กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินหน้าโปรโมตกีฬาคู่กับการท่องเที่ยว อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีกีฬา แถลงชูธงนำกีฬา เพื่อการท่องเที่ยว ด้วยการใช้แบดมินตัน 2 แมตช์ใหญ่ ที่จะจัดในบ้านเราเป็นตัวชูโรง
ไม่ว่าจะเป็นแบดมินตันทีมชาย และทีมหญิงชิงแชมป์โลก “โธมัส-อูเบอร์คัพ 2018”
และจากนี้อีก 4 ปีข้างหน้า ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดแบดมินตันระดับซุปเปอร์ซีรีส์ ซึ่งคาดว่าจะมีคนชมทางโทรทัศน์มากกว่า 600 ล้านครัวเรือน ไม่รวมทางอินเตอร์เน็ตอีกกว่า 200-300 ล้านครัวเรือน
“เป็นโอกาสดีของไทยอีกครั้ง ที่จะได้เผยแพร่ความเป็นไทย ประเทศแห่งคุณภาพ ให้ได้รู้จักไปทั่วโลก ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การใช้กีฬาแห่งโลกนำการท่องเที่ยว เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ” กอบกาญจน์กล่าวย้ำเอาไว้
พร้อมกับบอกว่า การที่ไทยได้จัดกีฬาใหญ่ๆ เช่นนี้ รวมถึงได้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมกีฬาสำคัญๆ และเป็นที่ตั้งสหพันธ์กีฬานานาชาติก็จะช่วยสร้างให้ไทยเป็นสปอร์ตฮับ
เป็นศูนย์กลางกีฬาของอาเซียน และเอเชีย
นั่นเป็นสิ่งที่กระทรวงกีฬาได้ดำเนินการมาอยู่เสมอ ทำให้ภาพความน่าเชื่อถือของวงการกีฬาไทย อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้สหพันธ์สมาคมกีฬาชาติ ก็ได้สะท้อนปัญหาออกมาอีกหนึ่งด้านด้วย
ถึงการตั้งสหพันธ์กีฬานานาชาติในไทย แต่ ยังไม่มีองค์กรใดที่รับรองให้ถูกต้องได้ หรือยังเป็นไปในลักษณะสหพันธ์เถื่อนอยู่
โดยเฉพาะสหพันธ์วอลเลย์แห่งเอเชีย หรือ เอวีซี ที่มาตั้งในไทย 1 ปีแล้ว และยังไม่ได้รับการรับรอง
พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ประธานสหพันธ์สมาคม กล่าวว่า เมื่อไม่นานมานี้สหพันธ์ยกน้ำหนักแห่งเอเชียจะมาตั้งที่ไทยอีก แต่ก็ต้องยุติไป เพื่อไม่ให้เป็นสหพันธ์เถื่อน
...
ก่อนหน้านี้สหพันธ์สมาคมได้ทำหนังสือสอบถามไปทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ, การกีฬาแห่งประเทศไทยแล้ว แต่ยังไม่มีทางออก
ดังนั้น ทางเดียวที่จะแก้ไขได้ คือ ขอให้คณะรัฐมนตรีมีมติว่าจะทำอย่างไรเพื่อหาทางออก เนื่องจากไทยต้องการเป็นศูนย์กลางกีฬาของอาเซียน และเอเชีย
แต่ถ้ายังมีปัญหานี้ก็คงเกิดขึ้นได้ยาก!!!
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นสวนทางกัน ด้านหนึ่งกระทรวงก็พยายามเดินหน้าอย่างเต็มที่ ให้ทุกอย่างออกมาดี แต่เมื่อทำไปได้ระยะหนึ่ง ปัญหาก็เริ่มเกิด
นโยบายที่อยากให้เป็นกับความเป็นจริงที่ทำไม่ได้ เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน
เรื่องนี้จึงห้ามมองข้าม ต้องเร่งเยียวยาให้เร็วที่สุด...
ฟ้าคำราม