การเดินทางของ Puzzle Game, บูลลี่, การลงทัณฑ์ และมิตรภาพของลูกผู้ชาย สู่แฟรนไชส์ธุรกิจที่สร้างมูลค่าได้มากถึง 2.3 ล้านล้านเยน ทั้งหมดนี้คือ มรดกที่ "อาจารย์คาซุกิ ทาคาฮาชิ" (Kazuki Takahashi) ผู้สร้างตำนาน Duel จากมังงะชื่อดังอย่าง ยูกิโอเกมกลคนอัจฉริยะ (Yu-Gi-Oh) ได้ทิ้งไว้ให้กับชาวโลก หลังอุบัติเหตุที่ชายฝั่งโอกินาวา ได้พลัดพราก “ความสุขในวัยเยาว์” ของใครหลายคนไปจากมรณกรรมที่คาดไม่ถึง RIP : Kazuki Takahashi (October 1961 - July 2022)
ธุรกิจที่เริ่มจาก มังงะ อนิเมะ วิดีโอเกม และ การ์ดเกม :
มังงะ :
เกมกลคนอัจฉริยะ (Yu-Gi-Oh) ปรากฏตัวต่อสาธารณชนครั้งแรกใน "นิตยสารการ์ตูนโชเน็นจัมป์" ในปี 1996 โดยหลังจากนั้นมันก็ฮิตถล่มทลายและถูกตีพิมพ์มาอย่างต่อเนื่องและยาวนานถึง 8 ปี และสร้างยอดขายไปมากกว่า 132,936 ล้านเยน (ฉบับรวมเล่ม 38 เล่ม) โดยอาจารย์คาซุกิ ทาคาฮาชิ ได้ให้สัมภาษณ์เนื่องในวาระพิเศษฉลองครบรอบ 50 ปี นิตยสารโชเน็นจัมป์ถึงการเปิดตัวอีกหนึ่งในมังงะในตำนานเรื่องนี้เอาไว้ว่า...
...
“ซีรีส์ของผมเริ่มต้นขึ้นในตอนที่ มังงะระดับซุปเปอร์ตำนานอย่าง ดราก้อนบอล (Dargon Ball) และ สแลม ดังก์ (Slam Dunk) กำลังจะจบลง อีกทั้งนิตยสารโชเน็นจัมป์กำลังสร้างยอดขายชนิดถล่มทลาย ผมเลยรู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันมหาศาล”
อนิเมะ :
หลังมังงะประสบความสำเร็จ Yu-Gi-Oh ถูกนำไปสร้างเป็นอนิเมะออกอากาศทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรกในช่วงปี 1998 รวมทั้งยังมีภาค The Movie เรื่องแรกตามออกมาในปี 1999 จากนั้นก็มีแฟรนไชส์อีกมากมายหลายภาคออกตามมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
วิดีโอเกม :
บริษัทโคนามิ (KONAMI) บริษัทวิดีโอเกมยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2022 โดยมีผลกำไรพุ่งสูงขึ้นถึง 25.2% (80,000 ล้านเยน) โดยกลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้อย่างมหาศาลให้กับบริษัทคือ กลุ่ม Digital Entertainment ซึ่งทำรายได้สูงถึง 215,000 ล้านเยน หรือ เพิ่มขึ้น 5.3% เมื่อเปรียบเทียบแบบปีต่อปี และทำกำไรได้สูงถึง 76,400 ล้านเยน หรือ เพิ่มขึ้น 4.1% โดยเกมที่สร้างรายได้อย่างงดงามให้กับบริษัทคือ Yu-Gi-Oh Master Duel ซึ่งเป็นเกมการ์ดแบบเล่นฟรีข้ามแพลตฟอร์ม ที่สามารถเล่นได้ทั้งจาก PC คอนโซล และ มือถือ ซึ่งมียอดดาวน์โหลดมากกว่า 30 ล้านครั้งแล้ว
การ์ดเกม :
ทำไม Yu-Gi-Oh จึงต้องเป็นการต่อสู้ผ่านการเล่นเกมโดยเฉพาะการ์ดเกม? อาจารย์คาซุกิ ทาคาฮาชิ ให้ความกระจ่างในประเด็นนี้เอาไว้ว่า...
“ผมคิดว่ามันน่าจะนำเสนออะไรใหม่ๆ ได้มากกว่า หากนั่นเป็นรูปแบบการ์ตูนที่มีเพียงคุณเท่านั้นที่สามารถเขียนได้การจะประสบความสำเร็จในโชเน็นจัมป์ได้นั้น คุณจะต้องกล้าที่จะลองอะไรใหม่ๆ ถ้าคุณดูอนิเมะที่ฉายทางทีวีในช่วงดึกๆ แล้ว คุณสังเกตว่าแทบทุกเรื่องถูกวาดด้วยสไตล์แบบเดียวกัน และแสดงอารมณ์ความรู้สึกที่คล้ายๆ กัน แต่ที่โชเน็นจัมป์นั้น ผมคิดว่าเรายังมีนักเขียนการ์ตูนที่อยากจะลองสิ่งใหม่ๆ ที่ท้าทายกว่าเดิมอยู่”
อย่างไรก็ดี ด้วยความที่ “การ์ดเกม” ได้ผลักดันให้มังงะเรื่องนี้โด่งดังจนถึงขีดสุด ผลลัพธ์ที่ตามมากลับทำให้ อาจารย์คาซุกิ ทาคาฮาชิ ยอมรับว่า กระแสความฮิตจนแทบจะเกิดขอบเขตของความเป็นมังงะจาก Yu-Gi-Oh Trading Card Game : Duel Monster กลับทำให้ การเดินทางของมังงะเรื่องนี้ “ทำงานได้ยากขึ้น และนำไปสู่การปิดตำนานลงในท้ายที่สุด"
“ผมต้องปรับเนื้อเรื่องและกฎเกณฑ์ภายในเรื่อง ในขณะที่การ์ดเกม ผลิตภัณฑ์อื่นๆ และอนิเมะต่างต้องพัฒนาไปด้วยในเวลาเดียวกัน ใจหนึ่งผมก็รู้สึกว่ามันเหนื่อยมาก กฎเกณฑ์บางอย่างในเทรดดิ้งการ์ดเกมนั้นต่างจากในมังงะ และยิ่งยากที่จะวาดตัวละครใช้เทคนิคชั้นเชิงเพื่อหลอกคู่ต่อสู้ แต่สุดท้ายผมก็ผ่านมันไปได้ ผมเลิกโฟกัสไปที่การแข่งการ์ดเกมแล้วหันไปเน้นที่เรื่องราวของตัวเอกแทน ผมวางเรื่องย้อนกลับไปที่อียิปต์ในอดีต ซึ่งไม่ใช่แนวทางที่เป็นที่นิยมเท่าไรในการวาดมังงะ จากนั้นผมจึงตัดสินใจเขียนบทสรุปของเรื่องเพื่อที่จะให้ซีรีส์จบลงอย่างราบรื่น และเมื่อผมตัดสินใจเขียนบทสรุป ผมเลยสามารถควบคุมทิศทางให้มันจบลงได้ด้วยดี”
...
ตำนาน Duel และธุรกิจการ์ดเกม :
สำหรับเด็กหนวดปลายยุค 90 ต่อสหัสวรรษ การเติบโตมาพร้อมการ์ดเกม Yu-Gi-Oh ได้ทำให้ธุรกิจการ์ดเกมจากมังงะชื่อดังนี้ยังคงสามารถเดินหน้าสร้างมูลค่าให้กับตัวของมันเองได้อยู่ต่อไป โดยกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด Guinness World Records ได้บันทึกเอาไว้ว่า ในปี 2011 “การ์ดเกม Yu-Gi-Oh” เป็นการ์ดเกมที่ซื้อขายดีที่สุดในโลกด้วยยอดขายมากกว่า 25,170 ล้านชุดทั่วโลก
นอกจากนี้ การจัดการแข่งขัน The 100Th YU-GI-OH! Championship Series ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 2013 ยังถูกบันทึกอีกด้วยว่า เป็นทัวร์นาเมนต์การแข่งขันการ์ดเกมที่มีผู้เข้าร่วมมากที่สุดในโลก โดยมี Duelists เข้าร่วมมากถึง 4,364 คนด้วย
...
และด้วยความที่มันได้รับความนิยมอย่างล้นหลามเช่นนี้ มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ “การ์ดเกม Yu-Gi-Oh” บางใบโดยจึงมีมูลค่าสูงลิบลิ่วสำหรับนักสะสมทั้งๆ ที่มันถูกผลิตออกมาขายเป็นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1999 และเริ่มได้รับความนิยมในโลกตะวันตกตั้งแต่ปี 2002
และนี่...คือ 5 อันดับการ์ดเกม YU-GI-OH ที่มีมูลค่าสูงที่สุด
1.Tournament Black Luster Soldier (1999)
จากข้อมูลของ Zen Market เว็บไซต์ซื้อขายสินค้าชื่อดังของญี่ปุ่นระบุว่า การ์ดใบนี้มีราคาสูงถึง 9,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ (323,730,000 บาท) นั่นเป็นเพราะมันคือ “การ์ดที่หายากที่สุดในโลก!”
โดยความ Rare ของมันเนื่องจากมันคือการ์ดพิเศษที่ทำขึ้นสำหรับเป็นรางวัลในการแข่งขันที่จัดขึ้นเป็นทัวร์นาเมนต์แรกของ Yu-Gi-Oh ที่ประเทศญี่ปุ่นในปี 1999 อีกทั้งยังมีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวที่แตกต่างจากการ์ดใบอื่นๆ เพราะมันถูกพิมพ์ลงบนแผ่นสแตนเลส และจนถึงปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่าการ์ดใบนี้มีอยู่กี่ใบในโลก
...
2.Tyler The Great Warrior (2002)
มูลค่าประเมิน 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ (5,395,500 บาท) เหตุผลที่มันกลายเป็นการ์ดที่หายากและมีราคาแพงเนื่องจากในปี 2002 หนุ่มน้อยผู้รักการ Duelists ที่ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็ง มีความปรารถนาสุดท้ายที่อยากมีส่วนร่วมเป็นหนึ่งในการ์ดเกมที่เขารักสุดหัวใจ บริษัทโคนามิจึงตอบสนองต่อความรักของหนุ่มน้อยรายนี้ด้วยการผลิตการ์ดเกมที่มีชื่อว่า Tyler The Great Warrior ออกมาเพื่อให้หนุ่มน้อยรายนี้มีกำลังใจที่จะต่อสู้กับโรคร้ายต่อไป และด้วยความสุขที่ได้รับทำให้หนุ่มน้อยยังคงแข็งแรงและมีชีวิตอยู่ได้ต่อไป และแม้จะมีผู้พยายามหยิบยื่นข้อเสนออันงดงามเพื่อขอซื้อการ์ดใบนี้ แต่หนุ่มน้อยยังคงยืนกรานที่จะปฏิเสธไปอย่างไม่ใยดีโดยยังคงเก็บการ์ดสุดพิเศษใบนี้เอาไว้กับตัวเขาเองด้วยความสุข
3.Blue Eyes White Dragon 1st Edition PSA 10 (2002)
มูลค่าประเมิน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (3,597,000 บาท) การ์ดรุ่นแรกๆ ที่บรรดา Duelists ปรารถนาที่จะได้มันเอามาไว้ในครอบครอง โดยปัจจุบันในตลาดมีหลงเหลืออยู่เพียงไม่น่า 90 ใบเท่านั้นที่ยังคงมี “สภาพสมบูรณ์” และได้รับการการันตีจาก Professional Sports Authenticator หรือ PSA ว่าอยู่ในสภาพ PSA10
4.Shonen Jump Championship Cyber-Stein PSA 10 (2004)
มูลค่าประเมิน 35,000 ดอลลาร์สหรัฐ (1,258,950 บาท) รางวัลจากการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ Shonen Jump Championship Cyber-Stein ในปี 2004 ที่ปัจจุบันน่าจะเหลืออยู่เพียง 22 ใบจากทั้งหมดที่มีจำกัดเพียง 100 ใบเท่านั้น ที่ได้รับการันตีความสมบูรณ์ระดับ PSA10
5.Dark Duel Stories Blue-Eyes White Dragon PSA 10 (2002)
มูลค่าประเมิน 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ (719,400 บาท) หนึ่งในชุดการ์ดระดับ Prismatic Secret Rare (การ์ดที่มีฟอยล์สีรุ้งคาดชื่อและภาพ) ซึ่งทำออกมาขายพร้อมเกม Yu-Gi-Oh! Dark Duel Stories ในปี 2002 หนึ่งในเกมตำนานที่ดีที่สุดบนเครื่อง Gameboy Color สำหรับชาว TCG (Trading Card Game) โดยปัจจุบันการ์ดใบนี้น่าจะเหลือเพียง 132 ใบเท่านั้น ที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ระดับ PSA10
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
กราฟฟิก : Anon Chantanant
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :