'ปมนาฬิกาหรูของเพื่อนวนกันใส่' ไม่ใช่เรื่องแรกที่เป็นประเด็นร้อนถูกยกมากดดันให้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ “ลาออก” แต่ตลอด 3 ปี 8 เดือน ที่ได้ร่วมทุกข์ ร่วมสุขกับรัฐบาล คสช. ที่มี “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องเจอความกดดันนี้มาตลอด

ไล่เรียง วอร์มอัพกันตั้งแต่ช่วง ส.ค. 2558 บิ๊กป้อม ก็มีแรงกดดันเบาๆ จากการปรับ ครม.ประยุทธ์ ครั้งแรกที่มีการเปลี่ยนทีม ครม.เศรษฐกิจ หลังจากร่วมรัฐบาลกันมาตั้งแต่เดือน ส.ค. 2557 ปีแรกของการเข้าปกครองประเทศในนามรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ นอกเหนือจากนี้ ช่วงนั้นยังเป็นช่วงของการจัดโผโยกย้ายทหารด้วย

ก่อนทุกอย่างชัดเจน 1 เดือน ในเดือน ก.ค. 2558 บิ๊กป้อมไม่ค่อยสบาย เจ็บทั้งแขนและขา และผลออกมาในที่สุด “หม่อมอุ๋ย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล เพื่อนร่วมรุ่นเซนต์คาเบรียลของบิ๊กป้อม ต้องพ้นเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี พร้อมรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจบางส่วน แต่บิ๊กป้อมยังอยู่ที่เดิม ในเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

เดือน ต.ค. 2559 บิ๊กป้อม ถูกตั้งคำถามเรื่องการเช่าเหมาลำเครื่องบินการบินไทย ไปประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน-สหรัฐอเมริกา อย่างไม่เป็นทางการ วันที่ 29 ก.ย.-1 ต.ค. 2559 ที่มลรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา ด้วยงบค่าใช้จ่าย 20.9 ล้านบาท มีผู้ร่วมบินไปลำนี้ 38 คน ขณะที่เครื่องบินซึ่งเป็นโบอิ้ง 747-400 สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 416 คน

คำตอบจากบิ๊กป้อมสุดสตรองเวลานั้น สรุปได้ว่า ไม่ได้ไปเที่ยว ไปทำงาน ต้องเหมาลำเพราะไม่มีสายการบินบินตรง ไปแค่ 3-4 วัน และอาหารก็ไม่ได้กินแพง

เรื่องที่ทำให้ บิ๊กป้อม ถูกจับตาอย่างใกล้ชิดเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อแสดงจุดยืนจะซื้อเรือดำน้ำจากจีน 3 ลำ มูลค่า 36,000 ล้านบาท จนวันที่ 18 เม.ย. 2560 เป็นวาระลับ เอกสารมุมแดง เสนอเข้า ครม.อนุมัติซื้อนำร่องก่อน 1 ลำ งบประมาณ 13,500 ล้านบาท

...

แต่เรื่องนี้ก็เงียบลง เหมือนจมอยู่ใต้ทะเลลึก

จนมาถึงปลายปี 2560 ความกดดันยังคงส่งถึง 'บิ๊กป้อม' กับข่าวการปรับ ครม.ประยุทธ์ 5 ก็มีการลุ้นไปอีกว่า บิ๊กป้อมจะอยู่หรือไป หรือเหลือเก้าอี้เดียวหรือไม่ แต่สุดท้ายบิ๊กป้อมก็ยังอยู่ที่เดิม

ช่วงรอยต่อสิ้นปี 2560 กับปี 2561 น่าจะเป็นช่วงเฉลิมฉลองปีใหม่อย่างมีความสุข แต่ก็มีเรื่องสั่นสะเทือนตำแหน่งของบิ๊กป้อมอีกครั้ง เมื่อปรากฏข้อมูลเป็นข่าวข้ามปีเรื่องแหวนเพชร และนาฬิกาหรูบนข้อมือของบิ๊กป้อม หลังจากมีการเผยแพร่ภาพที่บิ๊กป้อมยกมือบังแดด ระหว่างถ่ายภาพ ครม.ประยุทธ์ 5 ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2560

นาฬิกาหรู กลายเป็นปมร้อน เมื่อมีคนสืบต่อไปว่า บิ๊กป้อม ไม่แจงบัญชีทรัพย์สินนาฬิกากับ ป.ป.ช. เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งทางการเมืองตั้งแต่ปี 2557 นี่คือคำถามที่สังคมต้องการคำตอบ และคำถามยิ่งดังขึ้นอีก เพราะจากเรือนแรกที่เห็นกัน เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2560 หลายคนไปย้อนดูข้อมือของบิ๊กป้อมในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา นับกันได้กว่า 20 เรือน

คำตอบที่มาของนาฬิกาหรู ยิ่งทำให้สงสัยมากขึ้นอีก เมื่อ 'บิ๊กป้อม' ให้สัมภาษณ์สื่อ เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2561 ว่า นาฬิกาหรูทั้งหมดเป็นของเพื่อนที่ให้ยืมใส่ ใส่แล้วก็คืน พร้อมทั้งบอกด้วยว่า หาก ป.ป.ช.ชี้ว่าผิดก็พร้อม ”ลาออก”

คำว่า “ลาออก” เริ่มถี่ขึ้นอีก จนล่าสุด 31 ม.ค. 2561 ในงานเลี้ยงสานสัมพันธ์กระทรวงกลาโหม กับสื่อมวลชนสายทหาร บิ๊กป้อม เปิดใจเล่าถึงความตั้งใจทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ตลอด 3 ปี 8 เดือนที่ผ่านมา และการรับราชการที่ผ่านมา 50 ปี ก็ไม่ได้ทำอะไรที่เสียหายต่อประเทศชาติ พร้อมปิดท้ายด้วยว่า “ถ้าประชาชนไม่ต้องการ ผมก็พร้อมจะไปจากตำแหน่งนี้”

บทสรุปของพี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ ในวัย 72 ปี ดูเหมือนจะไม่มีทางเลือกมากนักแล้วในเวลานี้