เมื่อปัญหามันมาตั้งโจทย์ยากๆ ให้เราอยู่ตรงหน้า เราจะหาคำตอบได้อย่างไร

เป็นข้อสงสัยที่ได้ลองถามนักธุรกิจที่มีประสบการณ์ ผ่านวิกฤติมามากมายหลายเรื่อง ว่าพวกเขามีความรู้สึกกับโจทย์ยากๆ ในชีวิตอย่างไรบ้าง? จนวันหนึ่งได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณต๊อบ อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ซีอีโอของสาหร่ายเถ้าแก่น้อย ที่มาบอกเล่าประสบการณ์ ลองสรุปบทเรียนในชีวิตการทำธุรกิจ

สิ่งที่ทำให้คุณต๊อบก้าวเดินหน้าไปได้ไกลๆ น่าจะเป็นเพราะปัญหาที่ต้องเผชิญในแต่ละช่วงชีวิต

เขาเล่าว่า ชีวิตของการเริ่มต้นเป็นผู้ประกอบการ เกิดขึ้นเพราะปัญหาพิษเศรษฐกิจ ที่เข้ามารุมเร้าครอบครัวจนไม่เหลือเงินสดในมือ จึงทำให้เขาต้องลุกขึ้นมาทำงานหาเงิน เพื่อมาช่วยเหลือจุนเจือทางบ้าน

ปัญหาที่รุกเข้ามาตรงหน้าทำให้เกิดความคิดว่า ต้องลุกขึ้นสู้แบบใส่เต็ม เพื่อนำครอบครัวออกจากปัญหาการเงินให้ได้ เวลานั้นเขามองหาลู่ทางทำกิน จนพัฒนาเป็นธุรกิจขายเกาลัดคั่ว ที่ขยายไปกว่าสามสิบสาขา ในห้างต่างๆ ด้วยระยะเวลาอันสั้น และในช่วงเวลาที่ธุรกิจเกาลัด กำลังเดินหน้าเป็นไปได้ดีมากๆ พูดได้ว่าเป็นยุคทองของเกาลัดคั่ว และพื้นที่หน้าร้านเกาลัดก็ยังพอมีที่ว่างเหลืออยู่

เขาจึงเกิดไอเดียเพิ่มรายได้ ด้วยการนำสินค้าของกินเล่นชนิดอื่นๆ มาขายเพื่อเป็นรายได้เสริมอีกช่องทาง 

แต่จู่ๆ ในวันหนึ่ง ก็มีปัญหาใหม่เดินหน้าเข้ามา จากสาเหตุเพราะร้านเกาลัดคั่วของเขานั้นตั้งอยู่ในห้าง ซึ่งเป็นพื้นที่ปิด ไม่มีระบบระบายอากาศที่ดีพอ เวลาที่คั่วเกาลัดก็จะเกิดกลิ่นและควัน ลอยฟุ้งกระจายไปทั่ว สร้างความไม่พอใจให้กับเจ้าของพื้นที่เช่าและร้านค้าข้างๆ 

กลายเป็นปัญหาใหญ่ลุกลาม จนถูกยึดพื้นที่ขายคืน เพราะห้างไม่ต้องการให้ฝ้าเพดานเหลือง และมีกลิ่นคั่วฟุ้งกระจายรบกวนลูกค้า 

...

ผลกระทบคือจากสาขามากกว่าสามสิบแห่ง กลายเป็นไร้พื้นที่ขายเกาลัด จนธุรกิจเดินหน้าต่อไปไม่ได้  ปัญหาเดินทางเข้ามาเผชิญหน้าอีกครั้ง...

แต่เถ้าแก่มือใหม่ ไม่ท้อ เขาลองขบคิดหาวิธีแก้ปัญหา เพื่อมองหาช่องทางเริ่มธุรกิจใหม่ โดยคุณต๊อบสังเกตเห็นว่า รายได้จากร้านเกาลัดคั่วของเขา มีบางสาขาที่ยอดขายของกินเล่นชนิดอื่นๆ ที่สั่งมาขายเพื่อเป็นรายได้เสริม มียอดขายที่สูงกว่าปกติ แถมในบางเดือนมียอดขายสูงกว่ายอดขายเกาลัดเสียอีก 

ต๊อบ วัยรุ่นพันล้านต้นแบบความสำเร็จของคนเจนฯ Y กับธุรกิจสาหร่ายเถ้าแก่น้อย  (ภาพเมื่อปี 2558)
ต๊อบ วัยรุ่นพันล้านต้นแบบความสำเร็จของคนเจนฯ Y กับธุรกิจสาหร่ายเถ้าแก่น้อย (ภาพเมื่อปี 2558)

และเมื่อมาดูในรายละเอียด ก็พบว่า ยอดขายที่สูงๆ นั้น มาจากขนมกินเล่น “สาหร่ายทอด" นับเป็นการใช้ดาต้าข้อมูล เพื่อนำมาหาลู่ทางขยายธุรกิจ

ธุรกิจสาหร่ายทอดเถ้าแก่น้อย ออกสตาร์ตเริ่มต้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยใช้ข้อมูลยอดขายหน้าร้าน นำมาพัฒนาสาหร่ายทอดแบบ OTOP ด้วยการกระจายสินค้าไปฝากขายตามร้านขายขนมขบเคี้ยวต่างๆ พร้อมๆ กับไปเสนอขายให้กับช่องทางร้านสะดวกซื้อ ที่ในครั้งแรกก็ติดขัดปัญหามากมาย ทั้งปัญหารูปแบบแพ็กเกจจิ้ง ภาพลักษณ์สุดเชยไม่ทันสมัย รวมทั้งปัญหาเรื่องคุณภาพสินค้า ที่อายุสินค้าสั้นเกินไป เก็บไว้นานไม่ได้ เพราะมีกลิ่นหืนจากการทอด

เขาใช้ความมุมานะ พยายามแก้ปัญหาไปทีละเรื่องๆ พยายามหาโอกาสใหม่ๆ ในการพัฒนาสินค้า ด้วยการไปเรียนรู้ค้นคว้า หาวิธีการถนอมอาหารกับอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อปรับปรุงให้สาหร่ายทอดสามารถอยู่ในถุงได้นานขึ้น พร้อมทั้งปรับภาพลักษณ์ โลโก้ตราสินค้าให้ทันสมัย ปรับปรุงแพ็กเกจจิ้ง จนเป็นที่ยอมรับของฝ่ายจัดซื้อและเป็นที่ยอมรับของตลาด

เขาได้รับรางวัลตอบแทนความมุมานะ ด้วยยอดสั่งซื้อครั้งใหญ่ ที่ต้องส่งสินค้าให้ร้านสะดวกซื้อกว่า 3,000 สาขา ภายใน 60 วัน ที่เหมือนกับจะเป็นโอกาส แต่ก็นำปัญหาและความท้าทายที่ใหญ่กว่ามาให้ เพราะในวันนั้น เขายังไม่มีโรงงานมาตรฐาน ที่มีกำลังการผลิตสูงพอ 

แต่คุณต๊อบและครอบครัวก็ใช้ความมุมานะ ฝ่าฟันปัญหาใน 60 วัน จนสามารถส่งของได้ครบ พัฒนาโรงงานที่มีมาตรฐาน จนกลายเป็นหนึ่งในตำนาน วัยรุ่นพันล้าน

วันนั้นคุณต๊อบสรุปเรื่องราวไว้อย่างน่าฟังว่า... สิ่งที่เป็นจุดเชื่อมโยงเขาไปสู่ความสำเร็จ ก็คือ “ปัญหา” ในฐานะที่ ต๊อบเคยเป็นเซียนเกมออนไลน์คนหนึ่ง เขาลองเปรียบเทียบให้ฟังว่า ในเกมธุรกิจ มันคล้ายๆ กับการเล่นเกมออนไลน์ ที่ผู้เล่นจะต้องผ่านด่านง่าย ฝ่าด่านปานกลาง ต่อสู้กับด่านยาก เพื่อเดินหน้าไปต่อสู้ในด่านที่ยากสุดๆ จึงจะนับเป็นผู้ชนะในเกมธุรกิจ

...

การเติบโตของ
การเติบโตของ "เถ้าแก่น้อย" ที่ร่วมเป็นสปอนเซอร์สนับสนุน ทีมชาติไทย ในอีเวนต์ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย (ภาพเมื่อปี 2559)

 

ทุกปัญหาที่ต้องพบเจอ สำหรับตัวเขาเอง มันคือจุดเชื่อมต่อของความสำเร็จ จากปัญหาการไม่มีพื้นที่ขายเกาลัดของคุณต๊อบ กลายเป็นช่องทาง เป็นโอกาสในการสร้างธุรกิจใหม่ กำเนิดเป็นธุรกิจสาหร่ายทอด ที่เริ่มต้นมาจากการสังเกตข้อมูลการขาย จากขนมกินเล่น ที่เป็นแค่รายได้เสริม แต่เมื่อลองถอดสมการข้อมูลออกมา กลับพบว่ามันคือสินค้าขายดี มีอนาคต และมีศักยภาพในระยะยาว

...

นี่คือประโยชน์ของการรู้จักใช้ข้อมูล ถอดรหัสดาต้า เพื่อนำมาใช้ต่อยอดพัฒนาธุรกิจใหม่ เป็นหนึ่งในบทพิสูจน์ว่า ดาต้าหรือข้อมูล คือขุมทรัพย์ของธุรกิจจริงๆ

และจากปัญหาภาพลักษณ์ และคุณภาพสินค้าที่แลดูเป็นของบ้านๆ เชยๆ ในครั้งแรก เขาก็สามารถปรับปรุงได้ด้วยการเสริมทัพ ใช้ประสบการณ์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถเฉพาะทาง ทั้งการไปหาดีไซเนอร์มืออาชีพ ให้ช่วยออกแบบโลโก้และปรับปรุงแพ็กเกจจิ้ง รวมทั้งปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร ให้ช่วยหาวิธีเก็บรักษาความอร่อยของสาหร่ายทอด

การมอบงานให้ผู้เชี่ยวชาญ ลงมือทำงานเฉพาะทางของแต่ละคน และนำเอาผลสำเร็จมาประกอบกัน จนสามารถสร้างแบรนด์เถ้าแก่น้อย ไปสู่ความสำเร็จ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เจ้าของธุรกิจต้องรู้จักเลือกใช้คนให้เหมาะสมกับงาน ต้องตระหนักว่า ปัญหาบางอย่าง แก้ไขด้วยตัวเราเองลำพังไม่ได้ ต้องรู้จักมองหาคนเก่งมาช่วยแก้ปัญหา นับเป็นอีกหัวใจของการวางแผนงาน เพื่อความสำเร็จในระยะยาว

ถ้าเราพบเจอปัญหา...เดินทางมาพร้อมกับโจทย์ยากๆ จากเรื่องราวข้างต้น สิ่งที่เรามองเห็นและถอดสมการออกมาได้ก็คือ "เมื่อเกิดปัญหาขึ้น สิ่งที่คนเรานั้นแตกต่างกัน ก็คือ มุมมองของตัวเราเอง และทัศนคติ ที่เรามีต่อปัญหานั้นๆ”

เพราะทัศนคติ คือสิ่งที่กำหนดชีวิต ถ้าคุณมองปัญหาที่เกิดขึ้นให้กลายเป็นโอกาสที่จะต่อสู้และเอาชนะ ปัญหาทั้งหลายนี่แหละที่จะพลิกกลับกลายเป็นแรงผลักชั้นเยี่ยม