อธิบดีกรมป่าไม้ นำ จนท.เข้าทำลายเส้นทางลักลอบทำไม้ข้ามชาติ เขตรอยต่อ จ.แพร่–จ.น่าน ที่ถือว่าเป็นป่าไม้ชิงชันที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อสกัดไม่ให้การบุกรุกป่าขยายตัวกว้างกว่านี้...
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 59 นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ นายอรรถพล เจริญชันษา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและควบคุมไฟป่า และนายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ได้สนธิกำลัง นำกำลังเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เข้าเปิดปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มทุนและผู้มีอิทธิพลที่เข้ายึดถือครอบครองที่ดินและลักลอบทำไม้มีค่าหายาก โดยเฉพาะไม้ชิงชัน อย่างต่อเนื่องในเขตป่าต้นน้ำแม่น้ำยม ท้องที่ อ.สอง จ.แพร่ และ อ.เวียงสา จ.น่าน และขบวนการจะใช้เส้นทางขนย้ายไม้ผ่านทางหมู่บ้านบ่อหอย ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน ซึ่งมีชาวบ้านในพื้นที่ร่วมขบวนการ ซึ่งสามารถตรวจยึดดำเนินคดีผู้กระทำผิดได้จำนวนมากทั้งผู้ต้องหาและของกลาง แต่ยังไม่สามารถหยุดยั้งขบวนการดังกล่าวได้
นายอรรถพล เจริญชันษา กล่าวว่า การปฏิบัติงานในทางเชิงรุกโดยใช้วิธีตัดทำลายเส้นทางลำเลียง ที่ขบวนการใช้ขนย้ายไม้ที่ลักลอบทำ และเป็นการสกัดกั้นกลุ่มขบวนการที่จะเข้าไปบุกรุกยึดถือครอบครองที่ดิน โดยใช้รถแบ็กโฮ ขุดทำลายเส้นทางที่ขบวนการดังกล่าวลักลอบตัดเข้าไปในเขตป่าโดยเลือกจุดที่ยากต่อการที่ขบวนการจะใช้เส้นทางได้อีก และเป็นจุดที่มีผลกระทบต่อระบบนิเวศของป่าน้อยสุด โดยไม่ให้มีผลกระทบต่อเส้นทางสัญจรตามปกติของชาวบ้าน
ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและควบคุมไฟป่า กล่าวต่อว่า จากการเข้าตรวจสอบของชุดพยัคฆ์ไพรพบว่า ป่าสงวนแห่งชาติรอยต่อสองจังหวัดจุดนี้ มีความเป็นป่าต้นน้ำลำธารที่สมบูรณ์มากพื้นที่นับแสนไร่ พบจุดการลักลอบแปรรูปไม้ไม่ต่ำกว่า 20 จุด ตรวจพบแคมป์ที่พักของขบวนการในป่าลึกพร้อมของกลางจำนวนมาก บางจุดตรวจพบเพิ่งมีการลักลอบตัดเส้นทางเข้าไปในป่าสมบูรณ์ไม่กี่วัน และด้วยลักษณะของภูมิประเทศ และเส้นทางเข้าทำให้การเข้าดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิด ไม่สามารถได้ตัวผู้ต้องหา จะตรวจยึดได้เฉพาะไม้ของกลาง เนื่องจากขบวนการมีการวางกำลัง เพื่อคอยเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตรงจุดทางเข้าตลอดเวลา ถึงจะใช้อากาศยานก็ไม่สามารถตรวจพบแคมป์ที่พักของขบวนการได้
...
ด้าน นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ในการปฏิบัติการในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และภายหลังที่ลงตรวจติดตามการปฏิบัติการของชุดปฏิบัติการในครั้งนี้ทำให้ทราบถึงสภาพปัญหาข้อจำกัดของการปฏิบัติการดูแลพื้นที่ป่าไม้ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้หลายประเด็นเช่นข้อจำกัดของการเดินทางด้วยยานพาหนะของเจ้าหน้าที่ ที่ไม่ทัดเทียมของกลุ่มขบวนการ
ส่วน นายชีวะภาพ กล่าวว่า เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ได้มีนโยบายในการบังคับใช้กฎหมาย ภายใต้แผนพลิกฟื้นผืนป่าสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน กําหนดให้มีการดําเนินคดีกับขบวนการลักลอบทำไม้มีค่าหายากที่เป็นขบวนการใหญ่โดยใช้แนวทางการปฏิบัติตามคําสั่ง คสช.ที่ 64, 66/2557 และคําสั่ง คสช.ที่ 13/2559 โดยเฉพาะในท้องที่ในเขตจังหวัดต่างๆ ในท้องที่เขตจังหวัดทางภาคเหนือที่ยังมีขบวนการดังกล่าวเคลื่อนไหวอยู่ โดยขบวนการมุ่งเน้นไปที่ไม้ชิงชันและประดู่ ปัจจุบันเป็นไม้ที่มีความต้องการจากตลาดต่างประเทศสูงรองจากไม้พะยูง และมีราคาแพงในขณะนี้ เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางตามแผนงาน พลิกฝืนพื้นป่า สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ต่อไป
นอกจากนี้ นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ ได้สั่งการให้นายอรรถพล เจริญชันษา ดำเนินการทำแผนงานเชิงรุกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันรักษาป่า ในพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ ที่เป็นลักษณะดังกล่าวโดยเร่งด่วน โดยได้สั่งการให้ดำเนินการใช้มาตรา 25 ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 รื้อทำลายถนนที่กลุ่มทุนตัดเข้าไปในเขตป่าไม้ที่ยังสมบูรณ์ และมีแนวโน้มการขยายตัวออกเรื่อยๆ ซึ่งเป็นการสกัดกั้นไม่ให้เกิดการขยายตัวของการบุกรุกทำลายป่าในวงกว้างต่อไป.