ฤกษ์แต่งงาน ฤกษ์คลอดบุตร หรือแม้แต่ฤกษ์ลงเสาเอก ถือเป็นความเชื่อที่อยู่คู่สังคมไทยมาช้านาน โดยมีรากเหง้ามาจากศาสนาที่เผยแผ่ไปทั่วเอเชีย

สำหรับประเทศไทย มีคู่มือสำหรับใช้ดูฤกษ์งามยามดี ที่มีขายในท้องตลาดทุกปี และจะต้องไปหาซื้อที่ “เยาวราช” ใช่แล้ว.. คู่มือที่ว่าคือ “ปฏิทินน่ำเอี้ยง”

LIFE STORY โดย ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จะพาทุกท่านไปสัมผัสเบื้องหลัง กว่าจะทำปฏิทินสักเล่มนั้นใช้เวลาทำขนาดไหน และปัจจุบันได้รับผลกระทบจากเทคโนโลยีที่จะกลืนกินอาชีพโรงพิมพ์หรือไม่ เรามาฟัง นายกิตติธัช นำพิทักษ์ชัยกุล ทายาทรุ่นที่ 3 เจ้าของกิจการปฏิทินน่ำเอี้ยง

หนุ่มหล่อวัย 25 ปี ทายาทรุ่นที่ 3 เล่าว่า จริงๆ ศาสตร์นี้มีมานานนับ 2 พันปีแล้ว โดยมาจากตำราความเชื่อของ “ขงจื้อ” ซึ่งก็จะมีตำราในการคำนวณวันดี วันไม่ดี ซึ่งความจริงแล้ว ปฏิทินมีทำไว้ล่วงหน้าหลายร้อยปี เป็นพันปีก็มี (ในประเทศจีน) แต่โดยมากคนไทยจะเรียกว่า “ปฏิทินร้อยปี” แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่ 100 ปี คือ 120 ปี เกิดจากการคำนวณ 12 นักษัตร x 5 ธาตุ และวนอีกรอบ รวมเป็น 120 ปี

“ในสมัยก่อนตั้งแต่แรกเริ่ม เราขายกันเฉพาะคนรู้จัก ครั้งแรกเลยพิมพ์ขึ้นมาไม่กี่ร้อยเล่ม ซึ่งก็ขายหมด ต่อมากิจการก็เริ่มเติบโต จนมากที่สุดพิมพ์เป็นล้านๆ เล่มเลย”

...

ข้อได้เปรียบของปฏิทิน “น่ำเอี้ยง” คือ เราคำนวณวันดี วันไม่ดี เอง โดยพึ่งพาวิชาความรู้ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น โดยมีการอ้างอิงจากตำราจีนที่ได้ไปซื้อมาจากประเทศแม่ สิ่งที่จะบอกในปฏิทินน่ำเอี้ยง คือ ฤกษ์วันดี วันไม่ดี วันสำคัญทางศาสนาของจีนและไทย ซึ่งวันสำคัญของไทย ได้อ้างอิงจากประกาศของสำนักพระราชวังที่จะมีประกาศทุกปี

“ต้องยอมรับว่ากิจการปฏิทิน น่ำเอี้ยง เองก็ได้รับผลกระทบจากเทคโนโลยีเช่นเดียวกัน เพราะคนรุ่นใหม่สามารถหาดูปฏิทินได้ทุกที่ทุกเวลาอยู่แล้วจากสมาร์ทโฟน สิ่งที่เราทำในเวลานี้ก็คือการปรับตัว เรามีการทำปฏิทินรูปแบบใหม่ คือ ปฏิทินตั้งโต๊ะ ซึ่งย่อขนาดลงมา แต่สิ่งที่จะบอกในปฏิทินก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย นอกจากนี้ ยังได้เตรียมจะทำแอปพลิเคชันสำหรับดูปฏิทินน่ำเอี้ยง ซึ่งบอกได้เลยว่ามีมากกว่าปฏิทินทั่วไปแน่นอน”

นายกิตติธัช นำพิทักษ์ชัยกุล ทายาทรุ่นที่ 3 เจ้าของกิจการปฏิทินน่ำเอี่ยง
นายกิตติธัช นำพิทักษ์ชัยกุล ทายาทรุ่นที่ 3 เจ้าของกิจการปฏิทินน่ำเอี่ยง

นายกิตติธัช กล่าวต่อว่า หลักของโหราศาสตร์มาจากหลักสถิติและคำนวณ ซึ่งคนในสมัยก่อนเขาจะจดปรากฏการณ์ธรรมชาติ การเคลื่อนตัวของดวงดาว เมื่อดวงดาวเคลื่อนย้ายจะส่งผลอย่างไร เป็นที่มาของพลังบวก พลังลบ

“เราไม่ได้อยากให้ทุกคนเชื่อโหราศาสตร์อย่างงมงาย แต่ถ้าเราเข้าใจดวงของเรา เราอาจจะสร้างการเปลี่ยนแปลง หรือพัฒนาจุดเด่นของตัวเอง ผมในฐานะทายาทรุ่นที่ 3 อยากจะเปลี่ยนภาพลักษณ์ตรงนี้ ให้โหราศาสตร์เป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น ถือเป็นคำอธิบายที่เข้าใจได้”

สำหรับปัจจุบัน ปฏิทินน่ำเอี้ยง ขายในประเทศไทยมาแล้วกว่า 70 ปี ผู้ที่คำนวณและเขียนปฏิทินคือ ซินแซหมง (吳银茂 wú yín mào) ผู้สืบทอดวิธีการดูโหราศาสตร์จาก นายเฮียง แซ่โง้ว ผู้เป็นต้นฉบับการดูโหราศาสตร์น่ำเอี้ยง 

โดย ซินแซหมง บอกว่า เมื่อก่อนเป็นคนคิดและคำนวณฤกษ์ดี ฤกษ์ไม่ดีทั้งหมด แต่ปัจจุบันก็มีผู้ช่วย ช่วยคิดคำนวณ แต่ก็จะเป็นคนตรวจสอบคนสุดท้ายก่อนจะตีพิมพ์ โดยได้รับการสืบทอดวิชามาจากรุ่นสู่รุ่น

นอกจากนี้ หากใครสังเกตในปฏิทินจะมีตัวเลขที่เขียนด้วยลายมือ ในวันที่ 15 และ 30 หรือ 31 ของทุกเดือน ซินแซหมง บอกว่านั่นคือลายมือของเขาเอง โดยที่มีตัวเลขนั้นมาจากการนึกสนุกจึงเขียนเล่นๆ ขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้เขียนมั่วๆ โดยดูจากราศีที่เป็นอริหรือชงกัน เช่น ปีหมูไม่ถูกกับปีงูใหญ่ เป็นต้น

...

ในช่วงท้าย ทีมข่าวฯ ได้ถาม ซินแซหมง ว่าประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ซินแซหมงบอกว่า ปีหน้าคือ “ปีวัว” ซึ่งตรงกับ “ธาตุดิน” ฉะนั้น ปีหน้าจะเป็นปีแห่งพืชผลการเกษตร เกษตรกรจะดี แต่ด้านไม่ดี ก็ยังมีโรคภัยระบาดอยู่ ฉะนั้นควรใช้ชีวิตไม่ประมาท

ทุกชีวิต มีมุมให้ค้นหาและเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน เพราะนี่คือ LIFE STORY
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน 

ชมเรื่องราว LIFE STORY

...