ผ่านไปแล้วสำหรับละครเรื่อง “บาปอยุติธรรม” ทางช่อง 3 ที่เพิ่งอวสานไป ละครเรื่องนี้เหมือนเป็นใบปริญญาเรียนจบวิทยาลัยการแสดงที่ให้แก่นักแสดงหลายคน โดยเฉพาะตัวหลักอย่าง บอย-ปกรณ์, บอม-ธนิน และนางเอกสาว จีน่า-ญีนา ซาลาส ที่ทุกคนเจอบททดสอบหนักหน่วงกว่าจะถึงตอนจบ

สำหรับนักแสดงสาว จีน่า ผ่านละครมาแล้ว 2 เรื่อง แสดงคู่กับพระเอกเบอร์ต้นทั้งนั้น แต่เพิ่งจะมาเป็นที่รู้จักจริงๆก็ในละครเรื่องนี้ ซึ่งวันนี้ จีน่า เปิดใจเล่าให้ฟังถึงเบื้องหลังการถ่ายทำกว่าจะประสบความสำเร็จ และความทุกข์ ความสุขที่ได้รับว่า

“เรื่องนี้ถือว่าท้าทายที่สุดในชีวิตการแสดงของจีน่าเลยค่ะ เป็นทนายจบใหม่ ทั้งมาดทั้งบทคำพูดต้องเป๊ะๆ คำพูดต้องถูกหลักของเค้า ศัพท์กฎหมายต้องเป๊ะทุกอย่าง”

ย้อนไปหน่อย กว่าจะผ่านมาได้หนักหน่วงแค่ไหน?

“ทำการบ้านหนักมากๆค่ะ ไปดูซีรีส์ไปดูตัวละครที่คล้ายคลึงตัวปลายฝน เธอยังไม่ใช่ทนายความแค่นั้น แต่จะมีปมในใจ ความรู้สึกสีหน้าแววตา เป็นตัวละครที่เก็บความรู้สึกค่อนข้างเยอะ มีความซับซ้อนทางอารมณ์เยอะพอสมควร”

...

ได้ยินว่าเราโดนดุเยอะเหมือนกัน?

“เยอะค่ะ (หัวเราะ) ด้วยความที่มันเป็นตัวละครที่ค่อนข้างโหดและเราเองก็ใหม่มากๆ ด้วยความเป็นทนายกับสาววัย 21 ปีมันดูไกลตัวมากๆ แล้วตัวเราก็ไม่ได้บุคลิกเรียบร้อย ก็จะโดนดุช่วงแรกๆที่ยังไม่เข้าใจตัวละคร แต่หนูเข้าใจสไตล์การทำงานของพี่แอ้ว-อำไพพร พี่แอ้วเป็นคนพูดตรง พูดแรง แต่เค้าไม่ได้คิดอะไรหรอก เค้าหวังดี ตัวเราบางทีก็เก็บเอาไปคิดไปเครียด ตอนนั้นบางวันกินข้าวไม่ลง สงสารตัวเอง มันมีฟีลถึงขั้นไปนั่งร้องไห้คนเดียวเลยนะ เครียดมาก กดดันมาก”

ได้ใครช่วยเป็นพิเศษมั้ย?

“มีคนรอบข้างรอบตัวให้กำลังใจเรา อย่างพี่บอย-ปกรณ์ จะให้กำลังใจหนูตลอด เค้าจะบอกไม่เป็นไร เอาจนกว่าพี่แอ้วจะโอเคทำไปเลย พี่โอเคทุกอย่าง เค้าจะคอยเซฟเราอยู่ห่างๆ พอเลิกกองเค้าเริ่มรู้แล้วว่าเรานิ่งเงียบ คือช่วงแรกๆหนูจะสดใส แต่พอเครียดมากๆสดใสไม่ออก พอโดนดุปุ๊บจะลืมทุกอย่าง ลืมบทอะไรหมดเลย”

หนักแค่ไหน?

“มีบางวันเครียดจนกินข้าวไม่ค่อยได้เลยค่ะ สะโหลสะเหลเริ่มไม่ไหว พี่บอยก็จะไลน์ทักมา พี่เข้าใจน้องนะ มันยาก อยากให้สู้ๆ หนูไม่พิมพ์อะไรกลับไป ถ่ายรูปร้องไห้ส่งไปให้เค้าดู (หัวเราะ) อ้อนพี่ชาย เราไม่รู้จะไปอ้อนใคร หนูขอบคุณพี่บอยมากๆ”

ที่บอกว่าถึงกับกินข้าวไม่ลง อยู่ในอารมณ์นั้นนานมั้ย?

“พักใหญ่ๆเลยค่ะ พอดีกับหนูเปิดกล้องเรื่องใหม่ พิศวาสฆาตเกมส์ ที่เล่นคู่กับพี่เจมส์-จิรายุ เล่นเป็นโรคซึมเศร้า แม่ตายต่อหน้าต่อตา พอโตขึ้นมาอาการกำลังดีขึ้น กำลังจะได้แต่งงานมีครอบครัว แฟนก็มาโดนรถชนตายอีก เศร้ามากจุดดิ่งแทบจะเหมือนเป็นโรคจิตพร้อมระเบิดตลอดเวลา พอมาเจอเรื่องนี้อีกถ่ายควบกัน 2 เรื่อง ทีนี้อาการยิ่งหนักเลย น้ำหนักจาก 50 กว่าเหลือ 46 กก. เสื้อผ้าหลวมไปหมดเลย” (หัวเราะ)

ช่วงที่เจอบทหนักๆทั้ง 2 เรื่อง ทำให้อารมณ์ในชีวิตจริงดำดิ่งลงมั้ย?

“โอ้โห ที่สุดค่ะ กลายเป็นคนเศร้าไปเลย คนรอบตัวสัมผัสได้ แม่ พี่ชาย บางทีกลับไปนอนร้องไห้คนเดียว ด้วยความที่เรากดดันด้วยแหละ ยิ่งทำให้เศร้าไปกันใหญ่ แต่ดีที่คนที่บ้านคอยเชียร์ ไม่เป็นไรลูก แม่เชื่อว่าหนูทำได้อยู่แล้ว อย่าไปกลัวแค่นี้เอง”

ผ่านละคร “บาปอยุติธรรม” มาได้ เราได้เห็นการพัฒนาฝีมือทางการแสดงของตัวเองยังไงบ้าง?

“หนูจำวันที่ปิดกล้องตัวละครปลายฝนได้ หนูร้อง เฮ้อ...อ ออกมาดังๆเลย (หัวเราะ) ในที่สุดสิ่งที่เราตั้งใจ สิ่งที่ผ่านมามันได้เสร็จสิ้น สิ้นสุดลงแล้ว ถึงสถานีปลายทางของมันแล้ว จากที่เดินทางกันมายาวนานตลอดทั้งปี พอถึงวันที่เราถ่ายเสร็จ มันโล่งมาก พี่หนุ่ม-กฤษณ์ ผู้จัดบอกว่าออกมาดี เรายิ่งใจชื้นขึ้นมาเลย อย่างน้อยสิ่งที่เราโดนว่าโดนดุโดนสอน พอภาพออกมาดี หนูเข้าใจที่เค้าดุ เค้าไม่อยากให้เราออกไปด้วยความรู้สึกแบบเด็กใหม่ได้แค่นี้เหรอ เค้าอุตส่าห์ให้โอกาสได้เล่นกับพระเอกเบอร์ต้นๆ ทำไมได้แค่นี้ เค้าก็ฝากความหวังไว้ที่เรา เราต้องทำให้เต็มที่”.