หายหน้าไปจากวงการบันเทิงกว่า 2 ปี อดีตพระเอกหนุ่มช่อง 3 “อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์” ที่เคยฝากผลงานถูกใจแฟนละคร เลือกเส้นทางของตัวเองหลังหมดสัญญากับช่อง 3 มุ่งมั่นเรียนให้จบ ก่อนที่จะไปบวชเรียนศึกษาพระธรรมในช่วงเวลาหนึ่งและออกมาใช้ชีวิตได้ทำอะไรที่อยากทำ ล่าสุดกลับมาสร้างความฮือฮาประเดิมงานแสดงซีรีส์วายเป็นครั้งแรก KinnPorsche The Series รักโคตรร้าย สุดท้ายโคตรรัก ซีรีส์วายแนวมาเฟียเรื่องแรกของไทย เลยต้องขอเปิดมุมมองความคิดของนักแสดงหนุ่มคนนี้
เริ่มจาก ตอนนี้เดินหน้าเข้าวงการวาย เป็นยังไงบ้าง?
“จะวายหรือไม่วายผมว่าไม่มีอะไรแตกต่างเลย ผมว่ามันไม่เกี่ยว มันเป็นส่วนหนึ่งในบทมากกว่า ต้องเกริ่นเล็กน้อยว่าจริงๆแล้วผมตั้งใจไปเรียนต่อต่างประเทศ ผู้จัดการโปเค้าดูแลน้องกลัฟ ก็บอกว่ามีงานน่าสนใจรออยู่ เป็นซีรีส์วายแนวแอ็กชันก็รู้สึกสนใจ ผมว่าผมก็ปรับไปตามกระแส พื้นฐานแล้วโปไม่ได้มองว่าอันนี้วายอันนี้ไม่ใช่วาย ส่วนแรกที่มอง ผมมองโปรดักชันก่อน มองตัวบท ความเมกเซ้นส์ อันนี้เป็นตัวที่ทำให้เราตัดสินใจรับเล่น”
ทั้งๆที่เราก็มีสังกัดที่ดี ทำไมถึงอยากออกมาอิสระ?
“เราอยากจะได้ทำอะไรเราก็ควรได้ทำครับ หันมามองตัวเอง ผมอายุ 25 ในตอนนั้น ถ้าเราเซ็นสัญญาไปเราก็คงไม่ได้ทำอะไรที่เราอยากจะทำอยากจะเป็นเลย มันเหมือนกับทำให้เราอยู่จุดจุดเดิม ถ่ายละครเรื่องนึงมันก็ใช้เวลาปีครึ่งแล้ว พอถ่ายเสร็จก็รับเรื่องใหม่ วนลูปอยู่แบบนี้ มารู้ตัวอีกทีร่างกายเราทำอะไรไม่ได้แล้ว เหมือนเราขาดชีวิตในส่วนที่มันควรจะเป็นออกไป โปรู้สึกว่าเราควรจะได้ตัดสินชีวิตด้วยตัวเราเองมากกว่า”
...
อายุ 25 มันก็ยังไม่ได้มากเท่าไหร่?
“โปรู้สึกว่าเริ่มต้นชีวิตคือ 30 อีก 5 ปีของเราที่เรายังไม่ได้เริ่มต้นชีวิต เราก็ควรจะได้ทำอะไรที่เราอยากทำ เราอยากทำอะไรที่เราไม่เคยได้ทำ ก็ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมามีแต่คนพลีสเรา ซึ่งเราไม่ได้รู้สึกประทับใจขนาดนั้น เราอยากไปอยู่ในที่ที่ไม่มีใครรู้จักเรา อยากไปมีชีวิต ไปตัดสินใจอะไรในชีวิตเราด้วยตัวเราเอง เราอยากจะล้มแล้วเรารู้สึกเจ็บ รู้สึกเรียนรู้กับมัน หรือถ้าเรามีความสุขเราก็ได้มีความสุขจริงๆเพราะเราตัดสินใจของเราเองทั้งหมด”
ไม่รู้สึกเสียดายโอกาสเหรอ?
“ไม่เคยเลยครับแค่รู้สึกว่าเราคงเชื่อในสิ่งที่เราเชื่อว่ามันจะเป็นแบบนั้นจริงๆ มันไม่ได้เกี่ยวกับภาวะภายนอกคือวงการ ผมมองว่าวงการคือภาวะภายนอก ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับตัวเรามากกว่า เราได้เรียนสิ่งต่างๆแล้วเรารู้สึกว่าเราชอบวิชานี้ การได้ทำสิ่งนี้มันทำให้เราแฮปปี้ ก็เลยเหมือนเป็นการบ่มเพาะไปเรื่อยๆว่าชีวิตเราต้องการอะไร ประกอบกับเราปฏิบัติธรรมด้วย มันเลยทำให้เราไม่ได้มองอะไรแค่ภายนอก เรากลับมามองที่ตัวเราเองจริงๆว่าเราชอบอะไร เราต้องการอะไร ยังไม่ได้สามารถตอบได้เหมือนกันว่าสิ่งที่จะไปมันเป็นสิ่งที่เราชอบจริงๆหรือเปล่า แต่ก็อยากจะได้ลองก่อน”
เราอยากลองอะไร?
“ก็มีหลายอย่าง เช่น เกี่ยวกับร่างกาย การแสดง มันเยอะมากๆ ที่มาเป็นนักแสดงเพราะเรามีความชอบในหลายๆอย่าง ก็เลยอยากจะได้ลองเป็นนั่นเป็นนี่ ได้สวมบทบาทหลากหลาย รู้สึกว่าชีวิตมันสั้น เราจะต้องได้ทำทุกอย่าง ในเมื่ออยู่ที่นั่นมันไม่เวิร์ก มันได้เป็นแต่อาโป ก็ออกมาดีกว่า เราได้เป็นหลายบทด้วย”.
เม้าท์ชัด จัดทุกตอน ติดตามได้ที่ www.thairath.co.th/novel และ Facebook Fanpage : นิยายไทยรัฐ