จะเรียกว่า “ความสำเร็จ” ก็อาจพูดไม่ได้เต็มปาก เพราะคำนี้ มักใช้กับเรื่องราวดีๆ แต่ถ้าหาก-ปล่อยไว้ก็อาจจะกลายเป็น “มะเร็งร้าย” กัดกินวงการฟุตบอลไทย

หากจะพูดถึงทีมฟุตบอลทีมชาติไทย หลายคนอาจจะรู้สึกผิดหวัง กับฟอร์มทีมช้างศึก ในการแข่งขันกีฬา “เอเชียนเกมส์” จนเมื่อเร็วๆ นี้มีการปลดโค้ชโย่ง “วรวุฒิ ศรีมะฆะ” ไป จะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดหรือไม่ เวลาคงจะเป็นคำตอบ

แต่..สำหรับเร็วๆ นี้ มีความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ เมื่อสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้รับการ์ดเชิญให้ร่วมวงประชุมการทุจริตวงการกีฬา ที่จัดขึ้นที่ เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส ในวันที่ 11-12 ก.ย.นี้ งานนี้ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลฯ จึงส่งมือดีไปร่วมบรรยายเรื่องการล้มบอล

นายพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอล ฝ่ายต่างประเทศ ที่ตีตั๋วเดินทางไปเล่าเรื่องเบื้องลึกเบื้องหลัง “การล็อกผลการแข่งขัน” หรือ ภาษาบ้านๆ เรียกว่า “ล้มบอล” ให้ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้ฟังก่อนใคร..

...

ทั่วโลกสนใจ “ล้มบอลไทยลีก” เคสแรกของเอเชีย ที่จับได้ ส่งฟ้องศาล!

รองเลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เล่าเบื้องหลังการเดินทางไปเมืองน้ำหอมในครั้งนี้ว่า การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเป็นประจำอยู่แล้ว โดยเป็นการประชุมในระดับตำรวจสากล หรือ interpol ซึ่งในปีนี้มีการจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ที่เมืองลียง สาเหตุที่เขาเชิญเราเพราะ เมื่อปลายปีที่แล้วเรามีการประกาศเกี่ยวกับการต่อต้านการล็อกผลฟุตบอล และมีการดำเนินคดีได้สำเร็จ ถือเป็นเคสแรกของเอเชียที่มีการจับกุมดำเนินคดีจนถึงชั้นศาลได้ เรื่องนี้นับเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เป็นเรื่องที่ควรจะแชร์ข้อมูลให้กับตำรวจทั่วโลกได้ฟัง.. (อ่านข่าวเพิ่มเติม กองปราบฯหิ้ว 16 ผู้ต้องหาคดีล้มบอล! ไทยลีก 2017 ส่งอัยการ )

พี่โจ หรือ นายพาทิศ ยอมรับว่า ทั่วโลกเขาสนใจเคสของไทยและนับเป็นกรณีศึกษา เพราะที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครล้วงข้อมูลเกี่ยวกับการล็อกผลบอลได้ ซึ่งผลสำเร็จครั้งนี้มาจากความร่วมมือหลายๆ หน่วยงานที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ประกอบด้วย สมาคมฟุตบอลไทยฯ, สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย  (AFC) ,สปอร์ต เรดาร์ (Sportradar) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

เบื้องหลัง..ก่อนจับกุมแก๊งล็อกผลการแข่งขัน

เลขาฯ ส.บอลไทย เล่าเบื้องลึกของตามจับแก๊งล็อกผลบอลว่า หลังจากที่สมาคมฯ ประกาศเจตนารมณ์ในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ ก็มีคนในวงการฟุตบอลที่รู้สึกว่ายังมีความหวังกับวงการฟุตบอลไทยแอบเข้ามาให้ข้อมูลกับสมาคม โดยมีการเล่าขั้นตอน กระบวนการ หรือ สิ่งที่เกิดขึ้นในวงการนี้มีวิธี หรือ รูปแบบ แบบไหนในการฉ้อฉลในวงการฟุตบอล ซึ่ง ท่านนายกฯ ส.บอลไทย ท่านก็เป็นตำรวจมาก่อน เล็งเห็นว่าเรื่องนี้หากปล่อยต่อไปจะกลายเป็นมะเร็งร้ายกัดกินวงการฟุตบอล

“เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ที่มีคนมาล็อกการแข่งขัน ทำแบบนี้จะบอกกับคนที่มาเชียร์ยังไง.. เมื่อเรามีข้อมูล จึงได้ติดต่อกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่มีเครื่องมือในการหาหลักฐาน สืบสวน เมื่อได้ข้อมูลก็หาพยาน และขยายผล ส่วนของทางสมาคมฟุตบอลฯ​ ก็ได้ติดต่อเรื่องนี้ไปยัง AFC และ FIFA ซึ่งก็มีหน่วยงานที่เขาติดตามเรื่องนี้ด้วย คือ ทาง สปอร์ต เรดาร์ ซึ่งตรงนี้เขาจะคอยตรวจสอบทิศทางการพนันในแต่ละแมตช์การแข่งขัน สังเกตราคาขึ้นลงการแข่งขันกีฬาทั่วโลก แน่นอน..หากมีฟุตบอลคู่ไหนถูกล็อกผลไว้ ก็จะส่งผลต่อเรตราคา ในวงการพนัน”

หน้าที่สปอร์ต เรดาร์ เขาตรวจสอบคล้ายกับตลาดหุ้น หากระแคะระคายว่าราคาการต่อรองฟุตบอลมีความผิดปกติ เช่น การปล่อยเรตราคาที่คิดว่าคนทั่วไปไม่เล่นแน่ๆ แต่กลุ่มคนบางกลุ่มกลับลงเล่นการพนัน นอกจากนี้ เขายังตรวจสอบแหล่งการพนันในประเทศต่างๆ ด้วย เช่น จะพนันในไทยลีก เขาจะรู้ว่าจะต้องไปเล่นพนันที่เว็บใด อย่างไรก็ดี หากได้ข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการล้มบอล ทางสมาคมก็พร้อมขยายผล ประสานงานกับเจ้าหน้าที่เพื่อเดินหน้าจับกุมดำเนินคดี

...

ขบวนการล้มบอล เชื่อมโยงถึงใคร..

หลายๆ คนคงอยากจะรู้ว่า ในขบวนการล้มบอลไทยลีกนั้น มีใครเกี่ยวข้องบ้าง แน่นอน ทีมข่าวฯ ได้ยิงคำถาม กับ นายพาทิศ เผยว่า จากการขยายผล เราเชื่อมโยงไปถึงคนในวงการฟุตบอลบางคน บางตำแหน่ง เช่น คนในสโมสรบางสโมสร นักเตะ หรือ กรรมการบางคน โดย ยังสาวไม่ถึงหน่วยงานหรือองค์กร หรือ ผู้มีอิทธิพลรายใดเกี่ยวข้อง

“เป้าหมายหลักในการล็อกผลการฟุตบอล คือ เม็ดเงินจากการพนันเป็นหลัก เพราะหลังจากได้เงินมาแล้ว เขาก็จะเอามาลงทุนในการจ้างล้มบอลครั้งต่อไป..”

เอาง่ายๆ หากเป็นคุณรู้ว่า ฟุตบอลคู่นี้จะจบอย่างไร คุณจะบอกคนอื่นมั้ย!?

นี่คือคำถามที่นายพาทิศ ยิงถามใส่ผู้สื่อข่าวฯ ก่อนจะไล่เรียงต่อว่า “ขอเปรียบเทียบง่ายๆ หากคุณรู้ว่าพรุ่งนี้หวยออกอะไร คุณจะเก็บไว้คนเดียวหรือไม่ คุณจะบอกญาติพี่น้องหรือเปล่า ซึ่งตรงนี้เองกลายเป็นหลักฐานนำไปสู่การลงโทษ”

รองเลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอล กล่าวว่า การล้มบอลแต่ละครั้ง เชื่อว่าสโมสรไม่รับทราบ เพราะในหลายๆ เคสที่พบ เป็นการตกลงกันในกลุ่มเล็กๆ เช่น แมตช์ไหนต้องการสกอร์สูงๆ การจ้างจะพุ่งเป้าไปที่ “ผู้รักษาประตู” และ “กองหลัง” ซึ่ง 2 ตำแหน่งตรงนี้ส่งผลให้เกิดการยิงประตูมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมี “ผู้ตัดสิน” ที่จะเป่าเพื่อให้เกิดการยิงประตูนั้น ซึ่งในที่นี้ไม่ได้หมายถึง การเป่าจุดโทษอย่างเดียว แต่เป็นจังหวะฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษ ขณะที่กองหลังบางคนที่รับเงินมา ก็อาจจะสกัดให้เกิดโอกาสการยิงประตูมากขึ้น

...

“ในระดับฟุตบอลอาชีพ ไม่ต้องล้มกลิ้งให้เห็นเด่นชัดเหมือนแสดงละครหรอก หากจะให้คู่แข่งยิงประตู แค่วิ่งให้ช้าลงครึ่งก้าว เปิดช่องมากขึ้นนิดหน่อย กองหน้าของอีกฝั่งก็ยิงประตูได้แล้ว แค่ผ่อนแรงนิดเดียวก็ส่งผลแล้ว.. กลับกันเราดูหน้าจอทีวี หรือ ดูในสนามก็ยากที่จะทราบว่าแมตซ์นี้มีการล็อกผลบอล ยกเว้นว่าเรามีพยานหลักฐาน หรือ รายงานจากสิ่งเหล่านี้ ประกอบถึงจะดูออก”

พาทิศ ศุภะพงษ์
พาทิศ ศุภะพงษ์

หลักของการพนัน ค่าต่อรองจะสูงก็ต่อเมื่อ มีคำถามว่า “เป็นไปได้แค่ไหน..” ถ้าคู่แข่งสูสีมาก แข่งกันมาถึงนาทีที่ 70 แล้วยังยิงกันไม่ได้ แต่ปรากฏว่า ช่วง 20 นาทีสุดท้าย กลับมีเรตราคาที่สูงๆ ที่ระบุว่าจะมีการยิงกันถล่มทลาย 3-4 ลูก แบบนี้ก็ต้องน่าจับตา

ได้คุ้มเสียหรือไม่ ค่าตอบแทนการล้มบอลไทย แสนน้อยนิด

สำหรับเรตของการล้มบอลนั้น นายพาทิศ เปิดเผยว่า เป็นเงินแค่หลักหมื่นถึงแสนบาทเท่านั้น สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะการพนันระดับไทยลีกไม่กว้างขวางนักเมื่อเทียบกับฟุตบอลต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าประมาณแมตซ์ละ 5 ล้านบาท รายได้จากการพนันก็ไม่มาก 5-6 แสนบาท ที่สำคัญคือ..

...

“คนที่ถูกจ้างล้มบอลนั้น ในวงการเขาจะรู้กันดีว่า เขาจะสามารถจ้างใครได้บ้าง”

บทลงโทษ นักเตะแตกแถว ฆ่าอาชีพตัวเอง..

นายพาทิศ กล่าวว่า คนที่ทำผิดนั้นแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ คดีอาญา ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ 2556 ซึ่งหากพบการกระทำผิดก็จะมีการลงโทษทั้งจำคุกไม่เกิน 5 ปีและปรับไม่เกิน 5 แสนบาท

“ในส่วนสมาคมฟุตบอลนั้น เราดูแลภาพรวมสมาชิกที่ลงทะเบียน ทั้งในระดับสโมสรและนักเตะ คนที่จะเข้าแข่งขันอาชีพในไทยลีกก็ต้องยอมรับกติกาว่าเราไม่สนับสนุนสิ่งเหล่านี้ หากเรามีหลักฐานกระทำผิด ก็จะลงโทษไปยังสโมสร หรือ ตัวบุคคล โดยมีโทษปรับ แบน และ แบนตลอดชีพ ตามความผิด”

นี่คือเรื่องอีกมุมหนึ่งที่เกิดขึ้นในวงการลูกหนังไทย ที่ยังคงมีเหลือบไรที่เปรียบเสมือนไวรัสร้ายแอบซ่อนอยู่ หากไม่เร่งกำจัดให้หมดไป ไวรัสร้ายก็จะกลายเป็นมะเร็งลุกลามคร่าชีวิต

ถามจริงๆ รับได้ไหม ถ้าหากแข่งฟุตบอลไทยลีกแล้วไม่มีใครมาเชียร์ ถ้าเป็นแบบนั้นวงการฟุตบอลบ้านเราจะเป็นยังไง..?

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน