เขียนถึงเรื่องฟุตบอลไทยแพ้เวียดนามไปหมาดๆเมื่อวานนี้

วันนี้ตั้งใจจะเขียนถึงการจัดตั้งรัฐบาลใหม่สลับฉากบ้าง เพราะมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แต่พอมาดูข่าวกีฬาต่างประเทศภาคเช้าและอ่านข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศทุกสำนักว่าด้วยการพ่ายแพ้ของทีมฟุตบอลหญิงไทย หรือ ทีม “ชบาแก้ว” ที่แพ้ให้แก่ทีมชาติสหรัฐอเมริกาถึง 13-0 ในการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิงรอบแบ่งกลุ่มที่ฝรั่งเศส...ผมก็ต้องเปลี่ยนใจหันกลับมาเขียนเรื่องฟุตบอลอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านักฟุตบอลหญิงของไทยเราร้องไห้กันไม่หยุดที่พ่ายแพ้มากถึงขนาดนี้ และต่อมามาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวตอนหนึ่งว่า

“ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อจิตใจเด็กๆของเราเยอะมาก ทุกคนร้องไห้หนัก ตอนนี้ต้องกลับไปปรับสภาพจิตใจเด็กๆให้กลับมาโดยเร็ว”

“แป้งขอบคุณแฟนบอลชาวไทยที่มาเชียร์ที่สนามและคนไทยที่เชียร์อยู่ที่บ้าน แป้งในฐานะผู้จัดการต้องกราบขอโทษแทนนักฟุตบอลและน้อมรับคำติชมทั้งหมด เราจะสู้อย่างเต็มที่ใน 2 นัดที่เหลือด้วยน้ำใจนักกีฬา เพื่อให้ทั่วโลกได้รู้จักและได้ยินเพลงชาติไทย”

...

ผมขอร่วมปลอบใจนักฟุตบอลหญิงของเราด้วยอีกแรงหนึ่งครับ

นี่เป็นสถิติการยิงประตูมากที่สุดและชนะกันมากที่สุด ของการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิงรอบสุดท้าย ก่อนหน้านี้เยอรมันหญิงเคยซัลโวอาร์เจนตินาหญิงไว้ 11-0 เป็นสถิติสูงสุด แต่จากนี้ไปสถิติไทยแพ้สหรัฐฯ 0-13 จะเป็นที่กล่าวขวัญถึงแทน

ก็ช่างมันเถอะ อย่าไปซีเรียสกับสถิตินี้เท่าไรนักขอบคุณมาดามแป้งที่บอกว่าจะพยายามปลุกขวัญเด็กๆ เพื่อให้กลับมาสู้ในนัดที่เหลือต่อไป เรายังเหลืออีก 2 นัด เจอ สวีเดน กับ ชิลี กระดูกทั้งคู่

เหนืออื่นใดผมอยากจะปลอบลูกๆ หลานๆ นักเตะหญิงของผม ซึ่งอาจจะยังเสียใจไม่หาย และคงไม่มีเวลาอ่านข่าวว่า ชัยชนะของนักเตะอเมริกันครั้งนี้ ก็โดนวิพากษ์วิจารณ์และได้รับคำตำหนิติติงไปเหมือนกัน

ไม่มีใครเขาว่าที่ได้ชัยชนะท่วมท้น เพราะคนเก่งกว่าย่อมยิงประตูได้มากกว่าเป็นของธรรมดาๆอยู่แล้ว

แต่ที่สื่อต่างประเทศเขาวิจารณ์ก็คือ ทำไมผู้เล่นสหรัฐอเมริกาถึงได้แสดงความดีใจและ “ฉลอง” อย่างเว่อร์ๆ ทุกครั้งที่ทำประตูได้

เขาบอกกันว่าลูกแรกๆ ยูฉลองแบบนั้นก็โอเคอยู่หรอก แต่พอลูกที่ 10 ที่ 11 ที่ 12 แม้แต่ลูก 13 ยังฉลองอีก เขาถือว่าเกินไป
อดีตนักฟุตบอลหญิงแคนาดาถึง 2 คน โพสต์แสดงความเห็นใจนักเตะไทย และตำหนิผู้เล่นสหรัฐฯว่า “ไร้สปิริต”

“อย่าลืมว่าเด็กๆดูกันอยู่เยอะนะ นี่เป็นการไม่ให้เกียรติคู่ต่อสู้หรือเปล่า จะทำให้เด็กๆเอาอย่าง และคิดว่านี่เป็นการกระทำที่ถูกต้องหรือเปล่า” หนึ่งในสองโพสต์ไว้ในทำนองนั้น

สื่อสหรัฐอเมริกาเองก็นำเสนอข่าวในประเด็นนี้ และมีการพูดถึงประเด็น “ฉลองเกินเหตุ” อยู่บ้างประปราย แต่แน่นอนชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของเขาดูจะกลบประเด็นไป...ช่วงนี้คนอเมริกันกำลังมีความสุขกับฟุตบอลโลกหญิงและเห่อกันทั้งประเทศ

ในฐานะแชมป์โลก 3 สมัย รองแชมป์ 1 สมัย และที่สามอีก 3 สมัย แถมยังเป็นเต็งหนึ่งที่จะเป็นแชมป์คราวนี้ อาจทำให้คนอเมริกันลืมมารยาทในการเชียร์บอลไปบ้างก็ให้อภัยเขาเถอะ

ผมขอปลอบใจและให้กำลังใจน้องๆนักเตะชบาแก้วอีกครั้ง...ขอให้เล่นให้ดีที่สุดใน 2 ครั้งที่เหลือ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ขอให้ยืดอกเข้าไว้ พร้อมกับยกมือไหว้แฟนๆให้ทั่วสนาม เพื่อให้เขาจดจำมารยาทที่ดีของเราไว้ตลอดไป

...

ผมคงไม่โยงเรื่องบอลหญิงของเราที่แพ้อเมริกา เข้ากับการเมืองการเศรษฐกิจ หรือการค้า อย่างที่โยงกับเวียดนามหรอกครับ เพราะยังไงๆ เขาก็เป็นยักษ์ใหญ่ เป็นอภิมหาอำนาจ เราแข่งอะไรกับเขาไม่ได้อยู่แล้วละ

แต่สำหรับเวียดนามเป็นประเทศใกล้บ้าน และตอนนี้กำลังเป็นคู่แข่งด้านเศรษฐกิจกับเราโดยตรง เมื่อฟุตบอลเราแพ้เขา จึงต้องจับมาโยงกันหน่อย เพื่อเตือนสติผู้บริหารและนักการเมืองบ้านเราเอาไว้บ้าง

ผมยังห่วงว่าถ้านักการเมืองของเรายังทะเลาะกัน และมาเป็นรัฐบาล ก็แย่งกระทรวงกันอุตลุด แถมคนไทยก็ยังทะเลาะกันซะอีก...ไม่นานนักหรอก ในสนามเศรษฐกิจเราจะแพ้เวียดนามเอาน่ะนา.

"ซูม"