กลุ่มสามารถประกาศทิศทางธุรกิจปี 2560 ตั้งเป้ารายได้ทั้งกลุ่ม 20,000 ล้านบาท เผยปรับทัพธุรกิจรับเทรนด์ดิจิตอลและไทยแลนด์ 4.0 หวังโอกาสเข้าร่วมประมูลโครงการใหญ่มูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท พร้อมปั้นแบรนด์ไอโมบายอีกครั้งสู้สงครามมือถือ...

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เนื่องจากประเทศไทยอยู่ในยุคเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี รวมถึงนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล กลุ่มบริษัทสามารถจึงวางแผนรองรับการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีและความต้องการของผู้บริโภค

"บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมในปีนี้ 20,000 ล้านบาท โดยทุกกลุ่มธุรกิจต่างมีการปรับตัวเพื่อรองรับเทรนด์ธุรกิจและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิดสามารถ 4.0 ทรานส์ฟอร์เมชั่น ทู ซัคเซส แอนด์ บียอน ทั้งยังรองรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ด้วยรูปแบบใหม่ๆ ทางธุรกิจ รวมถึงกลุ่มสามารถไอ-โมบายที่จะมีการปรับโครงสร้างและขยายธุรกิจใหม่ ซึ่งภายในเดือนมีนาคมนี้จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดมือถืออีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ากลุ่มสามารถเทลคอมจะยังคงเติบโตในธุรกิจโทรคมนาคมอย่างแข็งแกร่งจากการเข้าร่วมประมูลโครงการใหญ่ๆ ส่วนรายได้ในปี 2559 ซึ่งบริษัทตั้งไว้ที่ 30,000 ล้านบาทแต่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยปัจจัยหลักมาจากธุรกิจไอ-โมบายได้รับผลกระทบจากสงครามราคามือถือและรายได้ไม่เป็นไปตามเป้า"

โดยธุรกิจโมบาย-มัลติมีเดีย ของบริษัท สามารถไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) ตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 4,500 ล้านบาท ถือเป็นสายธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงด้านทิศทางและโครงสร้างธุรกิจมากที่สุด ประกอบด้วย 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1. กลุ่มโมบาย & ซิเคียวริตี้ (Mobile & Security) ดำเนินธุรกิจจำหน่ายมือถือและแก็ดเจ็ต โดยนำเสนอคุณสมบัติเด่นด้านความปลอดภัย การดูแลสุขภาพ และอื่นๆ นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนขยายตลาดไปยังประเทศลาว พม่า เวียดนาม และกัมพูชา 2. โอเปอเรเตอร์ & อินฟราสตรัคเจอร์ (Operator & Infrastructure) ประกอบด้วยธุรกิจ MVNO (ผู้ให้บริการบนโครงข่ายเสมือน) บนเครือข่าย CAT ของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ในชื่อ Open MVNO ซึ่งเร็วๆ นี้จะมีการนำเสนอบริการเสริมที่เชื่อมโยงกับการรักษาความปลอดภัยเพื่อสร้างความแตกต่าง นอกจากนี้ ภายในไตรมาสแรกของปีนี้บริษัทยังเตรียมเปิดตัวธุรกิจใหม่ซึ่งเกี่ยวข้องกับเครื่องมือสื่อสาร (Trunked Mobile) อีกด้วย

3. ดิจิตอล คอมเมิร์ซ (Digital Commerce) ครอบคลุมธุรกรรมออนไลน์ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตสูง โดยบริษัทจะเปิดตัวบริการขายฝากสินทรัพย์ออนไลน์ผ่านเวบไซต์ Zazzet อย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม และ 4. ไอ-สปอร์ต (I-sport) บริษัทลูกของกลุ่มสามารถไอ-โมบาย ซึ่งมีรายได้ประจำจากสัญญาการถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกมูลค่าหลายร้อยล้านบาทต่อปี ยังเตรียมขยายธุรกิจด้านสปอร์ตคอมเมอร์เชียลอย่างจริงจัง โดยครอบคลุมสายธุรกิจสปอร์ต ดิจิตอล คอนเทนต์, สปอร์ต อีเวนต์, สปอร์ต ทัวร์, สปอร์ต คอมเมิร์ซ, สปอร์ต เอเจน และเกม โดยบริษัทวางแผนเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ และวางแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในปี 2560

"ในปี 2560 สายธุรกิจมือถือจะกลับมาชัดเจนอีกครั้ง ภายในช่วงไตรมาสที่ 1 หลังจากแบรนด์ไอ-โมบายได้รับผลกระทบจากการแข่งขันอย่างรุนแรงในตลาดมือถือ ซึ่งโอเปอเรเตอร์ได้ใช้สงครามราคาในการทำตลาด ซึ่งในปีนี้บริษัทจะไม่ได้ทำตลาดเฉพาะแบรนด์ไอ-โมบาย แต่ยังวางแผนเป็นตัวแทนจำหน่ายหลักให้มือถือระดับโลกอีกหลายแบรนด์ พร้อมด้วยการพัฒนาช่องทางออนไลน์เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคผ่านสื่อดิจิตอลมากขึ้น ต่อเนื่องจากการเปิดตัวแบล็คโฟน 2 (Blackphone 2) เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทำให้บริษัทยิ่งมั่นใจในการขยายธุรกิจกลุ่มโมบาย ซิเคียวริตี้ แอปพลิเคชัน และโซลูชั่น ซึ่งร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกในการพัฒนาและนำเสนอสินค้าบริการใหม่ๆ โดยบริษัทตั้งเป้ายอดจำหน่ายไว้เพียง 1 ล้านเครื่องภายในสิ้นปีนี้"

สำหรับธุรกิจไอซีที โซลูชั่น โดยบริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) ตั้งเป้ารายได้ในปีนี้ 9,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีงานในมือ หรือ แบ็กล็อก (Backlog) มูลค่ากว่า 9,000 ล้านบาท ล่าสุด ยังได้งานโครงการสัญญาเช่าระบบคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปสำหรับธุรกิจหลักกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มูลค่า 2,639 ล้านบาท และจากนโยบายส่งเสริมให้เกิดเศรษฐกิจดิจิตอลของภาครัฐ ประกอบกับโครงการขนาดใหญ่มีการเลื่อนประมูลมาในปีนี้ จึงเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจไอซีทีอย่างชัดเจน รวมถึงโอกาสในการเข้าร่วมประมูลโครงการมูลค่ารวมกว่า 15,000 ล้านบาท โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถเพิ่มมูลค่างานแบ็กล็อกถึง 10,000 ล้านบาทในปีนี้ ขณะเดียวกันก็ตั้งเป้าขยายฐานรายได้ประจำจากงานบริการในรูปแบบเอาท์ซอส เซอร์วิส (Outsource Services) มากขึ้น ส่วนสายธุรกิจยู-ทรานส์ ซึ่งประกอบด้วย CATS, Kampot Power Plant และ Teda บริษัทตั้งเป้ารายได้รวม 4,200 ล้านบาท และสายธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือรายที่ 4 ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งเป้ารายได้รวม 2,300 ล้านบาท

ส่วนธุรกิจระบบรักษาความปลอดภัย ในการให้บริการกล้องวงจรปิดและสามารถวิศวกรรมนั้น บริษัทได้เตรียมความพร้อมและปรับตัวในการบริหารธุรกิจ การพัฒนาบุคลากร และพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อว่าจะยังสามารถดำเนินธุรกิจและเติบโตต่อไปได้.

...