(ภาพ : นายบุญทรง เตริยาภิรมย์)

เป็นคำพิพากษาประวัติศาสตร์ อีกครั้ง เมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาให้จำคุก พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นเวลา 50 ปี และพิพากษาให้จำคุกนายสุธี เชื่อมไธสง คนสนิทของอดีตนักธุรกิจชื่อดัง 32 ปี และให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่รัฐกว่า 16,000 ล้านบาท

คนแรกเป็นตัวการผู้กระทำผิด ส่วนคนที่สองเป็นผู้สนับสนุน เป็นการกระทำผิดในคดีทุจริตรับจำนำข้าว คำพิพากษาระบุว่า มีการวางแผนร่วมกัน โดยอ้างชื่อบริษัทต่างชาติ 2 บริษัทและทำสัญญาซื้อขายข้าวจากการรับจำนำแบบรัฐต่อรัฐ และนำไปขายในราคาต่ำกว่าตลาด โดยไม่มีการส่งข้าวออกไปต่างประเทศจริง จำเลยทั้งสองหลบหนีคดี แต่ศาลรื้อขึ้นมาพิจารณาลับหลัง

ก่อนหน้านี้ศาลเคยพิพากษาให้จำคุกจำเลยไปแล้ว 18 ราย รวมทั้งนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วย ข้าราชการระดับสูง และนักธุรกิจ ชื่อดัง บางคนถูกจำคุกถึง 30–40 ปี คดีทุจริตรับจำนำข้าวกลายเป็นมหากาพย์ อดีตนายกรัฐมนตรีก็ถูกพิพากษาจำคุก ฐานปล่อยปละ ละเลยให้เกิดการทุจริต โดยไม่มีการระงับยับยั้งตามอำนาจหน้าที่

คดีนี้เป็นกรณีตัวอย่างของการทุจริตทางการเมือง รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ของ คสช.นำมาเขียนบังคับไว้ว่ารัฐธรรมนูญถาวรจะต้องมีกลไกป้องกันการบริหารราชการแผ่นดิน ที่มุ่งสร้างความนิยมทางการเมือง ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ และประชาชนในระยะยาว เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รัฐธรรมนูญ 2560 ถูกเรียกว่า “ฉบับปราบโกง”

เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับพรรค การเมืองและนักการเมืองทั้งหลาย แต่ไม่ทราบว่าจะจดจำบทเรียนหรือไม่ เพราะในการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา หลายพรรคแข่งกันประกาศนโยบายที่ “มุ่งสร้างความนิยมทางการเมือง” หรือประชานิยมลดแลกแจกแถม เช่น นโยบาย “มารดาประชารัฐ” แจกเงินสะบัดตั้งแต่แม่ฝากครรภ์ หรือนโยบาย “เกิดปั๊บรับแสน” แจกสะบั้นหั่นแหลก

...

ถ้าพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคพลังประชารัฐ สามารถพูดจาตกลงร่วมรัฐบาลกันได้ ไม่ทราบว่าพรรคใดจะได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ทั้งสองพรรคมีนโยบายเรื่องการเกษตรที่ต่างกัน ถ้าเป็นรัฐมนตรีจากพรรค พปชร.ต้องชูนโยบายวัวล้านตัว แจกเงินช่วยชาวนาเกี่ยวข้าว บวกค่าเก็บและรับจำนำยุ้งฉาง ส่วนพรรคประชาธิปัตย์เน้นนโยบายเรื่องประกันราคาพืชผล

หวังว่าทุกฝ่ายจะศึกษาบทเรียน จากคดีทุจริตรับจำนำข้าว ซึ่งกลายเป็นโศกนาฏกรรม ทั้งสำหรับนักการเมืองและชาวนา นักการเมืองระดับรัฐมนตรีและข้าราชการระดับสูงต้องติดคุกระนาว ส่วนชาวนากว่าสิบคนต้องผูกคอตาย เนื่องจากรัฐบาลขาดทุนหลายแสนล้านบาท เพราะซื้อแพงขายถูกและมีการทุจริต ในที่สุดรัฐบาลไม่มีเงินจ่ายชาวนาที่มีเจ้าหนี้เร่งรัดอยู่.