สถานการณ์ของบริษัทสตาร์ทอัพเทคโนโลยีระดับโลก เริ่มวิกฤติหนัก มาถึงจุดเริ่มปลดพนักงาน เพราะทนพิษโควิด-19 ไม่ไหวแล้ว เลิกจ้างไปแล้วกว่า 4 หมื่นคน
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท Uber แพลตฟอร์มเรียกรถโดยสารจากสหรัฐอเมริกา ไปทั่วโลก ได้ประกาศเลิกจ้างพนักงาน 3,700 คน คิดเป็นประมาณ 14% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด 26,900 คน โดยล่าสุดไตรมาสแรกของปีนี้ Uber มีผลประกอบการขาดทุน 2,900 ล้านดอลลาร์
Lyft คู่แข่งของ Uber ก็เลิกจ้าง 982 คน และพักงานอีก 288 คน โดยไตรมาสแรกที่ผ่านมาขาดทุน 398 ล้านดอลลาร์
มากันที่ Airbnb ธุรกิจแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เป็นตัวกลางให้คนแบ่งห้องในบ้าน หรือที่พักของตัวเอง เป็นห้องเช่าสำหรับนักท่องเที่ยว จนมีผู้ร่วมให้บริการจำนวนมาก ใช้บริการหลายสิบล้านคนทั่วโลก จนมีมูลค่าธุรกิจถึง 30,000 ล้านดอลลาร์
...
แต่สัญญาณก็ไม่ดีมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เพราะเริ่มขาดทุน จนเมื่อเจอวิกฤติโควิด-19 คนเลิกเดินทาง และแน่นอนว่าอย่างที่ผู้บริหารกล่าวในแถลงการณ์กับพนักงานเรื่องเลิกจ้าง ที่ทำให้เห็นว่าธุรกิจท่องเที่ยวจะเปลี่ยนแปลงไป จึงจำเป็นต้องเลิกจ้างพนักงาน 1,900 คน คิดเป็นประมาณ 25% ของพนักงานทั้งหมด
Yelp เว็บไซต์รีวิว และให้เรตติ้งร้านค้า ร้านอาหาร ไตรมาสแรกขาดทุน 15.5 ล้านดอลลาร์ ต่างจากช่วงเดียวปีก่อนที่กำไร 1.4 ล้านดอลลาร์ จึงไม่น่าแปลกใจที่ในที่สุดก็ต้องตัดใจเลิกจ้างพนักงาน 1,000 คน และพักงาน 1,100 คน หลังจากพยายามลดต้นทุน ผู้บริหารลดเงินเดือนของตัวเองแล้ว
อีกหนึ่งบริษัทอย่าง WeWork ที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในลักษณะ ให้เช่าพื้นที่ทำงาน สำหรับบริษัทที่ไม่มีออฟฟิศของตัวเอง เคยเติบโตระดับยูนิคอร์น แต่สัญญาณไม่ดีตั้งแต่ปีที่แล้ว เพราะขาดทุน ในที่สุดก็ไม่พ้นวิกฤติช่วงนี้ ต้องเลิกจ้างพนักงาน 250 คน
นี่เป็นสภาพเพียงส่วนหนึ่ง ซึ่ง layoff tracking site ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเลิกจ้างพนักงานในธุรกิจเทคโนโลยี มีตัวเลขรายงานว่าบริษัทสตาร์ทอัพ 375 แห่ง มีการเลิกจ้างพนักงานแล้ว 42,000 คน ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง