สวัสดีปีเก่า 2561 ครับ ท่านผู้อ่านที่เคารพทุกท่าน วันเสาร์สบายๆ เสาร์สุดท้ายของปี 2561 วันนี้ ผมขอชวนท่านผู้อ่านไปคุยเรื่องอนาคตกันนะครับ เป็น “โมเดลธุรกิจในอนาคต” จากวารสาร “การเงินธนาคาร” ฉบับเดือนธันวาคม คุณวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการบริหาร บลจ.บัวหลวง และ คุณศิรารัตน์ อรุณจิตต์ ผู้จัดการกองทุน บลจ.บัวหลวง ได้สรุปจากรายงานของ Euromonitor ถึง แนวโน้มการบริโภคของมนุษย์ในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อโมเดลการทำธุรกิจในอนาคต

ผมเลยเก็บมาเล่าสู่กันฟังส่งท้ายปี จะได้เตรียมปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจล่วงหน้า ก่อนที่จะถูกดิสรัปท์จากเทคโนโลยียุคใหม่ โดยเฉพาะเทคโนโลยี 5 จี

ยูโรมอนิเตอร์ ระบุว่า การบริโภคของครัวเรือนในอนาคตจะเปลี่ยนไป จากการเปลี่ยนของ 3 โครงสร้างสำคัญ คือ การเพิ่มขึ้นของครัวเรือนตัวคนเดียว การขยายตัวของเมือง และ สังคมดิจิทัล อ่านแล้วไปคิดกันดูนะครับ เมื่อสังคมโลกเปลี่ยนไปโมเดลธุรกิจควรจะเปลี่ยนไปอย่างไร เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่เกิดขึ้น

1.การเพิ่มขึ้นของครัวเรือนตัวคนเดียว ยูโรมอนิเตอร์คาดการณ์ว่าระหว่างปี 2559-2573 การเปลี่ยนแปลงของครัวเรือนทั่วโลกจะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มครัวเรือนที่มีพ่อแม่ลูกครบ จะเติบโต 16% กลุ่มครัวเรือนที่มีลูกอยู่กับแม่หรือพ่อคนเดียว จะเติบโต 25% (แสดงว่าการหย่าร้างจะมีมากขึ้น) กลุ่มครัวเรือนที่สามีภรรยาแต่งงานกันแต่ไม่มีลูก จะเติบโต 27% และ กลุ่มครัวเรือนคนเดียวหรืออยู่คนเดียว จะเติบโตกว่า 30% (แสดงว่าแนวโน้มพลเมืองโลกจะอยู่คนเดียวหรือเป็นโสดกันมากขึ้น)

เมื่อดูกลุ่มครัวเรือนทั่วโลก 2,000 ล้านครัวเรือน พบว่า มีครัวเรือนตัวคนเดียวสัดส่วน 15% หรือประมาณ 300 ล้านครัวเรือน ประเทศที่มีครัวเรือนตัวคนเดียวมากที่สุด คือ กลุ่มประเทศยุโรป ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่า 40% ได้แก่ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ เยอรมนี และ นอร์เวย์ (ก็ไม่รู้เป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกได้อย่างไร)

...

ปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ครัวเรือนตัวคนเดียวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก็คือ การเปลี่ยนแปลงด้านอาชีพและการศึกษา เมื่อผู้คนได้รับการศึกษาดีขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงที่ได้รับโอกาสในหน้าที่การงานมากขึ้น รวมถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มุ่งมั่นพัฒนาตนเอง สนใจความเป็นอยู่ของตัวเองสูง ความสนใจในการมีครอบครัวที่สมบูรณ์ก็ลดลง การแต่งงานและมีลูกก็จะช้าลง

การเพิ่มขึ้นของเทคโนโลยีก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง เมื่อผู้คนเข้าถึงสื่อบันเทิงได้ง่ายขึ้น การเดินทางท่องเที่ยวที่สะดวก ราคาที่ถูกลง คนเลยมีทางเลือกในการใช้เวลาว่างด้วยตัวเองแบบไม่ต้องง้อใคร อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ผู้สูงอายุที่อยู่ตัวคนเดียวมากขึ้น จากการเป็นม่ายและหย่าร้าง ข้อมูลในปี 2558 พบว่ากลุ่มครอบครัวตัวคนเดียวในอังกฤษมีสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุด

เมื่อมีครอบครัวตัวคนเดียวมากขึ้น การบริโภคสินค้าก็ลดขนาดลง แต่บริการด้านความบันเทิง ท่องเที่ยว กีฬา จะได้รับความสนใจมากขึ้น ความต้องการที่อยู่อาศัยแบบคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น ผู้คนจะสนใจผลิตภัณฑ์ที่สร้างความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันมากขึ้น

2.การขยายตัวของความเป็นเมือง องค์การสหประชาชาติคาดว่า ในปี พ.ศ.2573 ประชากรโลกจะมีมากกว่า 8,500 ล้านคน สิ่งที่ตามมาก็คือ การขยายตัวของความเป็นเมือง ในปี 2573 ประชากรโลกทั้งหมดกว่า 60% จะอาศัยอยู่ในเขตเมือง และ ทำให้เกิดเมืองขนาดใหญ่มากขึ้นทั่วโลก สิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดโอกาสใหม่ๆสำหรับธุรกิจ จากสังคมเมืองที่มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น และตามด้วยการขอสินเชื่อเพิ่มขึ้น

3.สังคมดิจิทัล อีก 10 ปีข้างหน้าเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว จะทำให้คนเร่งเข้าสู่สังคมดิจิทัลกันมากขึ้นและเร็วขึ้น ทำให้ไลฟ์สไตล์ของคนมีแนวโน้มเปลี่ยนไป บริการด้านอินเตอร์เน็ตจะมีความสำคัญสูงมาก พฤติกรรมของคนที่อยากจะออกจากบ้านไปช็อปปิ้งจะน้อยลง เทรนด์ที่จะตามมาก็คือ Sofa Shopping

การทำธุรกิจในอนาคตจึงต้องปรับเปลี่ยนให้ทันกับสภาพแวดล้อมของสังคมที่เปลี่ยนไป ลาแล้วครับปีเก่า ขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่านมีแต่ความสุขสมหวังครับ.

“ลม เปลี่ยนทิศ”