วันศุกร์ที่ 5 พ.ค. สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จะแถลงข่าวเปิดตัว “มิโลวาน ราเยวัช” โค้ชใหญ่ “ช้างศึก” ทีมชาติไทยคนใหม่อย่างเป็นทางการ
แฟนบอลทุกคนคงจะตื่นเต้น ที่จะได้ฟังการให้สัมภาษณ์และวิสัยทัศน์ในการทำงานจากปากของเจ้าตัวซะที หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตามข่าวที่ออกมามีแต่คนโน้นคนนี้ออกมาพูดแทนเต็มไปหมด
ผมเองก็รู้สึกตื่นเต้นเช่นกัน แต่ก็ยอมรับว่าหนักใจแทนกุนซือชาวเซิร์บผู้นี้ที่ต้องเข้ามารับ “เผือกร้อน”
แต่ก็นั่นแหละ เมื่อเสนอตัวเข้ามาเอง ก็คงเตรียมตัวเตรียมใจที่จะต้องแบกรับความกดดันทั้งหมดทั้งปวงอยู่แล้ว
ยกเว้นจะมีออปชั่น (พิเศษ) ในการเซ็นสัญญา (รึเปล่า)
การทำหน้าที่ของราเยวัช จะต้องเหนื่อยหนักตั้งแต่เริ่มต้น เพราะมีโปรแกรมถี่พอสมควร แถมยังไม่ค่อยมีเวลาเฟ้นหานักเตะด้วยตัวเองด้วย
ช้างศึกต้องบินไปอุ่นเครื่องกับอุซเบกิสถาน ในวันที่ 6 มิ.ย. และต้องรีบเก็บผ้าเก็บผ่อนบินกลับไทย เพื่อเตรียมตัวทำศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบ 12 ทีมสุดท้าย โซนเอเชีย นัดที่ 8 กับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในวันที่ 13 มิ.ย. ที่ราชมังคลากีฬาสถาน
ก็ไม่รู้ว่าโปรแกรมอุ่นเครื่องกับอุซเบฯที่จัดเอาไว้ก่อนหน้า จะส่งผลดีหรือผลร้ายกันแน่
อยากฝากไปถึงสมาคมฟุตบอลฯเอาไว้ด้วย การมีเกมอุ่นเครื่องต้องคำนึงถึงความเหมาะสมเป็นสำคัญ ไม่ใช่ให้นักเตะบินไปบินมา ถึงเวลาแข่งจริงออกอาการล้าให้เห็นก็มีมาเยอะแล้ว
ดังนั้น โปรแกรมฟีฟ่าเดย์ในเดือน ต.ค. 2 นัดนั้น วางแผนกันให้ดี
กลับมาที่ราเยวัชอีกหน่อย เขาจะเดินทางมานำทัพทีมชาติไทยทำศึกพร้อมกับทีมงานอีก 3 คนอันประกอบไปด้วย โซรัน ยานโควิช (ผู้ช่วยโค้ช), ซาซา โทดิช (โค้ชผู้รักษาประตู) และเนบอซา สตาเมนโควิช (โค้ชฟิตเนส)
...
ในส่วนของคนไทย โค้ชคนไหนจะได้รับหน้าที่เข้ามาสนับสนุนและทำงานร่วมกับทีมงานของ
ราเยวัชบ้าง ตรงนี้ต้องจับตาให้ดี ซึ่งตามที่สื่อวิเคราะห์กันก็มีกันอยู่ไม่กี่คน
แต่พวกเขาเหล่านั้นล้วนมีงานประจำอยู่แล้วนะซิ!!!
ก่อนหน้านี้ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่ม–พันธุ์ม่วง เคยประกาศกร้าวไปแล้วว่าใครที่จะเข้ามาทำทีมชาติต้องมีเวลาให้แบบ “ฟูลไทม์” และจะไม่สามารถไปทำงานที่อื่นได้
แล้วจะเอาใคร!
ประเด็นก็คือ...ผมไม่เชื่อว่า “ราเยวัช” จะสามารถเลือกนักเตะได้ด้วยตัวของเขาเอง (ในตอนนี้)
ด้วยเวลาอันจำกัด เขาจำเป็นต้องมีผู้ชี้แนะให้ก่อน
และผมก็ไม่อยากให้เขาเลือกนักเตะจากเอกสารที่สมาคมฯฟุตบอลโยนไว้ให้บนโต๊ะ....เพียงอย่างเดียว.
พาวเวอร์บอมบ์