หนแรกใน 17 ปี! โมนาโกซิวแชมป์ลีกเอิง

โมนาโก ผงาดคว้าแชมป์ลีกเอิงไปครองเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปีได้แล้ว หลังเปิดรังทุบเอาชนะ แซงต์ เอเตียน ไปได้ 2-0 โดยเกมนี้ คิเลียน เอ็มบัปเป และ วาเลอเร แชร์กแมง ช่วยกันตะบันคนละเม็ด ทำให้ โมนาโกผงาดคว้าแชมป์ลีกเอิงเป็นสมัยที่ 8 ในศึกฟุตบอลลีกเอิง ฝรั่งเศส เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

เกมนี้เจ้าถิ่น โมนาโก ของกุนซือเลโอนาร์โด ยาร์ดิม ยังคงส่งทีมชุดเก่งลงบู๊ นำโดย ฟาบินโญ, เชา มูตินโญ, แบร์นาโด ซิลวา และโทมัส เลอมาร์ ช่วยกันทำเกมรุกสนับสนุนคู่กองหน้าอย่าง ราดาเมล ฟัลเกา และ คิเลียน เอ็มบัปเป ล่าตาข่าย

เกมครึ่งแรกเล่นมาถึงนาทีที่ 19 โมนาโกปลดล็อกได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ ราดาเมล ฟัลเกา จ่ายทะลุช่องให้ คิเลียน เอ็มบัปเป หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนยิงเผาขนด้วยซ้ายระยะแค่ 6 หลาตุงตาข่าย

หลังจากนั้น โมนาโกยังคงเล่นได้เหนือกว่า แต่กว่าจะมาได้ประตูย้ำชัยเด็ดขาด 2-0 ก็ต้องรอจนถึงช่วงทดเจ็บนาทีที่ 3 จากการซัดของ วาเลอเร แชร์กแมง ตัวสำรอง จบเกม โมนาโก เปิดบ้านทุบเอาชนะ แซงต์ เอเตียน 2-0 ผงาดคว้าแชมป์ลีกเอิงฤดูกาลนี้ไปครองเรียบร้อยแล้ว หลังเก็บเพิ่มเป็น 92 คะแนน จาก 37 นัด นำอันดับ 2 ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ถึง 6 แต้ม แต่เหลือการแข่งขันนัดสุดท้ายอีกเพียงนัดเดียวเท่านั้น ส่งผลให้ โมนาโกคว้าแชมป์ลีกเอิงเป็นสมัยที่ 8 และเป็นสมัยแรกของพวกเขาในรอบ 17 ปีด้วย.

ฮัดเดอร์สฟิลด์ยิงเป้าเฮชิงตั๋วขึ้นชั้นกับเรดดิ้ง

“เดอะ เทอร์เรียร์ส” ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ดวลเป้าแม่นกว่า เป็นฝ่ายคว้าชัยเหนือ “นกเค้าแมว” เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ ในการดวลจุดโทษ 4-3 หลังรวมผลสองนัดเสมอกัน 1-1 ส่งผลให้ ฮัดเดอร์สฟิลด์ทะลุเข้าไปชิงตั๋วเลื่อนชั้นขึ้นพรีเมียร์ลีกใบสุดท้ายกับ “เดอะ รอยัลส์” เรดดิ้ง ที่สนามเวมบลีย์ ในวันที่ 29 พ.ค.นี้ ในศึกฟุตบอลเดอะแชมเปียนชิพ เพลย์ออฟ เลื่อนชั้น รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

...

นัดแรก ทั้งคู่เสมอกันมาแบบโนสกอร์ 0-0 ที่บ้านของฮัดเดอร์สฟิลด์ โดยนัดนี้ “นกเค้าแมว” เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ ได้กลับมาเล่นในรังฮิลส์โบโรของตัวเอง รับการมาเยือนของ ฮัดเดอร์สฟิลด์ บ้าง

เกมครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกันอยู่ที่ 0-0 จากนั้นกลับมาเล่นต่อครึ่งหลังได้แค่ 6 นาที กลายเป็นเจ้าบ้านเชฟฯเวนส์เดย์ที่ได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ แบร์รี แบนแนน เปิดบอลเข้ามาให้ สตีเวน เฟลทเชอร์ โหม่งตุงตาข่าย แต่ถึงนาทีที่ 73 ฮัดเดอร์สฟิลด์ตามตีเสมอเป็น 1-1 เมื่อ ทอม ลีส์ กองหลังทีมนกเค้าแมว สกัดบอลพลาดเข้าประตูตัวเอง จบเกม 90 นาที ทั้งคู่เสมอกันไป 1-1 รวมผล 2 นัดก็เสมอ 1-1 จึงต้องเล่นต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที

ซึ่งช่วงต่อเวลาพิเศษนั้น ทั้งคู่ก็ยังทำอะไรกันไม่ได้เหมือนเดิม ครบ 120 นาทียังคงเสมอ 1-1 เลยต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ โดยผลดวลเป้าปรากฏว่า ฮัดเดอร์สฟิลด์ยิงแม่นกว่า เป็นฝ่ายเอาชนะได้ 4-3 ผ่านเข้าไปชิงตั๋วเลื่อนชั้นขึ้นพรีเมียร์ลีกใบสุดท้ายกับ เรดดิ้ง ที่สนามเวมบลีย์ ในวันที่ 29 พ.ค.นี้ต่อไป.

ราชันยำ 4–1 จ่อแชมป์! ทิ้งบาร์ซา 3 แต้ม

“ราชันชุดขาว” จ่อผงาดซิวแชมป์ลาลีกาฤดูกาลนี้เต็มที หลังบุกไปถล่ม เซลตา บีโก ที่เหลือแค่ 10 คน ขาดลอย 4-1 นัดนี้ คริสเตียโน โรนัลโด เหมาซัดคนเดียวสองเม็ด ส่งผลให้ เรอัล มาดริด เก็บสามแต้มสำคัญ พร้อมขยับแซง บาร์เซโลนา ขึ้นไปรั้งจ่าฝูง นำบาร์ซา 3 แต้ม ขณะเหลือเกมอีกแค่นัดเดียว ในศึกลาลีกา สเปน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

ออกสตาร์ตครึ่งแรกมาได้แค่ 10 นาที เรอัล มาดริด ขึ้นนำก่อน 1-0 จากการซัดของ คริสเตียโน โรนัลโด จากนั้นนาทีที่ 48 โรนัลโดก็ยิงประตูที่ 2 ของตัวเอง ให้ราชันชุดขาวนำห่าง 2-0 ต่อมานาที 62 เจ้าถิ่นเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เนื่องจาก ยาโก อัสปาส โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม แต่อีกเจ็ดนาทีต่อมา เซลตาที่เหลือ 10 ตัวตีไข่แตกไล่เป็น 1-2 จากการยิงของ กุยเดตติ

ทว่าหลังจากนั้น มาดริด มาได้เพิ่มอีกสองประตูจาก คาริม เบนเซมา นาที 70 และ โทนี โครส นาที 88 จบเกม เรอัล มาดริด บุกถล่ม เซลตา ขาดลอย 4-1 มีเพิ่มเป็น 90 คะแนน แซงบาร์เซโลนาขึ้นมานำจ่าฝูง โดยมีแต้มมากกว่าบาร์ซา 3 แต้ม ทำให้ เรอัล มาดริด จ่อใกล้คว้าแชมป์เต็มที เพราะนัดสุดท้ายพวกเขาต้องการแค่แต้มเดียวก็จะซิวแชมป์ลาลีกาซีซั่นนี้ไปครองทันที.

เอเชียนแฮนดิแคป ศุกร์ที่ 19 พ.ค.

ลาลีกา

01.45 น. กรานาดา-เอสปันญอล 0.5 : 0