เห็นเซเลบและไฮโซบางคนมีรอยสักเท่ๆ, เป็นลวดลายสวยๆ ซึ่งส่วนใหญ่ใครจะสักรูปอะไรก็มักสักลวดลายตามใจฉัน เช่น เดวิด เบคแคม อดีตนักฟุตบอลชื่อดังแถมยังเป็นนายแบบรายนี้ถือเป็นคนที่ชอบสักลายบนร่างกายมากทีเดียว เรียกว่าเป็น “ตัวพ่อ” ที่ชอบรอยสักก็ว่าได้
ซึ่งพอถอดเสื้อผ้า หนุ่มเบคแคมก็ดูดีนะ เพราะเป็นคนหล่อระเบิดเถิดเทิงอยู่แล้ว แถมไม่อ้วนแต่เป็นหนุ่มหุ่นสำอางจึงทำให้เขาพอมีรอยสักก็ยิ่งมีเสน่ห์เพิ่มมากขึ้น นี่ยัง สงสัยอยู่เหมือนกันว่า ทำไมอดีตนักฟุตบอลชื่อดังระดับโลกถึงได้พิสมัยรอยสักนัก?
หรืออย่าง จัสติน บีเบอร์ นักร้องชาวอเมริกันชื่อดังเจ้าของเพลงเลิฟ ยัวร์–เซลฟ์ แม้อายุไม่เท่าไหร่แต่คุณน้องก็มีรอยสักเป็นรูปต่างๆตามอย่างรุ่นพี่เบคแคม ทว่าอาจมีน้อยกว่านิดนึง เพราะบีเบอร์อายุยังน้อยมั้งจึงยังไม่รีบร้อนที่จะมีรอยสักตามตัวเต็มพืดเหมือนอย่างที่บางคนขยันสักกันเหลือเกิน
นัยว่า บุคคลที่มีรอยสักตามอวัยวะส่วนต่างๆ แต่ที่เห็นชัดสุดคงเป็นที่แขน เพราะส่วนใหญ่สักรอยตลอดทั่วความยาวของแขนลงมาเลย อาจเพราะไม่อยากมีสีผิวเพรียวๆ บุคคลเหล่านี้คงมองว่า มันอาจราบเรียบเกินไป สู้มีรอยสักไม่ได้ เวลาถอดเสื้อผ้าจะได้เห็นร่องรอยความสวยงามของรอยสักที่พวกเขาเลือกสรรมาประดับไว้ตามส่วนต่างๆบนร่างกาย
ส่วนผู้หญิงก็ใช่ย่อย บางคนนิยมสักรอยบนร่างกายก็มีนะ สาวดังฝ่ายหญิงที่เรามักคิดถึงเธอกับรอยสัก เห็นจะเป็น แองเจลิน่า โจลี อดีตภรรยาของหนุ่มใหญ่ดาราอย่างแบรด พิตต์นั่นเอง
เธอสนใจที่จะมีรอยสักมาแต่ไหนแต่ไร ถึงขนาดเคยมาสักที่เมืองไทยจนเป็นข่าวเกรียวกราวมาแล้ว ส่วน รีฮานน่า นักร้องชื่อดัง เจ้าของเพลงอัมเบลล่า ก็มีรอยสักเหมือนกันนะฮ้า เพียงแต่ไม่มากนักแต่สังเกตเห็นได้เมื่อเธอสวมชุดเปิดไหล่หรือเปิดหลัง รวมทั้งข้อมือ และข้อเท้า
...
เอาเป็นว่า ชอบถึงทำเนอะ ถ้าไม่ชอบก็คงไม่ทำหรอก ซึ่งการพูดถึงแฟชั่นการสักในที่นี้ ไม่ได้สนับสนุนใครให้ไปสักนะเจ้าคะ เนื่องจากก่อนที่คุณจะสักลายใดๆก็ตามบนร่างกาย คุณควรคิดให้ดีด้วยว่า ควรทำไหม?
เพราะการสักไม่ใช่สักกันเล่นๆนั่นเอง เอาเป็น ว่า ก่อนอยากมีรอยสักต้องคำนึงถึงอะไรบ้างดีกว่า
1. สิ่งควรทราบข้อแรกได้แก่ ถ้าเมื่อไหร่คุณไปให้ทางร้านสักให้ รอยสักนั้นมันจะติดตัวอยู่กับคุณตลอดไป เพราะรอยสักค่อนข้างเป็นสิ่งถาวร แม้อาจลบเลือนได้แต่ไม่ใช่จะลบกันง่ายๆ
2. ร่างกาย-จิตใจพร้อมไหมที่จะสัก เพราะมันเจ็บเนาะ อีกอย่างคุณแพ้สารเคมีไหม? คิดด้วยนะ.
คนสมถะ