13.00 น. วันนี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ วารสาร “การเงินธนาคาร” ร่วมกันจัดพิธีมอบ รางวัลเกียรติยศตลาดทุนไทย SET Awards 2019 ที่อาคารตลาดหลักทรัพย์ ถ่ายทอดสดทาง Facebook และติดตามข้อมูลได้ที่ www.set.or.th/setawards  รางวัล SET Awards ปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 16 แล้ว จากการริเริ่มของ วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับ ตลาดหลักทรัพย์ เพื่อยกย่อง บริษัทจดทะเบียน และ ผู้บริหารสูงสุด (CEO) ที่มีผลงานยอดเยี่ยมในรอบปีที่ผ่านมา การมอบรางวัลในปีนี้ได้รวมการมอบรางวัล Sustainability Awards ด้วยเป็นครั้งแรก เป็นงานยิ่งใหญ่ที่สุดของตลาดทุนไทย

การมอบรางวัลจะมี ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ประธานตลาดหลักทรัพย์ ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เป็นผู้มอบรางวัลแยกกันตามหมวดรางวัล

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) มีบริษัทจดทะเบียน 554 บริษัท ตลาดหลักทรัพย์ MAI มีบริษัทจดทะเบียน 166 บริษัท มีบริษัทผ่านเข้ารอบสุดท้าย 71 บริษัท และมีผู้บริหารสูงสุดผ่านเข้ารอบสุดท้ายเพื่อชิงตำแหน่ง Best CEO of the Year 2019 และ Young Rising Star 2019 รวม 12 ท่านเท่านั้น การกลั่นกรองรางวัล SET Awards จึงเป็นการกลั่นกรองที่เข้มข้นทุกขั้นตอน มีข้อมูลที่สามารถอ้างอิงได้ ดังนั้น บริษัทจดทะเบียนและซีอีโอที่ได้รับ รางวัล SET Awards จึงเป็นบริษัทและผู้บริหารสุดยอดจริงๆ มาจากฝีมือล้วนๆ

รางวัล SET Awards 2019 มี 7 กลุ่มรางวัล แต่ละรางวัลจะเพิ่มความตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่ 1.Best Investor Relation Awards 2.Best Innovative Company Awards 3.Best Securities Awards 4. Best Asset Management Awards 5. Best Company Performance Awards 6.Best Deal of the Year Awards 7.Best CEO of the Year Awards ส่วนรางวัล Sustainability Awards จะมี 3 กลุ่มรางวัลคือ Best Sustainability Awards, Highly Commended in Sustainability Awards และ Rising Star Sustainability Awards

...

การกลั่นกรองบริษัทจดทะเบียนเข้าชิงรางวัลแต่ละปี ตลาดหลักทรัพย์ และ วารสารการเงินธนาคาร ได้มอบให้ TRIS Corporation บริษัทจัดอันดับความเสี่ยงของไทยเป็นผู้ประมวลข้อมูล โดยมี คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 11 ท่าน ส่วนใหญ่เป็นอดีตกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ มี ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ประธานตลาดหลักทรัพย์ เป็นประธานกรรมการ เป็นผู้ตัดสินในทุกขั้นตอน

เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนมีขนาดใหญ่เล็กต่างกัน การพิจารณารางวัลจึงมีการแบ่งออกเป็น 6 กลุ่มตามมาร์เกตแคป เพื่อให้แข่งขันกันในขนาดที่ใกล้เคียงกันดังนี้ 1. บริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์มากกว่า 100,000 ล้านบาทขึ้นไป 2. บริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ 30,000-100,000 ล้านบาท 3. บริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ 10,000-30,000 ล้านบาท 4. บริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ 3,000-10,000 ล้านบาท 5. บริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตํ่ากว่า 3,000 ล้านบาทลงมา 6. บริษัทจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ

ผมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ก็เลยอยากจะเล่าสู่กันฟังว่า การกลั่นกรองทุกรางวัลเป็นไปอย่างเข้มข้นมาก การพิจารณาข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนทุกบริษัท ไม่ใช่พิจารณาเพียงผลประกอบการ แต่พิจารณาไปถึงประสิทธิภาพของบริษัท ธรรมาภิบาล ความโปร่งใส ความยั่งยืน ไปจนถึงพฤติกรรมของผู้บริหารระดับสูงมาประกอบด้วย ถ้าผู้บริหารบริษัทใดถูกลงโทษตามกฎหมาย จะถูกตัดสิทธิทันที บริษัทที่ผ่านเข้ารอบกว่า 100 บริษัท และกรองจนเหลือเข้ารอบสุดท้าย 71 บริษัท จึงเป็นบริษัทจดทะเบียนที่สุดยอดจริง

ผู้ลงทุนจะใช้เป็น “คัมภีร์” ในการลงทุนหุ้นระยะยาว ก็น่าจะใช้ได้เป็นอย่างดี

ช่วงนี้ ดอกเบี้ยเงินฝากโลกอยู่ในขาลง หลายประเทศดอกเบี้ยติดลบ การทำให้เงินงอกเงยได้ก็มีแต่ ตลาดหุ้น นี่แหละ แต่การลงทุนมีความเสี่ยง ผมจึงเห็นว่า หุ้นกลุ่มที่ผ่านเข้าชิงรางวัลในรอบสุดท้าย น่าจะเป็นหุ้นที่พิจารณาลงทุนได้ดีที่สุดในยามนี้.

“ลม เปลี่ยนทิศ”