งาน Worldwide Developers Conference (WWDC) ประจำปี 2019 ของ Apple ซึ่งนับเป็นงานของ “Apple” ใหญ่ที่สุดที่จัดขึ้นระหว่าง 3-7 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่เมืองซานโฮเซ ประเทศสหรัฐอเมริกา มีนักพัฒนาจากทั่วโลกกว่า 5,000 คน เป็นกลุ่มแรกที่มารับฟังข้อมูลเชิงลึกทั้งเทคโนโลยีและเฟรมเวิร์กให้นักพัฒนาเหล่านี้นำไปพัฒนาแอปพลิเคชันผ่านความคิดสร้างสรรค์ของตนที่จะนำไปใช้ในอุปกรณ์ของ “Apple” ทั้งหมดในอนาคตอันใกล้

นักพัฒนาเหล่านี้ได้มีโอกาสฟังคีย์โน้ตจากบนเวที และมีกิจกรรมมากมายที่ Apple เตรียมต้อนรับเพื่อการสร้างประสบการณ์ใหม่ของการเรียนรู้ พร้อมการเข้าร่วมเซสชันด้านเทคนิค การลงมือปฏิบัติจริงในห้องแล็บ การบรรยายพิเศษเพื่อให้ความรู้และสอนวิธีการใช้เครื่องมือให้เปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ให้เป็นความจริง

...

เริ่มจากแอปพลิเคชัน Moleskine Digital Studio เป็นหนึ่งในแอปที่ได้รับรางวัล Apple Design Award ประจำปี 2019 ยกย่องผลงานจาก 9 นักพัฒนาแอปและเกม iOS ที่นำเอาความคิดสร้างสรรค์ด้านงานศิลป์ และความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีมารังสรรค์เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม โดยแอป Flow ทาง Moleskine ได้สร้างเป็นโปรแกรมสำหรับร่างไอเดีย จดสิ่งที่คุณนึกขึ้นได้ และเปิดประตูสู่ความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างราบรื่น โดยไม่มีอะไรมากวนใจ Flow ทำให้สมุดจดในตำนานเป็นสมุดจดดิจิทัลสำหรับ iPhone และ iPad โดยแอปนี้ถูกดาวน์โหลดไปแล้ว 2.5 ล้านครั้ง ได้รับรางวัลจาก App Store Editors และ Best of the Year

แผนการในอนาคตที่น่าตื่นเต้นสำหรับ Moleskine Digital Studio ในปีนี้นั้น คือการนำแอป iOS ไปยัง macOS เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์ใด อีกไฮไลต์คือ Timepage 3 ซึ่งนำระบบใหม่ทั้งหมดสำหรับสร้างกิจกรรมในปฏิทินและวิธีใหม่ในการดูตารางเวลาของคุณเช่นมุมมองรายเดือนบน iPhone และภาพรวมรายปี

 

“ไมเคิล เดล โบว์เรลโล” ผู้ร่วมก่อตั้ง Moleskine กล่าวว่า WWDC นับเป็นปีที่พิเศษกว่าปีที่ผ่านๆมา เพราะปกติจะมีการประกาศถึง iOS ใหม่ว่ามีฟีเจอร์ใหม่ๆพิเศษอย่างไรบ้าง แต่ปีนี้ทาง Apple ได้เพิ่ม iPadOS ใหม่ รวมถึงการเปิดซอร์ซโค้ดใหม่เพื่อง่ายต่อการพัฒนาแอปใช้คนละแพลตฟอร์มกันได้ นับเป็นเรื่องที่ดีมาก ทาง Moleskine มีโครงการใหม่ๆ อาทิ Catalyst เพื่อนำไปใช้ใน macOS ได้ รวมถึงวิธีการใช้งานของ Apple Pencil ได้ลดความหน่วงจาก 20 มิลลิวินาที เหลือ 9 มิลลิวินาที ทำให้การใช้งานราบรื่นเหมือนขีดๆเขียนๆบนกระดาษเลยทีเดียว สำหรับรางวัลที่ได้รับดีใจมากโดยไม่คาดคิดมาก่อน เป็นวันที่พิเศษสำหรับพวกเราที่ทำงานกันมาอย่างหนัก

BandLab Technologies เป็นแอปพลิเคชันดนตรี เป็นชุมชนของคนชอบแต่งเพลงกว่า 8 ล้านคนกว่า 180 ประเทศ แต่ละวันจะมีเพลงใหม่ๆถูกแต่งขึ้นกว่า 10,000 เพลง และแชร์กันผ่านการสร้างสรรค์ สามารถใช้ Siri Shortcuts เพื่อบันทึกเสียงแบบแฮนด์ฟรี ทำให้ผู้ใช้สามารถเริ่มต้นแต่งเพลงใหม่ได้รวดเร็ว

...

“จอห์น อีเวอร์ส” จาก BandLab กล่าวว่า แพลตฟอร์ม Social Music Creation ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลกก็สามารถแต่งเพลงได้ ใช้สมาร์ทโฟนแต่งเพลงได้โดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์อื่นๆ เช่น ตนไม่ต้องเสียเวลาซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์สำหรับมือโปร และตนจะตื่นเต้นมากว่าสักวันหนึ่งจะมีเพลงฮิตติดอันดับหนึ่งบิลบอร์ดแต่ถูกแต่งขึ้นจากแพลตฟอร์มนี้ สิ่งที่ชอบในงาน WWDC คือ การกำจัด iTunes ออกไป และ Sidecar เป็นคุณสมบัติใหม่ที่ทำให้ iPad เป็นจอที่สองของคอมพิวเตอร์ Mac รวมถึง Audio Sharing การแลกเปลี่ยนเพลงผ่านหูฟัง AirPods ต่อไปคิดไม่ถึงว่าจะแฟนซีแค่ไหนหากเราจะแลกเปลี่ยนเพลงแบบเดาสุ่มกับคนไม่รู้จักผ่านหูฟังไร้สายนี้ รวมไปถึงการไปสถานที่สาธารณะ ต่อไปธุรกิจโฆษณาอาจจะใช้ประโยชน์ตรงนี้สามารถเข้ามาถึงหูฟังนี้ได้แต่ตนคาดหวังว่าจะไม่เกิดขึ้น

Viki แพลตฟอร์มวิดีโอที่มีผู้ชมทั่วโลกนับล้านคน กับ เอเชียนซีรีส์โดยเฉพาะละครจากเกาหลี รายการ Viki Originals และ influencer videos Viki เติบโตมาจากการเป็นชุมชนของการทำซับไตเติลทั้งจากอาสาสมัครและแฟนละครแปลกว่า 200 ภาษา ซึ่งกลายเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ มีชมเฉลี่ยวันละ 2.30 ชั่วโมง นานกว่า Netflix หมวดเรียนรู้ของ Viki ช่วยให้ผู้ใช้เรียนรู้ภาษาเกาหลี ญี่ปุ่นและจีนในขณะที่ดูละคร

...

“ลารีนา ติง” วิศวกร iOS ของ Viki กล่าวว่า ผู้ชมของ Viki มีทั่วโลก คุณจะแปลกใจเมื่อผู้ชมในสหรัฐฯยินดีที่จะจ่ายเงินเพื่อชมละครเกาหลีผ่าน Viki จากเดิมที่เน้นผู้ชมในเอเชีย ในแพลตฟอร์มนี้ช่วยเรื่องการเรียนรู้ภาษาด้วย ตนติดตามการอ่านศัพท์และการออกเสียงภาษาเกาหลี จนถึงตอนนี้ชมละครเกาหลีโดยไม่ต้องมีซับไตเติล มันน่าทึ่งมากๆ.