ใกล้เดือนสงกรานต์ “ทางอีศาน” ฉบับเดือนมีนาคม 2563 ดูจะเพิ่มอุณหภูมิความร้อนทันที เมื่อคุณรัศมี เผ่าเหลืองทอง เขียนบทความลงมติชน หัวข้อ อุปนิสัยชี้ชะตากรรม สาวอีสานที่แต่งงานกับชาวต่างประเทศ เพื่อไต่เต้าเอาตัวรอดทางเศรษฐกิจและยกฐานะทางสังคมของตนเอง
คุณปรีดา ข้าวบ่อ เปิดประเด็นไว้ในบทบรรณาธิการ ตามด้วยแง่คิดผู้นำสตรีอีสาน ทั้งด้านวิชาการและความเห็นในเชิงต่อต้านหลากหลาย
ใครที่รัก “ทางอีศาน” ก็คงได้อ่านอยู่แล้ว ใครที่ยังไม่รัก และเพิ่งรู้จัก ผมแนะให้ไปหาซื้ออ่าน ในโลกโซเชียลฯเป็นข่าวใหญ่วันนี้ หาสื่อหนังสือดี...อ่านได้น้อยขึ้นทุกวัน
ใครที่คิดว่า สาวอีสานแต่งงานกับฝรั่งแล้ว ฐานะและชีวิตก็เหมือนขึ้นสวรรค์ ลองอ่านแง่มุมหนึ่งทางวิชาการ ของ ผศ.ดร.พัชรินทร์ ลาภานันท์
เวลาที่ผู้หญิงไปอยู่ที่นู่น ชีวิตเขาลำบากมาก
ผู้หญิงที่มีการศึกษา วุฒิจากประเทศไทยไม่ถูกนับ ไปทำงานเขาไม่ยอมรับ ถ้าจะไปทำงานต้องไปเรียน ต้องทำงานหนัก ทั้งไปเสิร์ฟอาหาร ไปเป็นแรงงาน หรือว่าทำธุรกิจของตนเอง
“อยู่ที่นั่น คุณถูกเขามองอีกแบบหนึ่ง เป็นพลเมืองประเภทสอง”
ด้วยเหตุนี้ ผู้หญิงจึงชอบรวมตัวกัน คุยกัน มันก็คือกลุ่มของเขา ไม่ต้องถูกใครมอง กระทั่งสามีเองก็ยอมรับสังคมในภาพรวม ไม่ได้ยอมรับแบบ 100%
การอยู่ในต่างประเทศสิ่งที่ทุกคนอยากได้คือสัญชาติ ก่อนจะได้สัญชาติ มันจะได้อีกอันหนึ่งที่เรียกว่า “วีซ่า” สิทธิการอยู่อาศัยโดยถูกกฎหมาย
สิทธินี้สามารถได้ด้วยการผ่านการแต่งงาน
การแต่งงานที่ถูกกฎหมาย สมัยก่อนอาจจะง่าย แต่สมัยนี้มันไม่ง่ายแล้ว เพราะมีเอกสารยุ่งยากมาก
...
แต่ละประเทศก็จะมีกฎหมาย มีระเบียบกฎเกณฑ์ที่จะคัดกรองคนมากขึ้น
อย่างเนเธอร์แลนด์ เมื่อก่อนเรียนฟรี ต่อมาก็เป็นไม่เรียนฟรี คุณต้องมีส่วนจ่าย
ผู้หญิงอีสานทำงานเมืองนอกลำบาก แต่หากเมื่อกลับบ้าน ก็มักแสดงออกถึงความร่ำรวย ลูกได้เรียนหนังสือ ดูแลพ่อแม่ดี มีบ้านหลังใหญ่ มีรถขี่ บางคนเอาเงินบริจาคพัฒนาหมู่บ้าน สร้างวัด ทอดกฐินผ้าป่า
ตอนอยู่กับสามีที่เมืองนอก ถ้าพ่อแม่ขอเงิน หาไม่ได้ก็ต้องหยิบยืมคนอื่น จนหลายครั้งสามีตั้งคำถาม ทำไมผู้หญิงไทยเรียกร้องมากนัก
ผู้ชายตะวันตกหลายคนไม่เข้าใจ วัฒนธรรมบ้านเขา พ่อแม่แก่เฒ่า ก็อยู่ในระบบสวัสดิการของรัฐ ลูกๆไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยว ขณะที่วัฒนธรรมไทยพ่อแม่อับจนก็ต้องพึ่งลูก
ความไม่เข้าใจวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน บางคู่สามีภรรยา ถึงขั้นเลิกร้างกัน
อ่านถึงตรงนี้...ผมจึงรู้ว่า ประเทศพัฒนา เขามีระบบสวัสดิการดูแลคนแก่ได้สมบูรณ์แบบ ไม่เป็นปัญหาให้ลูกต้องเป็นห่วงพะว้าพะวัง...ข้อดีๆ เหล่านี้ ผมสงสัย จะมีนักการเมืองเมืองไทย...สนใจบ้างหรือเปล่า
เรื่องที่ทะเลาะเบาะแว้ง พิพาทบาดหมางกัน ทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้านก็มักเป็นเรื่องผลประโยชน์ของพรรค ของพวก มากกว่าเรื่องสังคม ปัญหาคนชราในสังคมไทย กำลังเป็นปัญหาใหญ่ ที่ยังหาจุดลงตัวไม่เจอ
เงิน 500 บาทต่อเดือน ที่มีข่าวจะเพิ่มเป็น 1 พันบาท ก็รู้ๆอยู่กับใจ ...เงินแค่นี้ดูแลชีวิตได้สักกี่มากน้อย
นี่คือแง่คิดที่แตกหน่อขยายกอ จากเรื่องผู้หญิงอีสานแต่งงานกับฝรั่ง...ผมมองเรื่องผู้หญิงอีสานเหมือนภูเขาใหญ่ คุณเพ็ญศรี เผ่าเหลืองทอง จุดไฟให้เห็นมุมหนึ่ง...แล้วจึงมีคนช่วยจุดไฟให้เห็นทั้งภูเขา
แทนการโกรธขึ้งตึงตัง ผมว่านะ น่าจะขอบคุณเธอเสียด้วยซ้ำไป.
กิเลน ประลองเชิง