จี ดรากอน (G-Dragon) รอยทางสู่การมุ่งหน้าสู่พรมแดนใหม่ K-POP Metaverse หลังการเป็นพันธมิตรกับ Start Up ที่กำลังจะกลายร่างเป็นยูนิคอร์น ที่มีชื่อว่า Galaxy Corp. การปรากฏตัวของ “ควอน จี ยง” (Kwon Ji Yong) หรือชื่อที่ “คุณ” รู้จักเป็นอย่างดีในนาม “G-Dragon” แห่ง BIGBANG ที่สถาบันชั้นสูงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกาหลี (Korea Advanced Institute of Science and Technology) หรือ KAIST ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่มีชื่อเสียงลำดับต้นๆ ของประเทศเกาหลีใต้ ในฐานะผู้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ศาสตราจารย์อาคันตุกะ” (Visiting Professor) ของแผนกวิศวกรรมเครื่องกล นอกจากจะกลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลกแล้ว “อะไรคือประเด็นที่น่าสนใจ” ซึ่งถูกสอดแทรกภายใต้สัญญะแห่งการ “Come Back” ของไอคอนแห่งวงการ K-POP ผู้นี้อีกบ้าง? วันนี้ “เรา” ลองไปตามดูย่างก้าวของ “ศาสตราจารย์อาคันตุกะจี ดรากอน” ซึ่งบางทีอาจเป็น “รอยทางสำคัญ” ที่จะนำไปสู่เค้าลางการ Come Back ในรอบ 7 ปี ของ GD ที่ว่ากันว่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ (ปี 2024) ด้วยกันดีกว่า….“ในตอนที่ผมเป็นเด็ก ผมมักถูกบอกว่าผมเป็นอัจฉริยะ แต่ไม่ใช่เลย นักศึกษาที่ KAIST ต่างหากคืออัจฉริยะที่แท้จริง ถ้าเราได้ออกไปเที่ยวด้วยกัน บางทีเราอาจสามารถเรียนรู้จากกันและกันได้ แม้ว่าเราจะไม่ได้เรียนสาขาเดียวกัน และผมหวังว่าจะเป็นที่ปรึกษาและให้กำลังใจพวกเขา สำหรับการท้าทายสิ่งใหม่ๆ ด้วยความคิดสร้างสรรค์” จี ดรากอน กล่าวในระหว่างพบปะกับนักศึกษา KAIST Professor G-Dragon KAIST เปิดเผยว่า ในฐานะศาสตราจารย์อาคันตุกะของภาควิศวกรรมเครื่องกล ภายในระยะเวลา 2 ปี (สิ้นสุดเดือนมิถุนายน ปี 2026) นอกจาก “จีดรากอน” จะรับหน้าที่เป็น Global Ambassador เพื่อช่วยโปรโมตสถาบันในต่างประเทศแล้ว GD จะรับหน้าที่เข้าไปบรรยายเรื่องความเป็นผู้นำและแบ่งปันประสบการณ์ในฐานะศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลก เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับบรรดานักศึกษาระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอกยิ่งไปกว่านั้น ไอดอลหนุ่ม วัย 35 ปี จะมีส่วนร่วมในงานวิจัย Digital Twin Technology สำหรับศิลปิน K-POP ซึ่งงานวิจัยดังกล่าวจะเป็นการบูรณาการเนื้อหาทางด้านศิลปะและวัฒนธรรม ไปประยุกต์ให้เข้ากับเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น AI, หุ่นยนต์, Metaverse หรือแม้กระทั่งการพัฒนาอวตารของศิลปินโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง (Volumetric Capture, Motion Capture, Haptics) ของ Entertech Research Center ในภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกลด้วย อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะยังไม่มีตารางการทำงานร่วมกับ KAIST ออกมาอย่างเป็นทางการ แต่สื่อในเกาหลีใต้ รายงานว่า ภายในปีนี้ (ปี 2024) กิจกรรมดังกล่าวทั้งหมดของ GD จะเริ่มต้นขึ้นได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะการเข้าบรรยายในชั้นเรียนให้กับนักศึกษาของ KAIST เส้นทางใหม่ของ G-Dragon เมื่อไรเราจะได้พบกัน? “เร็วๆ นี้” หลังประกาศไม่ต่อสัญญากับ YG Entertainment และเว้นวรรคจาก Mini Album ล่าสุด “Kwon Ji Yong” (ปี 2017) ไปเนิ่นนานร่วม 7 ปี ล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ GD เพิ่งออกมาเปิดเผยว่า “อัลบั้มใหม่” ในฐานะ “ศิลปินเดี่ยว” น่าจะสามารถเปิดตัวได้ในช่วงครึ่งหลังปี 2024 ซึ่งสอดคล้องกับคำว่า “Coming Soon” ที่เจ้าตัวพูดกับนักศึกษาของ KAIST ในงานดังกล่าว อย่างไรก็ดี เส้นทางของ GD ภายใต้ต้นสังกัดใหม่ Galaxy Corp. ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนา AI และ Metaverse แห่งแรกของเกาหลีใต้ กำลังถูกจับตามองจากแฟนเพลงทั่วโลกทุกฝีก้าว นั่นเป็นเพราะ... “Galaxy Corp.” ภายใต้การบริหารงานของ “ชเว ยง โฮ” (Choi Yong Ho) ผู้บริหารหนุ่มวัยเพียง 35 ปี กำลังเป็นหนึ่งในบริษัทที่ร้อนแรงที่สุดของประเทศในเวลานี้ GD X Galaxy Corp. GD เพิ่งเซ็นสัญญากับ Galaxy Corp. เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2023 โดยข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับผลงานใหม่ ที่สื่อของเกาหลีใต้รายงานออกมาจนถึงขณะนี้ ยังคงมีเพียงว่า การทำงานร่วมกันของทั้งสองฝ่ายจะเป็นไปในรูปแบบการผสมผสานคอนเทนต์บันเทิงเข้ากับเทคโนโลยี AI และ Metaverse ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแพลตฟอร์ม AI Fandom ที่เป็นการพัฒนาร่วมกับ KAIST หากแต่ Project ที่ “น่าจับตามองมากที่สุด” สำหรับย่างก้าวไปสู่พรมแดนใหม่ ของ “จี ดรากอน” คือ คอนเสิร์ต AI Metaverse ครั้งแรกที่โดมขนาดยักษ์ ซึ่งถูกโอบล้อมด้วยจอ LED อย่าง “Sphere Dome” ที่ลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ของ GD ที่คาดการณ์ว่าน่าจะเกิดขึ้นในช่วงประมาณปลายปี 2024 นี้!Galaxy Corp. พาร์ตเนอร์ใหม่ของ GD ที่มีชื่อว่า Galaxy Corp. คือ Start Up สุดร้อนแรง และถือเป็นตัวแทนของความทะเยอทะยานไปสู่ Metaverse ของประเทศเกาหลีใต้อย่างไม่ต้องสงสัย เนื่องจากปัจจุบัน นอกจาก Galaxy Corp. จะเป็น Avatar Portal Platform แห่งแรกของอาณาจักรโชซอน รวมถึงเป็นเจ้าของ Avatar ของศิลปินทั้งในและนอกประเทศมากกว่า 200 ร่าง ซึ่งจะถูกนำไปใช้ใน Metaverse แล้ว Galaxy Corp. ยังแสดงเจตนารมณ์อันแรงกล้าในการนำคอนเทนต์ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะคอนเทนต์บันเทิง เช่น การถ่ายทอดสด, ดนตรี, การแสดงคอนเสิร์ต มาผนวกให้เข้ากับเทคโนโลยี AI และ Metaverse เต็มรูปแบบ ผ่านความร่วมมือทางด้านเทคโนโลยีอย่างใกล้ชิดกับ KAIST อีกด้วย ด้วยเหตุนี้ Start Up ซึ่งก่อตั้งปี 2019 และได้เงินผ่านการระดมทุนตั้งต้นจากนักลงทุนรวม 70,000 ล้านวอน (1,866 ล้านบาท) เมื่อผ่านไปเพียง 5 ปี จึงสามารถเติบโต จนกระทั่งถูกประเมินมูลค่าบริษัทเอาไว้สูงถึง 500,000 ล้านวอน (13,350 ล้านบาท) และเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สื่อในเกาหลีใต้รายงานว่า Galaxy Corp. มีแผนเตรียมนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของเกาหลีใต้ (KOSDAQ) ในเร็วๆ นี้ โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ การระดมทุน 100,000 ล้านวอน (2,666 ล้านบาท) รวมถึงผลักดันมูลค่าบริษัทให้พุ่งทะยานสู่การกลายร่างเป็น “ยูนิคอร์น” ที่มีมูลค่า 1 ล้านล้านวอน (26,668 ล้านวอน) ในช่วงประมาณต้นปี 2025 CHO Galaxy Corp.“ชเว ยง โฮ” (Choi Yong Ho) CHO (Chief Happiness Officer) ของ Galaxy Corp. เริ่มกลายเป็นจุดสนใจในวงการธุรกิจเกาหลีใต้ หลังได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในคณะผู้แทนเศรษฐกิจที่อายุน้อยที่สุดของประธานาธิบดี ยุน ซอก ยอล ที่ร่วมเดินทางไปเยือนประเทศซาอุดีอาระเบียและประเทศกาตาร์ เพื่อพบปะกับบรรดานักลงทุน เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2023 โดย “ชเว ยง โฮ” สามารถเรียกร้องความสนใจจากบรรดานักลงทุนในตะวันออกกลางได้เป็นอย่างดี จนกระทั่ง Galaxy Corp. ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU กับกระทรวงการลงทุนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย (Saudi Ministry of Investment) ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญ คือ การขยายตลาดธุรกิจกีฬาในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ และหลังจากนั้นเป็นต้นมา ความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทและนักลงทุนในตะวันออกกลางก็ค่อยๆ แนบแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ ตามรายงานข่าวของสื่อในเกาหลีใต้ หากแต่จุดที่สามารถเรียกนักลงทุน รวมถึงสื่อทั่วโลกให้หันมาโฟกัสที่ตัวเขาได้มากที่สุด ย่อมหนีไม่พ้นการได้ “ลายเซ็น” ของ GD มาไว้ในมือ เพราะหลังจากนั้นเป็นต้นมา ชื่อเสียงของ “ชเว ยง โฮ” ยิ่งถูกแสงสปอตไลต์สาดส่องเข้ามามากยิ่งขึ้น จนกระทั่งถูกแนะนำตัวในฐานะ “Tech Maestro” บนปก “นิตยสาร Fortune” ของประเทศเกาหลีใต้ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งปกนิตยสารเล่มดังกล่าว ซึ่งถูกประดับประดาด้วย “ดอกเดซี่” สัญลักษณ์ของสันติภาพและความหวังนั้น ยังเป็นผลงานการออกแบบโดย “จี ดรากอน” เสียด้วย! หมายเหตุ : ดอกเดซี่ เป็นสัญลักษณ์แบรนด์แฟชั่นของ G-Dragon ที่มีชื่อว่า “Peace Minus One” และจนถึงปัจจุบันมีการ Collab กับแบรนด์แฟชั่นต่างๆ มาแล้วอย่างมากมาย กลยุทธ์การลงทุน“ชเว ยง โฮ” ได้กล่าวถึงการขยายตัวของธุรกิจเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า การลงทุนของบริษัทจะมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์ที่เรียกว่า “4321 Strategy” หรือการผสมผสานลงทุนไปยัง 1. กลุ่มสื่อ 40% 2. กลุ่มทรัพย์สินทางปัญญา 30% 3. กลุ่ม Commerce 20% และ 4. กลุ่มเทคโนโลยี 10% เพื่อเป็นการส่งเสริมการทำงานร่วมกัน สำหรับการผลักดันให้บริษัทเติบโตได้อย่างโดดเด่นและแข็งแกร่งโดยเฉพาะการลงทุนในกลุ่มสื่อนั้น ตามรายงานของสื่อเกาหลีใต้ระบุว่า Galaxy Corp. ได้เข้าควบรวมกิจการกับผู้ผลิตรายการชั้นนำในประเทศแล้วจำนวนหนึ่ง และมีแผนที่จะขยายขีดความสามารถสำหรับการผลิตรายการให้ได้ 400 รายการต่อปีเมื่อเห็นเป้าหมายอันยิ่งใหญ่และแข็งกร้าว ภายใต้การผสมผสานเทคโนโลยีล้ำยุคอย่าง AI และ Metaverse แล้ว จึงไม่น่าแปลกใจเลยใช่ไหมว่า เพราะอะไร? Professor G-Dragon จึงตัดสินใจเลือกจับมือกับ Galaxy Corp. ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน กราฟิก : Anon Chantanant