การเมืองตอนนี้ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ท่านว่าเป็นสามก๊ก ผมเปิดดูวอยซ์ทีวี จำไม่ได้ว่า เป็นอาจารย์พิชญ์ หรือคุณคำผกา เขาว่าไม่ใช่ เป็นแค่สองก๊ก กับหนึ่งกั๊ก
ใครเป็นก๊ก ใครเป็นกั๊ก ผมกำลังพยายามตามดู
นิทานพม่า (สำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์ พิมพ์ครั้งที่ 4 พ.ศ.2551) ส.พลายน้อย เล่าเรื่องนกกาเหว่าไข่ให้กาฟัก ยังมีนกเค้าแมวอีกตัว รวมเป็นสามตัว ลองอ่านกันดู ทดสอบปัญญาใครเป็นใคร
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว นกกา นกกาเหว่า นกเค้าแมว ยังทำมาหากินด้วยกัน ไม่แยกกลางวันกลางคืน
วันหนึ่งนกเค้าแมวโดนเด็กใจร้ายยิงลูกกระสุนฝังเข้าที่โคนขา มันเจ็บปวดมาก บินประคองตัวไปหานกกา ที่ตอนนั้นมันนับเป็นเพื่อน
“ฉันไม่ใช่หมอนะ” นกกาส่ายหน้า “ทางที่ดีแกต้องไปหานกกาเหว่า รายนั้นเค้าเป็นหมอ”
เมื่อไปถึงนกกาเหว่าเกี่ยงว่าจะไม่ยอมรักษา ชื่อเสียงนกเค้าแมวไม่ดี สังคมนกรู้กัน มันเป็นนกขี้โกง ต้องให้นกกาค้ำประกัน นกการักเพื่อนช่วยค้ำประกันให้
ตกลงกันแล้ว นกกาเหว่าก็เริ่มตรวจอาการ เมื่อพบว่ากระสุนที่ฝังโคนขานกเค้าแมวเป็นกระสุนดิน ก็แนะนำให้ไปแช่น้ำ นกเค้าแมวแช่น้ำสองสามชั่วโมง กระสุนดินก็ละลาย ความเจ็บปวดก็ค่อยทุเลา
ช่วงเวลาที่นกเค้าแมวกลับไปนอนรักษาตัวที่รัง มันนอนซึม นึกตำหนิตัวเองว่า โง่มากที่ไปออกปากให้นกกาเหว่ารักษา ก็แค่แช่น้ำก็หาย นกกาเหว่าไม่ได้รักษาอะไรมันเลย
ตกเย็นนกกาเหว่ามาเยี่ยมนกเค้าแมว “อาการเป็นไง” เมื่อนกเค้าแมวบอก “สบายดีแล้วละ ขอบใจมาก” มันก็ว่า “แสดงว่าการรักษาถูกต้อง” จึงยื่นเท้าข้างหนึ่งเป็นสัญญาณขอรับค่ารักษา
“ขาท่านสวยงามจริงๆ” นกเค้าแมวแกล้งไม่เข้าใจ จนในที่สุดนกกาเหว่าก็หลุดปากทวงตรงๆ
...
“อะไรกัน” นกเค้าแมวว่า “ท่านมารักษาฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ แผลฉันหาย เพราะน้ำรักษาฉันต่างหาก”
เรื่องก็ถึงนกกาผู้ค้ำประกัน แต่นกกาไม่มีเงินเลย เรื่องจึงถึงศาล นกกายอมไปศาล นกเค้าแมวหนีหน้าไปเลย นิทานไม่ได้บอก ศาลเป็นนกอะไร บอกแต่ว่าศาลพิพากษาว่า เมื่อนกกาไม่มีเงินชำระค่ารักษาในฐานะผู้ค้ำประกัน
จึงให้นกการับใช้นกกาเหว่าเป็นการตอบแทน
เมื่อนกกาเหว่าออกไข่ ก็ให้นกการับเป็นผู้ดูแลฟักไข่แทน นกกาก็มีงานเพิ่ม ฟักไข่นกกาเหว่านับแต่นั้นมา
นกกาเมื่อรับคำตัดสินของศาลแล้ว ก็บินตามหานกเค้าแมว มันตั้งใจเจอเมื่อไหร่ต้องฆ่าให้สมแค้น
แต่นกเค้าแมวรู้ตัว หนีไปซ่อนในโพรงไม้ และไม่ยอมออกมาหากินตอนกลางวัน เวลาที่พวกนกเคยหากิน เลือกออกมาหากินเวลากลางคืน
นิทานพม่าเรื่องนี้ไม่มีคำสอนต่อท้ายเหมือนนิทานอีสป แต่ก็ทิ้งประเด็นให้คิดต่อ
พรรคการเมืองเมืองไทยตอนนี้ ที่ว่าเป็นสองก๊ก ก๊กหนึ่งหาเสียง หาลูกพรรคได้อย่างเปิดเผย แต่อีกก๊กต้องหลบๆซ่อนๆ เพราะขืนทำก็ผิดกฎหมาย อาจถึงขั้นยุบพรรค
จะเหมาเอาก๊กที่หลบๆซ่อนๆเหมือนนกเค้าแมวหากินกลางคืนก็ไม่ถูก จะว่าก๊กที่หาเสียงหาลูกพรรคเปิดเผยเหมือนนกกาหากินกลางวัน ก็ไม่ถนัด เพราะทั้งนกเค้าแมวนกกาต่างก็อ้างว่าถูกโกงเหมือนๆกัน
การเมืองเมืองไทย ใครโกงใคร ใครโกงก่อน เถียงกันไม่จบ เหมือนปัญหาไก่เกิดก่อนไข่ หรือไข่เกิดก่อนไก่
ส่วนพวกที่ถูกเรียกว่า “กั๊ก” น่าจะเปรียบเหมือนนกกาเหว่า
ออกไข่แล้ว เอาไปฝากให้กาฟัก ไม่ต้องเหนื่อยแรงดูแลรักษา จนกระทั่งลูกโตสอนบิน
หนึ่งกั๊ก ตามที่วอยซ์ทีวีเขาว่า พอสังเกตได้ พวกนี้ไม่ค่อยเปิดตัวชัด ไม่ค่อยให้สัมภาษณ์สื่อ รอหวยออก หลังเลือกตั้งแบมือรับเงินเป็นรัฐบาลลูกเดียว.
กิเลน ประลองเชิง