ผมไปนั่งกินข้าวปั้น+ซุปเต้าหู้+แกงกะหรี่เนื้อ+ปลาดิบ อยู่ที่โตเกียวมาได้ 3-4 วันแล้วครับ

หลังจากปั่นต้นฉบับแห้งๆ ว่าด้วยเรื่อง “สามย่านมิตรทาวน์” ขัดตาทัพเอาไว้เรียบร้อย ผมก็ขึ้นเครื่องของสายการบินไทยไปโตเกียว ในฉับพลันทันที

ด้วยความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะไปสัมผัสกับบรรยากาศของการแข่งขันกีฬา “รักบี้โลก ครั้งที่ 9” ที่ญี่ปุ่นขันอาสาเป็นเจ้าภาพและทำพิธีเปิดยิ่งใหญ่อลังการมาตั้งแต่วันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา และจะตะลุมบอนกันไปเรื่อยๆจนถึงนัดชิงชนะเลิศในวันที่ 2 พฤศจิกายน น่ะครับ

ผมเป็นแฟนรักบี้เข้าเส้นเลือดคนหนึ่ง เคยมีความสุขกับกีฬารักบี้อย่างมากเมื่อครั้งมาเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ เมื่อ 60 ปีก่อนโน้น

ดูรักบี้เป็นเพราะโดนเกณฑ์ไปเชียร์ทีม “พระเกี้ยวน้อย” ของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และเมื่อดูเป็นแล้วก็ติดงอมแงมตั้งแต่นั้นมา

พอเข้าธรรมศาสตร์ก็ไปเป็นกองเชียร์ของธรรมศาสตร์ ทั้งในการแข่งขันประเภทอุดมศึกษาและในการแข่งขัน “รักบี้ประเพณี” (คู่กับฟุตบอลประเพณี) ให้กับทีมท่าพระจันทร์ ตลอด 4 ปีที่เป็นลูกแม่โดม

บางเสาร์ อาทิตย์ ก็ไปดูการแข่งขันรักบี้อื่นๆที่ฮิตอยู่ในสมัยนั้น เช่น “รักบี้ชาวเรือ-ชาวไร่” การแข่งประเพณีระหว่าง โรงเรียนนายเรือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

รวมทั้งเคยตีตั๋วไปดูการแข่งขันรักบี้ประเพณีข้ามประเทศระหว่าง โรงเรียนวชิราวุธ กับ มาเลย์คอลเลจ โรงเรียนมัธยมที่ดังที่สุดของมาเลเซีย ซึ่งบางครั้งมาแข่งกันที่สนามศุภชลาศัยเก็บสตางค์จากคนดูทั่วไป

นี่คือความสุขของคนรักกีฬารักบี้ในประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2501-2510 ยุคที่ผมเข้ามาเรียนหนังสือจนจบมหาวิทยาลัย แล้วออกมาทำงานในช่วงแรกๆ

...

แต่แล้วจู่ๆกีฬารักบี้ก็เหมือนบุคคลล้มละลายที่หายหน้าหายตาไปจากสังคมไทยซะงั้น เพราะแทบไม่มีการแข่งขันกีฬารักบี้ให้ดูเลย หรืออาจมีก็ได้ แต่ไม่รู้ว่าแข่งที่ไหน เพราะหน้ากีฬาของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับไม่มีการลงข่าว

ผมเขียน “จ่าแฉ่ง” ในไทยรัฐมา 40 กว่าปีก็ไม่เคยเขียนถึงรักบี้ เพราะหัวหน้าข่าวกีฬาเขาบอกว่าไม่ต้อง ก็เลยหันมาเขียนถึง อเมริกันฟุตบอล กีฬาที่ผมหลงใหลอีกประเภทหนึ่งที่มีรากเหง้ามาจากรักบี้...แทน

คราวนี้ที่ตั้งใจจะไปดูไปสัมผัสบรรยากาศ ก็ไปเองจ่ายสตางค์เอง ไม่กล้าเบิกโรงพิมพ์ และไม่กล้าเบิกสถานีวิทยุ FM96 ของสยามอินเตอร์มีเดีย เพราะทราบดีว่าทั้ง 2 ต้นสังกัดผมไม่มีนโยบายเสนอข่าวรักบี้โลกแต่ประการใด

ประกอบกับผมรับปากลูกๆหลานๆว่าจะจัดทัวร์อย่างประหยัดใช้ตั๋วเครื่องบินราคาถูก แลกไมล์บ้าง แลกพอยท์จากบัตรเครดิตบ้าง แล้วก็จองห้องพักเอง ไปนอนตามบ้านที่เขาเปิดให้เช่าราคาถูกในกรุงโตเกียว เพื่อท่องเที่ยว ทั้งในโตเกียวและรอบๆมาตั้งแต่ปีที่แล้ว

ก็เลยถือโอกาสมาจัดเสียในปีนี้ และเลือกเอาช่วงเวลานี้ เพื่อผมจะได้ไปสัมผัสบรรยากาศ “รักบี้โลก” กีฬาที่ผมชอบด้วยเป็นของแถม

ผมคงไม่หวังที่จะเข้าไปดูในสนาม เพราะไม่ได้ติดต่อไปทำข่าวล่วงหน้าเหมือนตอนไปทำข่าว “ซุปเปอร์โบว์ล” หรือ “ฟุตบอลยุโรป” หรือแม้แต่การเตรียมการฟุตบอลโลกครั้งก่อนๆจึงไม่มีบัตรคล้องคออะไรเป็นพิเศษ

ตั้งใจแต่เพียงว่าถ้ามีเวลาว่างก็จะไปตีตั๋วดู ถ้าไม่ว่างเลยก็จะไปดูแค่ “แฟนโซน” ที่เขาจัดไว้สำหรับให้แฟนๆรักบี้ไปดูทีวีร่วมกันแถวๆหัวถนน “กินซ่า” ซึ่งผมก็ไปมาแล้วตั้งแต่วันแรก และได้พูดออกอากาศผ่านรายการวิทยุของผมมาบ้างแล้ว

เมื่อวันก่อนก็แวะไปที่ “โยโกฮามา” เมืองที่เขามอบหมายให้เป็นเจ้าภาพพิธีปิดและนัดชิงชนะเลิศในวันที่ 2 พฤศจิกายน

ครับ ทั้งหมดนี้คือสาเหตุที่ทำให้ผมต้องไปนั่งเขียนต้นฉบับที่โตเกียว และส่งอีเมล (ไม่) ด่วนมารายงานท่านผู้อ่านในวันนี้...และคงจะรายงานต่ออีกหลายๆวัน รวมทั้งเรื่องราวอื่นๆที่น่าสนใจด้วย

แน่นอนถ้ามีเรื่องอะไรใหญ่ๆหรือฮือฮามากๆในบ้านเรา ผมจะตัดภาพกลับมาทันที เพราะยุคนี้ไปอยู่ไหนก็เหมือนอยู่เมืองไทย ดูไลน์ ดูเฟซบุ๊ก ดูข่าวของสำนักต่างๆ รวมทั้งไทยรัฐออนไลน์ ตลอดทั้งวันได้อยู่แล้วครับ.

“ซูม”