เมื่อปีที่แล้วประมาณกลางเดือนพฤศจิกายนนี่แหละ คอลัมน์ “เหะหะพาที” ของผมพาดหัวข่าวไว้ว่า “ไชโย! หอมมะลิไทยแชมป์โลกข้าว 2016” พร้อมกับเขียนบรรยายความปลื้มใจอย่างสุดๆ ที่ข้าวหอมมะลิสามารถทวงตำแหน่งแชมป์โลกกลับคืนมาได้

ด้วยการคว้าชัยชนะในการประกวดข้าวระดับโลก “World Best Rice” จัดโดยสถาบัน Rice Trader ในระหว่างการประชุมใหญ่ประจำปีที่จังหวัดเชียงใหม่

ข้าวหอมมะลิไทยคว้าแชมป์มาก่อนหน้านี้ถึง 2 ครั้ง แต่หลังจากนั้นเราก็พลาดแชมป์ไปหลายปี มาได้แชมป์ร่วมกับเขมรอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็กลับมาหลุดไปในปีถัดมา

ดังนั้นเมื่อกลับมาคว้าแชมป์ปี 2016 ที่เชียงใหม่ ทำให้สถิติของเรากลายเป็นแชมป์ 4 สมัย ผมจึงออกอาการยินดีอย่างสุดๆ

ตามวิสัยกองเชียร์ประเทศไทยตามเอาใจช่วยประเทศไทยในการแข่งขันทุกประเภท ไม่ว่ากีฬา, นางงาม, คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์ มาจนถึงการประกวดวงโยธวาทิต ว่าอย่างนั้นเถอะครับ

อะไรไม่อะไร การประกวด “ข้าวหอม” นอกจากจะมีผลในด้านเกียรติยศชื่อเสียงของประเทศไทยในฐานะประเทศปลูกข้าวว่าเรามีข้าวที่มีกลิ่นหอมและรับประทานอร่อยที่สุดในโลกชนิดไม่มีใครสู้ได้แล้ว

ยังจะมีผลทางด้านเศรษฐกิจทำให้เราขายข้าวหอมมะลิได้มากขึ้น ชาวนาผู้ปลูกข้าวหอมมะลิก็จะได้รับผลดีไปด้วยเป็นเงาตามตัว

พอผมพาดหัวแสดงความยินดีและแจ้งข่าวดีในวันแรกเสร็จ ผมก็ทิ้งท้ายชวนให้อ่านต่อในคอลัมน์วันถัดมาที่ผมพาดหัวว่า “น้อยใจ แทนหอมมะลิ แชมป์โลกข้าวที่เงียบสนิท”

บรรยายถึงความน้อยใจที่ชัยชนะของข้าวหอมมะลิไม่ได้รับความสนใจจากหน่วยราชการไทยที่เกี่ยวข้องเลย

ไม่มีใครเอาข่าวมาแถลงจนเวลาผ่านไปอาทิตย์กว่าๆ...ผมซอกแซกไปอ่านเจอในเว็บไซต์หนังสือพิมพ์เขมรถึงได้ทราบว่าเราเป็นแชมป์เพราะเขมรเขาส่งข้าว “ผกาลำดวน” ของเขามาประกวดแล้วได้ที่ 3

...

เขาก็เอามาเขียนข่าวเป็นเชิงปลอบใจให้สู้ต่อไปอย่าเพิ่งท้อ เพราะแพ้ข้าวไทยกับข้าวแคลิฟอร์เนียถือว่ายอมรับได้

ผมจึงหยิบมาบ่นน้อยใจที่ฝ่ายข้าราชการไทยไม่เห็นคุณค่าเลย ต่างกับกัมพูชา ที่เขาเสนอข่าวเป็นภาษาอังกฤษกระจายไปทั่วโลก เมื่อตอนที่เขาได้แชมป์ หรือแม้ตอนที่เขาได้ที่ 3 เขาก็ยังเอามาเผยแพร่ให้กำลังใจ เพราะมีข้าวมาประกวดถึง 14 ประเทศ

ได้ที่ 3 จาก 14 ประเทศ จึงเป็นเรื่องที่นำมาคุยได้

ในขณะที่ของเราทวงแชมป์คืนกลับมาได้ทั้งที กลับเงียบฉี่ซะงั้น จึงต้องบ่นดังๆให้รู้กันซะบ้าง

ปรากฏว่า สัปดาห์ถัดมาท่านนายกฯประยุทธ์ เอาไปพูดออกอากาศเลยว่า ข้าวหอมมะลิไทยทวงแชมป์โลกคืนสำเร็จ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี และผมก็เขียนขอบคุณท่านไปแล้ว ผ่านคอลัมน์นี้

แต่สำหรับปีนี้ ผมไม่ต้องบ่นน้อยใจอีกแล้วครับ เพราะทางฝ่ายราชการไทย ท่านทำหน้าที่ของท่านอย่างน่าชมเชยยิ่ง

ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อภิรดี ตันตราภรณ์ ท่านแถลงเองเลยว่า ข้าวหอมมะลิไทยคว้าแชมป์โลกอีกครั้ง ในการประกวดครั้งที่ 9 ที่มาเก๊า จัดโดย Rice Trader เช่นเดิม

สำหรับที่ 2 ได้แก่ ข้าวผกาลำดวนของเขมร และที่ 3 ได้แก่ข้าว ST 24 ของเวียดนาม

ท่านรัฐมนตรีสรุปด้วยว่า จากชัยชนะครั้งนี้ทำให้ข้าวหอมมะลิไทยเป็นข้าวรสชาติดีที่สุดในโลก รวมกันถึง 5 สมัย ท่านจึงขอแสดงความยินดี และเห็นควรเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่น รักษาคุณภาพ และดูแลมาตรฐานของข้าวหอมมะลิไทยอย่างเข้มงวดต่อไป รวมทั้งจะประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายในตลาดโลกมากขึ้นด้วย

ผมก็ถือโอกาสนี้ขอบคุณท่านรัฐมนตรีไว้ ณ ที่นี้ เพราะนอกจากจะกรุณาแถลงข่าวแล้ว ท่านยังประกาศยํ้าว่า จะประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั่วโลกสืบต่อไป

เพลงลูกทุ่งโบราณเพลงหนึ่งเขาร้องว่า--“2 ไม่พอจะเอา 3-4-5” ผมก็ขอหยิบมาต่อเติมซะว่า 5 แล้วก็ยังไม่พอ ขอให้เดินหน้าคว้าแชมป์ครั้งที่ 6-7-8 ไปเรื่อยๆนะครับข้าวหอมมะลิไทย.

“ซูม”