คนเราปกติเวลาซื้อสินค้าอะไรสักอย่างมาใช้ มัก “เห่อ” อยากอวด “ของใช้” หรือสินค้าตัวนั้นให้ใครๆได้รู้ว่า ชั้นซื้อมาแล้วนะ หรือชั้นเป็นเจ้าของสิ่งนี้แล้วนะเธอ อย่างนี้เรื่อยเลย
เพราะคนเราชอบแบ่งปันเรื่องราวของตัวเองให้คนอื่นรับรู้อยู่เสมอไงเล่า แต่แปลกเหมือนกันนะที่เวลาซื้อสินค้าบางอย่าง บางทีคนเราก็ไม่อยากบอกให้สมาชิกในครอบครัวหรือสมาชิกในบ้านรู้นักหรอกว่า ได้ซื้อสิ่งของนั้นมาใช้ อาจเพราะไม่รู้จะบอกไปทำไม? หรือหากมองอีกด้านว่า แอบไปซื้อสินค้านั้นมาใช้โดยไม่บอกให้คนในครอบครัวรู้ เนื่องจากบางทีขืนบอกคนในครอบครัวไปว่า ชั้นซื้อสินค้าชิ้นนี้มาใช้นะ ก็กลัวว่าจะถูกสมาชิกในครอบครัวเอ็ดตะโร หาว่าใช้เงินฟุ่มเฟือยเอาก็ได้ หรืออาจถูกถามว่า ซื้อมาทำไมไม่เห็นได้ใช้เท่าไหร่? แน่ะ
จึงปิดปากเงียบไม่บอก, ไม่พูด, ไม่กล่าวและไม่คุยให้สมาชิกในครอบครัวฟังดีกว่า เพราะขืนพูดไปอาจจะเกิดความเข้าใจผิดกันได้ หรืออาจถูกสมาชิกในครอบครัวต่อต้านว่า ไม่รู้ไปซื้อสินค้าชนิดนี้มาใช้ได้อย่างไร ทำไมไม่ซื้อสินค้าแบบเดียวกันแต่อีกยี่ห้อหนึ่งมาใช้ล่ะ อะไรเงี้ย
ว่าแล้วในเมื่อคุณไม่อยากถูกสมาชิกในครอบครัววิพากษ์วิจารณ์ถึงรสนิยมการเลือกซื้อสินค้าบางชนิดละก็ ดังนั้นสิ่งที่ง่ายที่สุดคือ เก็บเรื่องการซื้อคราวนี้เอาไว้เป็นความลับของตัวคุณเองดีกว่า จะได้ตัดปัญหาการถูกวิพากษ์วิจารณ์ในหลายๆด้าน
เนื่องจากเงินที่จ่ายไปก็เป็นเงินที่คุณหามาได้เองนี่นา ทำไมจะต้องตื่นตูมบอกใครๆด้วยล่ะ
ทีนี้อยากทราบกันแล้วใช่ไหมคะว่ามีอะไรบ้าง? ฮั่นแน่ อยากรู้แล้วละซี ยกตัวอย่างเช่น...
1.เครื่องสำอาง และเครื่องประทินโฉม สังเกตได้เลยว่า ผู้หญิงหรือแม้แต่ผู้ชาย...เอ้า มีเครื่องสำอางของผู้ชายวางขายหลายอย่าง ไม่แพ้ของใช้สาวๆนะ เวลาซื้อเครื่องสำอางที มักไปคนเดียวหรือไปกับเพื่อนมากกว่าจะไปกับญาติ ยิ่งไปซื้อเครื่องสำอางแล้วไปซื้อคนเดียวก็ช็อปปิ้งกันเพลินไปเลยสิ อยากได้อะไรก็ซื้อๆๆๆโดยไม่ต้องถูกคนในครอบครัวกีดกันว่าอย่าซื้อเลย! ไรงี้
...
2.ซื้อเสื้อผ้า และเครื่อง ประดับ คิดดูสิว่าคุณจะอิสระเสรีแค่ไหนถ้าได้ซื้อเสื้อผ้าไปใช้เองโดยที่ไม่ต้องไปปรึกษาคนในบ้านเรื่องราคา, สีสัน และรูปแบบของชุดให้ยุ่งยากใจ เนื่องจากเสื้อผ้าบางยี่ห้อก็มีราคาแพง แต่บังเอิญคุณเกิดชอบมันขึ้นมา ดังนั้นขืนบอกให้สมาชิกในครอบครัวรู้ก่อนว่าคุณชอบชุดของห้องเสื้อนี้ คุณอาจไม่ได้เป็นเจ้าของมันก็ได้ เพราะจะถูกห้ามแล้วห้ามอีกจนโครงการอยากซื้อก็ไม่ซื้อเพราะกลัวถูกต่อว่า
3.บางคนจะออกไปเที่ยวไหนก็ไม่บอก ให้สมาชิกในครอบครัวรู้ เพราะมักถูกกีดกัน จะไปปาร์ตี้เจอเพื่อนๆก็ไม่ได้ ถูกมองว่าจะปาร์ตี้อะไรกันนักหนา ว้าย! โดนเข้าอย่างนี้คงไม่อยากไปแล้ว.
คนสมถะ