“โอซิล–ซานเชซ” ยิงพาปืนบุกเชือดโบโร่ 2–1
“ปืนใหญ่” อาร์เซนอล คืนฟอร์มเก่ง หลังบุกเชือด “โบโร่” มิดเดิลสโบรช์ หวุดหวิด 2-1 โดย อเล็กซิส ซานเชซ และเมซุต โอซิล ช่วยกันซัดคนละประตูให้ทีมปืนใหญ่ ส่งผลให้ อาร์เซนอล เก็บสามแต้มแซง “ทอฟฟี่” เอฟเวอร์ตัน ขึ้นมาอยู่อันดับ 6 ด้วยการมีลูกได้เสียดีกว่า และตามหลังอันดับ 5 แมนฯยู 3 แต้ม ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา
เกมพรีเมียร์ลีกนัดมันเดย์ไนท์ ระหว่าง “โบโร่” มิดเดิลสโบรช์ ทีมรองบ๊วย เปิดสนามริเวอร์ไซด์ สเตเดียม ต้อนรับ “ปืนใหญ่”อาร์เซนอล โดยแมตช์นี้ เจ้าบ้านมิดเดิลสโบรช์มีการปรับทัพหลายตำแหน่ง ใช้ แบรด กูซาน ลงเฝ้าเสา หน้าเป้าเป็น อัลบาโร เนเกรโด ขณะที่ อาร์แซน เวงเกอร์ กุนซือปืนใหญ่ จัดทีมเล่นระบบ 3-4-3 โดยใช้เซ็นเตอร์ฮาล์ฟสามตัวคือ โลรองต์ กอสเซียลนี, ร็อบ โฮลดิง และกาเบรียล แถมยังได้ ปีเตอร์ เช็ก กลับมาเฝ้าเสา ส่วนแนวรุกมี เมซุต โอซิล, อเล็กซิส ซานเชซ และโอลิวิเยร์ ชิรูด์ เป็นตัวทีเด็ด
“ปืนใหญ่”เป็นฝ่ายครองบอลมากกว่า แต่กว่าจะได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ก็ต้องรอจนถึงช่วงท้ายครึ่งแรก นาทีที่ 42 จากจังหวะฟรีคิกระยะหวังผลหน้าเขตโทษ และเป็น อเล็กซิส ซานเชซ ปั่นด้วยขวาบอลโค้งข้ามกำแพงเสียบตาข่าย ชนิดที่ แบรด กูซาน นายทวารโบโร่ ได้แต่ยืนขาตายหมดสิทธิ์เซฟ ก่อนที่จะหมดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลังได้แค่ 5 นาที เจ้าถิ่นโบโร่ได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่พวกเขาตัดบอลได้ และเป็น สจ๊วร์ต ดาวนิง พาบอลลุยขึ้นมาทางฝั่งขวา ก่อนเปิดโด่งเข้ากลางให้อัลบาโร เนเกรโด โดดถีบบอลจ่อๆเข้าประตูไป
จากนั้นถึงนาทีที่ 71 “ปืนใหญ่ ”ขยับสกอร์ขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 เมื่อ อเล็กซิส ซานเชซ ตักบอลจากหน้าเขตโทษฝั่งซ้าย เข้าไปในเขตโทษ อารอน แรมซีย์ เอาอกแตะบอลให้ เมซุต โอซิล วอลเลย์ด้วยขวาตุงตาข่ายอย่างเฉียบขาด
...
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีฝ่ายไหนทำประตูเพิ่มกันได้ จบเกม “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล บุกมาคว้าชัยเหนือ มิดเดิลสโบรช์ 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 57 คะแนนเท่ากับเอฟเวอร์ตัน แต่ปืนใหญ่มีลูกได้เสียดีกว่า จึงกลับขึ้นมาอยู่ที่ 6 ส่วนโบโร่รั้งรองบ๊วยต่อไปมี 24 แต้มเท่าเดิม อยู่ห่างจากโซนปลอดภัย 6 แต้ม.
ไบรท์ตันเลื่อนชั้นขึ้นลีกสูงสุดรอบ 34 ปี
“นกนางนวล” ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน กลายเป็นทีมแรกจากเดอะแชมเปียนชิพที่ได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลหน้า หลังเปิดบ้านเอาชนะ วีแกน แอธเลติก 2-1 เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ ไบรท์ตัน ซิวตั๋วเลื่อนชั้นขึ้นพรีเมียร์ลีกแน่นอนแล้ว เนื่องจากไม่มีทางที่ทีมอันดับ 3 จะไล่ทันพวกเขาได้ นับเป็นการคัมแบ็กกลับมาเล่นในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีหนแรกในรอบ 34 ปีของไบรท์ตัน
เกมเดอะแชมเปียนชิพ อังกฤษ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา “นกนางนวล” ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน ทีมจ่าฝูง ภายใต้การคุมทัพของ คริส ฮิวจ์ตัน อดีตกุนซือนิวคาสเซิล ลงสนามนัดที่ 43 ของฤดูกาล เปิดรังเอเม็กซ์ สเตเดียม รับการมาเยือนของ “เดอะ ลาติกส์” วีแกน แอธเลติก ซึ่งผลปรากฏว่า ไบรท์ตันเปิดบ้านเฉือนเอาชนะวีแกน 2-1 เก็บสามคะแนนเต็ม ส่งผลให้ ไบรท์ตัน มีเพิ่มเป็น 95 คะแนน จาก 43 เกม นำจ่าฝูงต่อไป พร้อมคว้าตั๋วเลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้าแน่นอนแล้ว
จากการที่ฮัดเดอร์สฟิลด์บุกไปเสมอกับดาร์บี้ เคาน์ตี้ 1-1 นั่นทำให้แต้มขาด ไม่มีทางที่ไบรท์ตัน จะหลุดจาก 2 อันดับแรกของตารางที่ได้เลื่อนชั้นโดยอัตโนมัติแน่นอนแล้ว ขณะที่เรดดิ้ง ซึ่งตอนนี้รั้งอันดับ 3 มี 79 คะแนน ต่อให้ชนะรวดในอีกสามนัดสุดท้ายที่เหลือก็ไม่มีทางไล่ทันไบรท์ตันได้อยู่ดี ทำให้เหลือแค่ลุ้นว่าไบรท์ตันจะเลื่อนชั้นในฐานะแชมป์หรือรองแชมป์เท่านั้น เพราะตอนนี้พวกเขานำอันดับ 2 นิวคาสเซิล อยู่ 7 คะแนน ขณะเหลืออีก 3 นัดจะจบฤดูกาล
นับเป็นการหวนคืนสู่ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีครั้งแรกของไบรท์ตันในรอบ 34 ปี นับตั้งแต่ปี 1983 และไม่น่าเชื่อว่า ไบรท์ตันที่เกือบจะกระเด็นออกนอกลีกเมื่อปี 1997 จะเลื่อนชั้นกลับขึ้นไปเล่นในลีกสูงสุดได้สำเร็จในอีก 20 ปีต่อมา.
เอเชียนแฮนดิแคป พุธที่ 19 เม.ย.
แชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีม นัดที่ 2
01.45 น. บาร์เซโลนา-ยูเวนตุส 0 : 1
01.45 น. โมนาโก-ดอร์ทมุนด์ 0/0.5 : 0