อีกหนึ่งความหวัง

ผงาดคว้าถ้วย “เอเอฟเอฟ ฟุตซอล คลับ แชมเปียนชิพ 2017” ไปครองสมใจสำหรับ “โต๊ะเล็กสิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ หลังเป็นฝ่ายถล่ม ซานนา คานห์ ฮัว จากเวียดนาม ไปแบบเหนือชั้น 4-0 นับเป็นการคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน

แม้จะเป็นแชมป์ระดับอาเซียนแต่ก็ถือเป็นผลงานอันยอดเยี่ยมของวงการโต๊ะเล็กไทย นี่ยังไม่รวมในระดับเอเชียที่มี “ฉลามโต๊ะเล็ก” พีทีที ชลบุรี บลูเวฟ ของ “หนุ่มแปม” ธัชพัทธ์ เบ็ญจศิริวรรณ ทายาทของเจ้าพ่อฟุตซอล “บิ๊กป๋อม” อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอลไทย เป็นตัวยืน

พูดถึง “สโมสรบลูเวฟ” ที่กำลังนำเป็นจ่าฝูงฟุตซอลลีกตอนนี้ มีคิวที่จะลงเตะในศึกสโมสรเอเชียวันที่ 20-30 ก.ค.ที่เวียดนาม ซึ่งที่ผ่านมา บลูเวฟ ก็เคยสร้างผลงานกระหึ่มด้วยการคว้าแชมป์มาแล้วครั้งหนึ่งที่แดนปลาดิบ

ต้องยอมรับว่าวงการฟุตซอลไทยตอนนี้เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลัง “บิ๊กป๋อม” พาทีมโต๊ะเล็กไทย สร้างประวัติศาสตร์เข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายฟุตซอลโลก ที่โคลอมเบียมาแล้ว

ทั้งหมดทั้งมวลเป็นเพราะความเอาใจใส่ของตัวประธานพัฒนาฟุตซอล ที่พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อพาฟุตซอลไทยไปสู่เป้าหมายหรือประสบความสำเร็จในเกมระดับนานาชาติให้ได้มากที่สุด เหมือนช่วงหนึ่งที่เคยขยับเข้าใกล้จุดหมายหายใจรดต้นคอแชมป์เอเชียอย่าง “อิหร่าน” มาแล้ว

และเท่าที่ดูนักฟุตซอลตอนนี้เริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้นอย่างชุดเล็กยู 20 ปีก็กำลังจะสร้างผลงานได้อย่างน่าประทับใจ นักเตะหลายคนมีแววสามารถก้าวขึ้นมาทดแทนรุ่นใหญ่ที่อยู่ในช่วงใกล้ปลดเกษียณได้อย่างไร้ที่ติ ขอเพียงเพาะบ่มอย่างต่อเนื่องเท่านั้น

โดยเฉพาะซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่แดนเสือเหลือง ที่ใกล้จะเปิดฉากชิงเหรียญทองในเร็ววันนี้ ทีมฟุตซอลทั้งชาย-หญิงถือเป็นอีกหนึ่งความหวังของทัพนักกีฬาไทย

ยิ่งได้ “พี่ใหญ่” สรัญ รังคสิริ คนหัวใจกีฬา ที่เข้ามานั่งเก้าอี้ผู้จัดการทีมซีเกมส์ด้วยแล้ว เท่ากับเป็นการเสริมเขี้ยวเล็บและเติมเต็มให้ทีมโต๊ะเล็กไทยแข็งแกร่งขึ้น

สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือตำแหน่งผู้จัดการทีมไม่ว่ากีฬาประเภทไหนถ้าได้ผู้จัดการที่ใจเกินร้อยและทุ่มเทให้กับทีมอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็มีสูง

ทั้งหมดนี้คือองค์ประกอบที่ช่วยให้ทีมฟุตซอลไทยไปถึงเป้าหมาย.

โจโจ้