่อมยังดำเนินต่อไป… แต่ก็ดูทีท่าจะไร้ผล กลุ่ม นช.เรียกร้องขอปืน 1 กระบอก รถยนต์เติมน้ำมันเต็มถัง และเปิดประตูเรือนจำ

2 ชั่วโมงผ่านไป เวลา 14.00 น.

ได้คำตอบ เมื่อปลายสายจาก นายสนิท รุจิณรงค์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ยื่นคำขาดว่า “ห้ามปฏิบัติตามข้อเรียกร้องนักโทษเด็ดขาด! พร้อมคำสั่งว่า ให้เจรจาถ่วงเวลาให้นานที่สุด”

กลุ่มนักโทษจึงใช้แผนกดดัน “สุดโหด” นำผ้าขาวม้าผูกมือตัวประกันทั้งหมดให้อยู่รวมกัน จากนั้นได้มี นช.รายหนึ่งกุมระเบิดไว้ และล็อกคอ นายบรรเจิด ผบ.เรือนจำ เพื่อข่มขู่ผู้คุม และเจ้าหน้าที่นับร้อย ยืนดูบริเวณหน้าเรือนจำ

3 ชั่วโมงผ่านไป

เวลา 15.00 น. กำลังทหารเข้าประจำการ โดยมี ฮ. 2 ลำบินวนอยู่

5 ชั่วโมงผ่านไป

เวลา 17.00 น. นายตำรวจใหญ่มาถึงประชุมวางแผน ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับกลุ่มทหาร และตำรวจได้นำกำลังจำนวนหนึ่งปีนกำแพงเข้าไปเรือนนักโทษ เพื่อทำการต้อนนักโทษที่เหลือเข้าห้องขัง ไม่ให้เดินเพ่นพ่าน

ฟ้าเริ่มมืด ไฟฟ้าในเรือนจำถูกตัด เหลือเพียงสปอตไลต์ 2 ดวงใหญ่ สาดส่องเข้าไป เจ้าหน้าที่ใช้แผน “ตัดน้ำประปา” เพื่อให้กลุ่มนักโทษเกิดการกระหายน้ำ และหวังจะวางยาสลบในน้ำ แต่แผนตื้นเขินแบบนี้ นักโทษย่อมรู้ทัน กลุ่มนักโทษไม่ยอมกินน้ำที่ให้...

แต่ท่าทีพวกนักโทษจากที่แข็งกร้าว ก็เริ่มอ่อนลงจากอาการอ่อนแรงเพราะขาดอาหาร อาหารและน้ำส่งรอดเข้ากรงเหล็กอีกครั้ง โดยแก๊งนักโทษนั่งตรงกลาง และให้ตัวประกันนั่งล้อมวงขวางวิถีกระสุน

เวลา 19.55 น. พล.อ.สิทธิ จิรโรจน์ รมว.มหาดไทย ได้โทรทางไกลเข้าโทรศัพท์บ้าน ผบ.เรือนจำ สั่งการผ่าน พ.ต.อ.นภา ให้ปฏิบัติตามดังนี้

1.พยายามเกลี้ยกล่อม
2.ห้ามรับเงื่อนไขทุกกรณี และยื่นคำขาดให้นักโทษปล่อยตัวประกัน
3.ถ้าเกิดเหตุการณ์สมควรแก่ให้เหตุ ให้รับคำสั่งจาก รมว.มหาดไทย

11 ชั่วโมงผ่านไป

เวลา 23.00 น. อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ร่วมคณะวางแผน เวลานั้นนักโทษตะโกนออกมา จะขอเจรจา เรียกร้องขอเสื้อกันหนาว น้ำร้อน ยาอม เนื่องจาก ผบ.เรือนจำ จะเป็นลม และผู้คุมหญิงมีอาการหนาวสั่น แต่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ที่เป็นผู้บัญชาเหตุการณ์ ปฏิเสธทันที เพราะทำตามคำสั่ง รมว.มหาดไทย พร้อมยื่นคำขาด
“หากนักโทษคนใดคิดหนี จะให้เจ้าหน้าที่ยิงทันที!”

...

เวลา 01.00 น. เข้าสู่วันปีใหม่ พลแม่นปืนประจำตำแหน่ง ล็อกเป้าหัวโจกกลุ่มนักโทษคดีปล้นฆ่า และหัวหน้าแก๊งยาเสพติด

18 ชั่วโมงผ่านไป

เวลา 06.00 น. วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2529 นายพีระ บุญจริง ผวจ.สกลนคร เดินทางกลับจากกรุงเทพฯ เป็นคนเข้าไปเจรจากับคนร้าย ต้องการรถตู้น้ำมันเต็มถัง ปืน 2 กระบอก พร้อมกระสุน

“ถ้าไม่ได้...ก็จะตัดสินใจเอง” นี่คือคำขาดจากฝั่ง 13 นช.

เวลา 07.30 น. เจ้าหน้าที่พาพ่อแม่ นช.สมเกียรติ มาเกลี้ยกล่อม แต่...นักโทษอีกคนชูระเบิดขึ้น ประกาศลั่นให้ถอยไป!
“ให้เวลาจนถึง 10 โมง หากไม่ยอม จะฆ่าตัวประกันทิ้ง!!”

สถานการณ์ตึงเครียดถึงขีดสุด

เวลา 09.25 น. กลุ่มนักโทษเริ่มแง้มประตูออกมา อธิบดีกรมราชทัณฑ์ก็เกลี้ยกล่อม ให้ยอม กลุ่มนักโทษก็ยังไม่ยอม โดยแง้มเปิดเข้าออกถึง 4 ครั้ง

22 ชั่วโมงผ่านไป

เวลา 10.05 น. นช.ทองพูน แง้มประตูออกมาครั้งที่ 5 โดยล็อกคอ ผบ.เรือนจำไว้ จังหวะที่ นช.ทองพูน ชะล่าใจ นายบรรเจิด ผบ.เรือนจำ ที่แกล้งทำท่าทีอิดโรย ก็ฉวยโอกาสสะบัด นช.ทองพูน จนหลุด และวิ่งหนีออกมา

นช.ทองพูน กำระเบิดเอ็ม 26 อยู่ จะวิ่งตาม แต่..ไปสะดุดเหล็กกั้นประตู

เสี้ยววินาทีนี้เอง... ปัง ปัง! เจ้าหน้าที่ยิงปืนขึ้นฟ้าให้สัญญาณ

หน่วยแม่นปืนกดเปรี้ยง! กระสุนพุ่งเจาะเข้าหัวใจอย่างแม่นยำ นช.ทองพูน เสียชีวิต ระเบิดในมือก็คลายออก ตูม!!

สะเก็ดระเบิดเข้าหน้าอก นายบรรเจิด ได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่ถึงสาหัส

...

เสียงระเบิดที่ดังขึ้น... เหมือนสัญญาณปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่ทั้งทหาร ตำรวจ ยิงหูดับตับไหม้เข้าใส่คนร้าย ตัวประกันที่เหลือพรางหมอบหลบวิถีกระสุน

ช่วงเวลานี้เอง ผู้คุมหญิงได้ฉวยจังหวะวิ่งหนีออกมาจนพ้นประตูหนีรอดมาได้ คนร้ายอีกคนถลาออกมา ก็ถูกยิงดับเป็นรายที่สอง กลุ่มนักโทษระส่ำระสาย คิดว่าไม่น่าจะรอดความตายไปได้ จึงกระแทกระเบิดในมือ กะตายพร้อมกันทั้งหมด

ตูม!! เสียงระเบิดดังขึ้นเป็นครั้งที่สอง ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังระดมยิงอย่างหูดับตับไหม้ต่อ

10 นาทีผ่านไป จึงมีคำสั่งหยุดยิง เมื่อเข้าตรวจสอบ นักโทษตายทันที 8 ศพ หายใจรวยริน ค่อยๆ สิ้นใจตายตามไปอีก 2 ส่วนอีก 2 คน เดินชูมือยอมจำนน

ส่วนผู้คุมเรือนจำที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ได้รับบาดเจ็บทุกคน คนที่สาหัสที่สุด คือ นายสมพงษ์ เจริญเลิศ ถูกสะเก็ดระเบิด ขาขวาเป็นแผลเหวอะ ต้องถูกตัดขาในเวลาต่อมา

ส่วน ผบ.เรือนจำ ซี่โครงหัก 2 ซี่ ที่เหลือก็ถูกสะเก็ดระเบิดตามตัว ซึ่งแพทย์ได้รักษาจนพ้นขีดอันตราย

เมื่อนับจำนวนนักโทษแล้ว... พบว่า หายตัวไป 1 เจ้าหน้าที่ระดมค้นหา คาดว่าอาจหนีไปซ่อนตัว แต่..ไม่ใช่ เพราะเขาคนนั้นได้กลายเป็นศพไปแล้วตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 31 ธันวาคม เชื่อว่าเกิดการทะเลาะกันเอง จึงถูกฆ่า

...

คดีนี้ แม้ 2 นักโทษ ที่รอดพ้นห่ากระสุนไปได้ แต่ไม่รอดชีวิต

เมื่อมีรายงานต่อมาจากเจ้าหน้าที่ว่า 2 นักโทษพยายามจะหลบหนีช่วงชุลมุนเก็บศพ จึงถูกยิงตาย?

2 นักโทษชายที่ยอมจำนน แต่เสียชีวิตภายหลัง กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึง แต่...ไม่นานนักเรื่องก็เงียบหาย สำหรับปฏิบัติการปราบจลาจล “แหกคุก” ในสกลนคร ใช้เวลา 22 ชั่วโมงในการคลี่คลาย

แต่ปัญหา...ซ้ำซากเกี่ยวกับคุก ก็ยังคงอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะปัญหาคุกแออัด.

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน