คำกล่าวที่ว่า “ปีนี้เผาหลอก ปีหน้าเผาจริง” อาจไม่ใช่การพูดแบบทีเล่นทีจริงอีกต่อไป เพราะนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังของประเทศ ฟันธงอย่างจริงจังว่าปีนี้ “เผาจริง” แน่ สอดคล้องกับความเห็นของสถาบันเศรษฐกิจภาคเอกชน ต่างทำนายว่าการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี อาจร่วงลงไปที่ 0.50% ถือว่าหนักหนาสาหัส

ข่าวหน้าเศรษฐกิจ “ไทยรัฐ” รายงานว่าศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจปีนี้เหลือ 0.50% เนื่องจากไวรัสโควิด-19 จะทำให้นักท่องเที่ยวหายไป 8.3 ล้านคน ส่งผลให้รายได้จากการท่องเที่ยวหายไป 4 แสนล้านบาท ภาคการท่องเที่ยวจะมีว่างงานเพิ่มขึ้น 2 แสนคน จากทั้งหมด 4 ล้านคน

ก่อนหน้านั้น ประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงเทพ แถลงว่าปัญหาเศรษฐกิจครั้งนี้จะมีความรุนแรงมากกว่าปี 2540 ด้วยซ้ำ เนื่องจากมีปัญหาภัยแล้งซ้ำเติมรุนแรง ราคาข้าวไทยสูงกว่าข้าวเวียดนามถึง 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ จะเกิดภาวะข้าวยากหมากแพง จีดีพีปีนี้มีโอกาสจะโตไม่ถึง 1.5% จากที่รัฐตั้งเป้าโต 3.3%

สอดคล้องกับความเห็นของประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน อันได้แก่ สภาหอการค้าไทย สมาคมอุตสาหกรรมไทย และสมาคมธนาคารไทย ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจของประเทศ มีมติปรับลดจีดีพีของไทย ไปอยู่ที่ 1.5-2% เนื่องจากการลุกลามไปทั่วโลกของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลให้การส่งออกติดลบ 2.0%

...

เท่านั้นยังไม่สาแก่ใจ รายงานวิเคราะห์ความยากจนและความเหลื่อมล้ำของไทย โดยธนาคารโลกประจำประเทศไทย ระบุว่าความยากจนในไทยพุ่งขึ้น จาก 7.2% เป็น 9.8% คนจนไทยเพิ่มขึ้นจาก 4.85 ล้านคน ในปี 2558 เพิ่มเป็นกว่า 6.7 ล้านคน ในปี 2561 ความยากจนกระจายตัวอยู่ในทุกภาค ใน 61 จังหวัด จากทั้งหมด 77 จังหวัด

เห็นได้ชัดว่าตัวเลขความยากจนในไทย ได้พุ่งขึ้นสูงมาก ในช่วงปี 2558 ถึง 2561 ช่วงของการปกครองโดยรัฐบาล คสช. ผู้นำฝ่ายเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยสัญญาจะทำให้คนจนหายไปจากประเทศไทยในช่วงเวลานั้น แต่ในโลกของความเป็นจริงขณะนี้ ตัวเลขคนจนอย่างเป็นทางการของรัฐ ขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็น 14.6 ล้านคน ที่ถือบัตรสวัสดิการรัฐ

ที่ผ่านๆมา คำกล่าวที่ว่า “ปีนี้เผาหลอก ปีหน้าเผาจริง” เป็นการวิจารณ์แบบทีเล่นทีจริง แต่คราวนี้ ดร.วีรพงษ์ รามางกูร นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังของประเทศ ฟันธงอย่างจริงจังว่าเศรษฐกิจข้างหน้านี้ จะกลายเป็น “ปี 2562 เผาหลอก ต้นปี 2563 เผาจริง ปลายปี 2563 เก็บกระดูกไปลอยอังคารได้” ขอภาวนาอย่าให้จริงทั้งหลอกและจริง.