วิวัฒนาการที่สำคัญอย่างหนึ่งของสังคมไทยในปัจจุบันคือ จะมีการเผยแพร่ผลการสำรวจความเห็นของประชาชนเกือบทุกอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันหยุด วันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีการเผยแพร่ผลโพลออกมาหลายสำนัก ในประเด็นที่น่าสนใจ เช่น ใครเป็นรัฐมนตรีขวัญใจประชาชน และผลงานฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้าน

ผลการสำรวจของสำนักวิจัยซูเปอร์โพล ประชาชนส่วนใหญ่ 42.9% ยกให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม เป็นรัฐมนตรีขวัญใจประชาชน ตามด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีสาธารณสุข นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี

ส่วนสวนดุสิตโพลสำรวจความเห็นประชาชน เกี่ยวกับภาพรวมดัชนีการเมือง ของเดือนตุลาคมได้ 4.09 คะแนน ฝ่ายค้านได้คะแนนสูงสุด 5.67 คะแนน ผลงานของนายกรัฐมนตรี และความสามัคคีของนักการเมืองได้ 3.83 ผลงานของรัฐบาล 3.79 สภาพเศรษฐกิจโดยรวมได้ 3.54 จริยธรรมวัฒนธรรมดีขึ้น

ชัดเจนว่า ผลของโพลทุกครั้งที่ผ่านมา พรรคฝ่ายค้านเป็นฝ่ายชนะรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง แม้การสำรวจล่าสุด นายกรัฐมนตรีจะได้รับยกย่องเป็นรัฐมนตรีขวัญใจประชาชน เพราะทำให้บ้านเมืองไม่วุ่นวาย แต่ยังสอบตกได้ 42.9% ผลงานด้านเศรษฐกิจก็ยังย่ำแย่ แต่ภาพรวมจริยธรรมวัฒนธรรมดีขึ้น

ผลงานด้านเศรษฐกิจที่ได้รับความนิยมสูงสุด และรัฐบาลอาจถือว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม ได้แก่ โครงการ ชิม ช้อป ใช้ แต่ผลการสำรวจความเห็นประชาชนยังมีความเห็นต่าง มีทั้งมองว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดี ทั้งที่เห็นว่าเสียงบประมาณเปล่า มีทั้งฝ่ายที่ให้ดำเนินต่อไปและฝ่ายที่ยุติโครงการ

โครงการชิมช้อปใช้ ผ่านไป แล้ว 2 รอบ รัฐบาลแจกเงินประชาชนไป 13 ล้านคน โดยมุ่งหวังว่าจะเร่งให้จีดีพีโตถึง 3% ให้ได้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เคยประเมินว่าโครงการนี้จะกระตุ้นจีดีพี 0.1–0.2 แต่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยฟันธงว่า อาจจะกระตุ้นได้แค่ 0.02

...

เลข 3 เป็นยอดปรารถนาสูงสุด ของรัฐบาล เพราะบรรดาผู้เชี่ยวชาญทุกสำนัก ทั้งภาครัฐและเอกชน ต่างฟันธงตรงกันว่า จีดีพีไทยปีนี้จะได้แค่ 2.8% อาจเป็นอัตราการขยายตัวของรายได้ประชาชาติที่ต่ำกว่าทุกประเทศในประชาคมอาเซียน แต่นายกรัฐมนตรียังยืนยันว่า เศรษฐกิจไม่ได้ “ถดถอย” เพียงแต่ “โตช้า”.