เช้าวันส่งท้ายปีเก่า 31 ธันวาคม การโอนเงินระบบพร้อมเพย์เกิดล่มทั้งระบบทั่วประเทศตั้งแต่เวลา 07.00 น. โอนเงินแล้ว ผู้รับโอนไม่ได้รับเงิน สอบถามไปยังคอลเซ็นเตอร์ธนาคาร ก็ไม่มีธนาคารไหนตอบได้ จนมีผู้ไปตั้งกระทู้ในพันทิปและโซเชียลมีเดีย ผ่านไป 6 ชั่วโมง จึงมีธนาคารหลายแห่งได้ทยอยชี้แจงลูกค้าผ่านทางไลน์ว่า
ระบบพร้อมเพย์ร่วม ของ ธนาคารทุกแห่งขัดข้อง ทำให้ ไม่สามารถโอนเงินพร้อมเพย์ระหว่างธนาคารได้ชั่วคราว กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการแก้ไข ระหว่างนี้สามารถโอนเงินผ่านช่องทางอื่นได้ตามปกติ ยกเว้นพร้อมเพย์ ต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้
คุณจันทวรรณ สุจริตกุล โฆษกแบงก์ชาติ แถลงในเวลาต่อมาว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้รับรายงานเรื่องข้อติดขัดการโอนเงินในระบบพร้อมเพย์ เมื่อประมาณ 07.00 น. วันที่ 31 ธันวาคม และได้ประสานงานกับทาง บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ็กซ์ จำกัด ผู้ให้บริการกลางของระบบพร้อมเพย์ และธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการอย่างใกล้ชิด ทางไอทีเอ็มเอ็กซ์ทราบสาเหตุของข้อขัดข้องแล้ว กำลังดำเนินการแก้ไข
สำหรับประชาชนที่โอนเงินแล้ว แต่ผู้รับปลายทางอาจยังไม่ได้รับเงิน ขออย่าได้กังวลใจ ธปท.จะกำกับดูแลการโอนเงินในช่วงเวลาดังกล่าวให้ได้รับเงินโดยเรียบร้อย เมื่อเวลา 15.00 น. ได้รับรายงานจาก ไอทีเอ็มเอ็กซ์ ว่า แก้ไขระบบแล้ว อยู่ระหว่างทดสอบกับธนาคารสมาชิก เพื่อทดสอบการโอนเงินให้มั่นใจ หลังจากนี้ระบบจะกลับมาให้บริการได้ตามปกติ
ระบบพร้อมเพย์ล่มอยู่นาน 9 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 07.00–16.00 น. ของวันที่ 31 ธันวาคม เป็นการล่มที่นานมาก โชคดีที่เป็นวันหยุดและวันส่งท้ายปี การโอนเงินในระบบจึงมีไม่มาก ถ้าเป็นวันทำงานปกติ คงโกลาหลกว่านี้แน่นอน แม้ระบบจะใช้ได้ในเย็นวันที่ 31 แต่การโอนเงินทุกรายการระหว่างธนาคาร ลูกค้าได้รับเงินครบถ้วนในวันที่ 1 มกราคม 2561 เวลาประมาณ 17.00 น. เรียกว่าโอนเงินกันข้ามปีเลยทีเดียว
...
สาเหตุที่ระบบพร้อมเพย์ล่มทั้งประเทศ ทั้งๆที่เพิ่งเปิดใช้ได้ไม่กี่เดือน คุณสมคิด จิรานันรัตน์ ประธานชมรมไอที สมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นเนื่องจากระบบนับวันขึ้นปีใหม่ผิดพลาด เป็นเรื่องของโปรแกรมเออร์เรอร์ เพราะระบบกลางซื้อมาจากอังกฤษ แต่การโอนเงินพร้อมเพย์ในธนาคารเดียวกันยังใช้ได้ตามปกติ มีปัญหาเฉพาะโอนเงินพร้อมเพย์ต่างธนาคารเท่านั้น
ปัญหานี้ทำให้ผมนึกถึง วิกฤติ Y2K ในปี ค.ศ.2000 เมื่อระบบคอมพิวเตอร์ในโลกถูกตั้งโปรแกรมให้บันทึกเลขท้าย ค.ศ. 2 หลัก เลข 2 หลักข้างหน้าถูกละไว้ในฐานะที่เข้าใจ เมื่อเวลาเดินไปถึงวันที่ 31 ธันวาคม 1999 เข้าสู่วันที่ 1 มกราคม 2000 ระบบคอมพิวเตอร์จะเข้าใจว่าเป็นวันที่ 1 มกราคม 1900 เพราะไม่รู้จักปี 2000 ซึ่งจะทำให้ระบบการเงินโลก ระบบบัญชี และทุกสิ่งทุกอย่างที่บันทึกด้วยคอมพิวเตอร์ข้อมูลจะผิดเพี้ยนไปหมด
ผมไม่คิดว่าปัญหาแบบ Y2K จะมาเกิดขึ้นในยุคนี้อีก เมื่อ ซอฟต์แวร์ระบบพร้อมเพย์ ที่ ไอทีเอ็มเอ็กซ์ ซื้อมาจาก อังกฤษเกิดการ นับวันปีใหม่ผิดพลาด ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ในยุคนี้ แต่ถึงจะนับวันปีใหม่ผิดพลาด วันที่ 31 ธันวาคมก็ยังไม่ข้ามปี ไม่ว่าจะนับเวลาเมืองไทย หรือนับเวลาอังกฤษ
ก็เป็นปัญหาที่ ไอทีเอ็มเอ็กซ์ จะต้องแถลงให้ชัดเจนว่า เกิดอะไรขึ้น
เขียนเรื่องนี้แล้วผมมี ข้อมูลล่าสุดของ VISA ที่เผยแพร่ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ผมสำรวจ การใช้ Digital Payment แทนเงินสด ในเมืองใหญ่ทั่วโลก พบว่า เมืองใหญ่ในสหรัฐฯ เช่น ออสติน ชิคาโก นิวยอร์ก ซานฟรานซิสโก กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. คนนิยมใช้เงินสดมากกว่า ปี 2015 Accenture ก็เคยสำรวจมาแล้วพบว่า มีผู้บริโภคในอเมริกาเหนือเพียง 20% ที่ใช้โมบายเพย์เมนต์ในการซื้อสินค้า และ Fed หรือ ธนาคารกลางสหรัฐฯ ก็ระบุว่า ปริมาณเงินสดในระบบยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันมีธนบัตรหมุนเวียนอยู่ในตลาด 39,800 ล้านฉบับ ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ ข้อมูลสหรัฐฯล้วนๆ.
“ลม เปลี่ยนทิศ”