Free Fire เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของเกมยิงอันดับหนึ่งแห่งอาเซียน และเรื่องราวความสำเร็จที่ต้องศึกษา

Intro : 

ในวงการเกม ถ้าเราจะพูดถึงเกมชู้ตติ้ง หรือว่าเกมยิงต่อสู้กันด้วยอาวุธปืน เกมเมอร์รุ่นเก๋าหน่อยก็อาจจะคิดถึงชื่ออย่าง Call of Duty, Battlefield หรือ Counter Strike ถ้าเป็นเป็นคนที่อายุน้อยหน่อยก็อาจจะเติบโตมากับแนว Battle Royale อย่าง PUBG, Fortnite หรือ Apex Legends แต่เชื่อว่าน้อยคนที่จะคิดถึงเกมอย่าง Free Fire ขึ้นมาเป็นชื่อแรก

เกม Battle Royale บนมือถือที่เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 2017 เนี่ย ถือว่าเป็นหนึ่งปรากฏการณ์ประวัติศาสตร์ของวงการเกมเลยนะครับ แต่ว่ามันกลับเป็นที่พูดถึงในหน้าสื่อต่างประเทศน้อยมาก ถ้าเราติดตามข่าวสารจากเว็บไซต์ข่าวเกมชื่อดัง เราจะพบว่ามีการพูดถึงเกมๆ นี้ไม่มากเท่าไร เอาง่ายๆ แค่จะค้นหาแหล่งข้อมูลของเกมไม่ว่าจะประวัติความเป็นมา หรือวิดีโอแนะนำวิธีการเล่นเป็นเวอร์ชันภาษาอังกฤษเนี่ย ยังหายากเลยนะครับ ในทางกลับกัน Free Fire เป็นหนึ่งในเกมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเกมหนึ่งของประเทศไทย และของโลกด้วยซ้ำ เรื่องนี้มีที่มาที่ไป และมีเหตุผลเบื้องหลังที่น่าสนใจอย่างมากเลยละครับ 

...

ความเป็นมา : 

Free Fire นั้นเป็นเกมที่ถูกสร้างโดยทีมพัฒนาของประเทศเวียดนามที่ชื่อ 111dots Studio ซึ่งเป็นบริษัทลูกภายใต้สังกัดของ Garena ค่ายพับบลิชเชอร์เกมยักษ์ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ตั้งอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ มันเป็นเกมยิงมุมมองบุคคลที่สามซึ่งถูกพัฒนามาเพื่อให้เล่นบนโทรศัพท์มือถือ โดยมุ่งเน้นให้สามารถเล่นได้บนมือถือราคาระดับปานกลางไปจนถึงราคาต่ำเป็นสำคัญ ซึ่งแน่นอนครับ มันก็ทำให้กราฟิกของเกมไม่ได้สวยงามตระการตาเหมือนเกมระดับ AAA ทั่วไป แต่จุดเด่นของเกมคือการเข้าถึงง่าย เล่นง่าย และมีระบบเกมเพลย์ที่สนุก 

แต่หากดูผ่านๆ ตัวเกมอาจจะดูเหมือน PUBG ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ เพราะว่ามันเป็นแรงบันดาลใจโดยตรงของ Free Fire ในเดือนมีนาคมของปี 2017 เป็นช่วงเวลาที่ PUBG เปิดให้ชาว PC ได้สัมผัสรสชาติของเกมแนว Battle Royale กันเป็นครั้งแรก ในเดือนธันวาคมของปีเดียวกัน Free Fire ก็เปิดให้บริการบนมือถือเช่นเดียวกัน ซึ่งนับเป็นจังหวะเวลาที่ประจวบเหมาะพอดีสำหรับชาวมือถือครับ เพราะมันตอบโจทย์ที่ทำให้พวกเขาได้เล่นแนวเกม ที่กำลังมีกระแสร้อนแรงที่สุดของโลกอย่างไม่ตกเทรนด์

หลังเปิดให้บริการครับ ปรากฏว่า Free Fire ถูกมองข้ามจากประเทศที่ประชากรเกมเมอร์สามารถเข้าถึง PC ประสิทธิภาพสูงไปเลย พูดง่ายๆ ก็คือประเทศที่ร่ำรวยอย่างอเมริกาเหนือหรือยุโรป พวกสามารถหาเกมคุณภาพสูงกว่าในแนวเดียวกันมาเล่นได้ จึงทำให้ความนิยมของตัวเกมนั้นไม่เกิด แต่ในทางกลับกันในภูมิภาคที่มือถือเป็นอุปกรณ์การเล่นเกมหลัก เช่น กลุ่มลาตินอเมริกา, แอฟริกา, หรือ อาเซียน Free Fire กลายเป็นเกมฮิตในชั่วข้ามคืนทันที ชนิดที่เรียกว่าขนาดเกมชื่อดังเจ้าตลาดทั้งหลาย พยายามที่สร้างเกมเวอร์ชันมือถือของตัวเองขึ้นมา ไม่ว่าจะ Call of Duty Mobile, PUBG Mobile, หรือ Apex Legends Mobile ก็ยังไม่สามารถต้านทานกระแสอันร้อนแรงของ Free Fire ได้

จุดเด่นของ Free Fire ที่ทำให้พวกเขาต่างจาก Battle Royale เกมอื่น ก็คือมันมีความเป็น Hero Shooter ครับ มีตัวละครให้ผู้เล่นเลือกนำมาใช้มากมาย โดยแต่ละตัวจะมีความสามารถพิเศษแตกต่างกัน โดยตัวละครเหล่านี้ก็มักจะเป็นการฟีเจอร์ร่วมกับแบรนด์ดังชั้นนำอื่นๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นการ์ตูน, เกมหรือ เซเลบ ที่มีชื่อเสียง ทำให้เราได้เห็นการคอลแลปส์กันระหว่าง Free Fire กับ Assassin’s Creed, Attack on Titan, คริสเตียนโน โรนัลโด หรือแม้แต่ จัสติน บีเบอร์ 

เรื่องงบการตลาดนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง พวกเขาทุ่มหมดหน้าตักชนิดว่าทุบตลาด เอาใจแฟนเกมตัวเองแบบไม่ต้องเอาค่ายไหนมาเทียบ ดาราศิลปินเบอร์ใหญ่แค่ไหนพวกเขาลงทุนจ้างมาเป็นฟรีเซนเตอร์ได้หมด มิวสิกวิดีโอ หนังสั้นโฆษณา ทุกอย่างลงทุนอย่างอลังการ ชนิดว่าเกม AAA ยังไม่ทำขนาดนี้ ที่พวกเขาสามารถทำตลาดแบบสุดพลังอย่างนี้ได้ ก็เพราะว่าตัวเกมมันประสบความสำเร็จแบบล้นทะลักจริงๆ โดยในปี 2019 Free Fire ทำรายได้ทั่วโลกไป 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ, ปี 2020 มันกลายเป็นเกมที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 4 ของโลก ด้วยยอดที่ทะลุ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จนถึงปี 2021 มีการประเมินว่าพวกเขาทำรายได้สะสมตั้งแต่เกมเปิดให้บริการไปทั้งหมดกว่า 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

...

การเมืองเดือดทำเกมสะดุด :

แต่สุดท้ายความร้อนแรงของตัวเกมก็ต้องมาสะดุดหยุดลงด้วยฝีมือของหนึ่งในประเทศที่ตัวเกมได้รับความนิยมสูงสุดครับ นั่นก็คือ อินเดีย ในปี 2022 รัฐบาลอินเดีย แบนเกม Free Fire เนื่องจากว่าพวกเขาเห็นว่าตัวเกมอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีน และอาจเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ เนื่องจากอินเดียมีข้อพิพาทด้านพรมแดนที่ติดกับประเทศจีน ทำให้อินเดียพยายามบอยคอตสินค้าและผลิตภัณฑ์จากจีนเป็นการตอบโต้ครับ ซึ่งรัฐบาลอินเดียก็ได้แบน TikTok และ PUBG Mobile ไปก่อนแล้วด้วยซ้ำ 

ยืนหนึ่ง Esports :

อย่างไรก็ตามครับตัวเกมยังคงความร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง และเริ่มก้าวเท้าเข้าสู่วงการอีสปอร์ต โดยในปี 2019 พวกเขาได้จัดงาน World Series ชิงแชมป์โลกขึ้นมาเป็นครั้งแรก และในปี 2021 งาน World Series นี้ได้กลายเป็นอีเวนต์อีสปอร์ตที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์โลก เพราะมียอดผู้ชมงานพร้อมกันถึง 5.4 ล้านคน มากกว่างานอย่าง The International หรือ LoL World Championships เสียอีก!

...

แล้วทำไมไม่ค่อยมีคอนเทนต์ภาษาอังกฤษ : 

ปัจจุบันมีผู้ดาวน์โหลดเกม Free Fire ไปแล้วกว่า 1,000 ล้านครั้ง และมีผู้เล่นในแต่ละเดือนสูงถึง 195 ล้านคน ยืนหนึ่งเป็นเกมที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของโลกทั้งในแง่ รายได้ จำนวนผู้เล่น หรือคุณภาพของเกมได้อย่างเต็มภาคภูมิ แต่ย้อนกลับไปในคำถามตอนช่วงต้นว่า ทำไมเราจึงมีข้อมูลเกี่ยวกับเกมนี้น้อยนัก คำตอบก็คือ ไม่จริงครับ ข้อมูลเชิงสถิติของตัวเกมนั้นติดตามได้จากทางต้นสังกัดอย่าง Garena ซึ่งมีการแถลงผลประกอบการอยู่เป็นประจำอยู่แล้วในฐานะบริษัทมหาชน ส่วนสมรภูมิคอนเทนต์ครีเอเตอร์ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างยิ่งในตลาดวิดีโอเกมปัจจุบันนั้น ด้วยความที่ตัวเกมไม่ได้เป็นที่นิยมในโลกตะวันตกอย่างอเมริกาเหนือหรือยุโรป เราจึงไม่ค่อยพบคอนเทนต์ครีเอเตอร์จากตลาดนั้นมาทำคอนเทนต์ให้กับเกมครับ แต่ถ้าเป็นตลาดที่ตัวเกมได้รับความนิยม เราจะพบคลิปเกี่ยวกับข้อมูลของตัวเกมมากมายเลยทีเดียว เพียงแต่มันอาจจะไม่ใช่ภาษาที่คนทั่วไปฟังแล้วเข้าใจอย่างภาษาอังกฤษเท่านั้นเอง

...

เทคนิคการเล่นเบื้องต้น : 

1. ไม่ว่าจะวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไร ท้ายที่สุดแล้ว Free Fire ก็ยังคงเป็นเกมชูตติ้งอยู่ดี และสิ่งสำคัญที่สุดของเกมยิง ไม่ว่าจะเป็นเกมไหน ก็คือการเล็ง “ยิงหัว” ของคู่ต่อสู้ให้ได้ ไม่ว่าจะเล่นแบบเป็นทีม หรือตัวต่อตัว ทักษะการยิงหัวก็ยังถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของเกมแนวนี้ แม้ว่าการควบคุมปกติของตัวเกม จะมีการล็อกเป้าหมายอัตโนมัติ ขอเพียงพูดเล่นหันหน้าไปทิศทางใกล้เคียงกับที่ศัตรูอยู่แล้วกดยิง เป้าจะจับไปที่กลางลำตัวของศัตรู ซึ่งแม้จะยิงเข้าเป้าและสร้างความเสียหายได้ แต่ผู้เล่นก็ควรฝึกเพิ่มเติมในการลากเป้าไปที่ส่วนหัวของเป้าหมาย เพื่อสร้างความเสียหายให้ได้มากที่สุด โดยผสมผสานการล็อกเป้าอัตโนมัติเข้ากับการลากนิ้วเล็งขึ้นบนเล็กน้อยให้ได้ตำแหน่งพอดี จะช่วยให้เราสังหารศัตรูได้เร็วกว่า

2. แม้ว่า Free Fire จะเป็นเกมที่ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับมือถือสเปกไม่สูง แต่ถ้าหากคุณมีมือถือสเปกสูงๆ ก็สามารถโหลด Free Fire Max มาเล่นได้ มันคือเกมเดียวกัน แต่คุณภาพของกราฟิก และระบบ Quality of Life ของเกมจะดีกว่าเวอร์ชันธรรมดา แต่ผู้เล่นสามารถใช้ไอดีเดียวกันสลับกันเล่นระหว่างสองเวอร์ชันได้ เพราะมันถือเป็นเกมเดียวกัน และยังเล่นเจอกับผู้เล่นที่เล่นเวอร์ชันธรรมดาได้ด้วย

3. หัดเล่นเกมมือถือด้วยการใช้ 4 นิ้ว เนื่องจากเกมเมอร์ทั่วไปที่ผ่านการเล่นคอนโซลมาจะถนัดการจับโทรศัพท์แบบใช้นิ้วโป้งควบคุมเพียงสองข้าง แต่การจะเล่นเกมที่มีความเร็วมากๆ และการควบคุมที่ซับซ้อนอย่าง Free Fire นั้น จำเป็นที่จะต้องใช้นิ้วชี้ทั้งสองเข้ามาร่วมด้วย เพื่อทำให้เราสามารถควบคุมตัวละครได้ดียิ่งขึ้น

4. สกินภายในเกมนั้นมีไว้เพื่อตกแต่งตัวละครให้สวยงามตามแฟชั่นเท่านั้น ไม่ได้มีผลต่อการเล่นของผู้เล่นแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามตัวละครภายในเกม และสัตว์เลี้ยงมีความสามารถพิเศษทั้งแบบที่ต้องกดใช้ และแบบที่มีผลอัตโนมัติที่จะทำให้คุณสามารถพลิกสถานการณ์ได้ ดังนั้น อย่าลืมปลดล็อกตัวละครให้มากที่สุด 

5. แม้ Free Fire จะเป็นเกมยิง แต่ก็จัดว่าเป็นเกมที่มีองค์ประกอบที่ผู้เล่นต้องพิจารณาสูงมาก ทั้งตัวละครที่เราและศัตรูเลือกใช้ ชัยภูมิพื้นที่การปะทะ หรือแม้แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าที่ต้องพลิกแพลง ดังนั้น ผู้เล่นที่ยิงได้แม่นกว่า อาจไม่ได้เป็นฝ่ายที่ชนะเสมอไป กลยุทธ์ การประเมินสถานการณ์ และการวางแผน จะมีส่วนสำคัญในการคว้าชัยชนะได้มากกว่าแค่การยิงแม่น

"กุมภฤทธิ์ พุฒิภิญโญ" ครีเอเตอร์สายเกมไทยรัฐออนไลน์

6. ขอแนะนำ 5 ตัวละครยอดฮิตสำหรับคนที่ต้องการเริ่มต้นเล่น Free Fire

"DJ Alok" ความสามารถพิเศษของเขาคือ สร้างออร่ารอบตัวระยะ 5 เมตร ที่จะช่วยเพิ่มความเร็วให้กับสมาชิกในทีม 15% และ ฟื้นพลังชีวิต 5 หน่วยต่อวินาที ถือว่าเป็นคุณหมอประจำทีมที่ใครๆ ก็ต้องรักอย่างแน่นอน

"Kelly" สาวน้อยน่ารักที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของ Free Fire คนนี้ มีความสามารถในการเพิ่มความเร็วในการวิ่งให้กับเธอ 5% และหากคุณอัปเลเวลเธอถึงขั้นสูงสุด กระสุนนัดแรกที่ลั่นออกจากปืนของเธอหลังจากวิ่งนาน 5 วินาที จะสร้างความเสียหายสูงขึ้น 101%

"Rafael" เจ้าแห่งมือสังหารซุ่มเงียบ ที่มีความสามารถพิเศษซึ่งเมื่อเปิดใช้ จะไม่มีใครมองเห็นเขาในมินิแมปเป็นเวลา 8 วินาที และหากเขาใช้ปืนสไนเปอร์ กระสุนของเขาจะไร้เสียง และหากศัตรูโดนยิงจนล้มลง พวกเขาจะเลือดไหลตายเร็วขึ้นถึง 90%

"Jota" ถ้าคุณมั่นใจในฝีมือการยิงระยะประชิด นี่คือตัวละครที่อันตรายที่สุด เพราะความสามารถพิเศษของเขาคือการฟื้นฟูพลังชีวิตของตัวเองทุกครั้งที่เขายิงโดนหรือฆ่าศัตรูได้ เรียกได้ว่าถ้ายิงได้ต่อเนื่อง แม้จะอยู่ในสถานการณ์โดนรุม เขาก็ยังอันตรายเสมอ เหมาะอย่างยิ่งกับการถือปืนกลและลูกซองเพื่อคลุกวงใน

"Hayato" ราชาแห่งการดวล 1:1 เพราะความสามารถขอเขาคือ กระสุนของเขาจะเจาะเกราะแรงขึ้น 5% ทุกครั้งที่เขาเลือด 10% พูดง่ายๆ ว่ายิ่งเจ็บศัตรูยิ่งโดนแรง ทำให้สามารถพลิกเกมในสถานการณ์คับขันได้ดีมาก

อ่านบทความและรับชมคลิปรายการ "รู้รอบเกม" จาก "กุมภฤทธิ์ พุฒิภิญโญ" เพิ่มเติม :