JWD ประกาศลงทุน 20 ล้านบาท ใช้ SAP Business One on HANA เพื่ออัพเกรดระบบไอที ตั้งเป้าขึ้นแท่นผู้นำธุรกิจโลจิสติกส์ระดับอาเซียน พร้อมเปิดบริษัทใหม่สิ้นปีนี้…
นายเอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีรายได้จาก 4 ประเภทธุรกิจ คือ คลังสินค้าอันตราย, คลังสินค้าทั่วไปและเขตปลอดอากร, ธุรกิจด้านยานยนต์, ธุรกิจห้องเย็น ซึ่งสามารถสร้างรายได้เฉลี่ยในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้บริษัทยังมีธุรกิจอื่นๆ อาทิ ธุรกิจรับย้ายบ้าน ย้ายออฟฟิศ ย้ายพิพิธภัณฑ์ เป็นต้น รวมมีบริษัทในเครือราว 20 แห่ง
โดยบริษัทมีการนำระบบไอทีเข้ามาช่วยบริหารจัดการธุรกิจทั้ง 4 ประเภท ล่าสุด บริษัทได้เลือกใช้ซอฟต์แวร์ SAP Business One on HANA เพื่อเชื่อมต่อกับระบบการทำงานเดิม โดยมีการลงทุนด้านงบประมาณในเฟสแรกประมาณ 10 ล้านบาท หรือราว 20 ล้านบาทเมื่อรวม 2 เฟส เนื่องจากการลงทุนด้านระบบไอทีของบริษัทเป็นการลงทุนเพื่ออัพเกรดความสามารถของระบบ จึงเชื่อว่าไม่จำเป็นต้องลงทุนด้วยงบประมาณจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่า SAP Business One on HANA เป็นโซลูชั่นที่จะช่วยให้บริษัทสามารถต่อยอดสู่การพัฒนาธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงานและการบริหาร โดยมีการประสานเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างส่วนงานต่างๆ ทั้งยังมีความโปร่งใสและถูกต้องของข้อมูล สร้างมาตรฐานการทำงานระดับสากล ทั้งนี้ เราได้วางแผนที่จะขยายการใช้งาน SAP Business One on HANA ไปยังบริษัทอื่นๆ ในเครือภายในอนาคต โดยมีบริษัท ฮิวแมนิก้า จำกัด เป็นพาร์ทเนอร์ช่วยดำเนินการวางระบบ
"กลุ่มบริษัทเจดับเบิ้ลยูดีมีการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งพัฒนาโดยบริษัทในกลุ่ม เพื่อใช้สนับสนุนการทำงานของแต่ละกลุ่มธุรกิจ ทั้งธุรกิจให้บริการรับฝากและบริหารสินค้าทั่วไป สินค้าควบคุมอุณหภูมิแช่เย็นแช่แข็ง สินค้าประเภทรถยนต์ ตลอดจนธุรกิจให้บริการขนส่งและกระจายสินค้า ซึ่งมีอัตราการเติบโตทางธุรกิจเฉลี่ย 4-8% ต่อปี ส่วนรายได้ในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 2,800 ล้านบาท และตั้งเป้าเติบโตอย่างต่อเนื่องจากโครงการภายในประเทศที่ได้เริ่มต้นไปแล้ว แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันจะอยู่ในช่วงชะลอตัวบริษัทก็ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่จะได้รับผลกระทบทางอ้อมจากลูกค้า อย่างไรก็ตาม บริษัทได้มีการขยายธุรกิจออกไปยังต่างประเทศโดยเฉพาะ CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม และมาเลเซีย) ทั้งในรูปแบบการขยายและควบรวมธุรกิจ โดยมีเป้าหมายในการเป็นผู้ให้บริการด้านลอจิสติกระดับอาเซียน ซึ่งคาดว่าภายใน 5 ปี บริษัทจะมีรายได้จากการขยายธุรกิจในอาเซียนได้คิดเป็น 1 ใน 4 ของรายได้ทั้งหมด โดยบริษัทยังมีแผนขยายพื้นที่ห้องเย็นและคลังสินค้าทั่วไป จาก 7,000 ตร.ม. เป็น 70,000 ตร.ม. และควบรวมธุรกิจอื่นๆ ภายใน 5 ปี ด้วยงบประมาณราว 3,000 ล้านบาทอีกด้วย"
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ลงทุนราว 60 ล้านบาท เพื่อจัดตั้งบริษัทด้านโลจิสติกส์รองรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวได้ภายในช่วงปลายไตรมาสที่ 4 ในปีนี้
นายนพดล เจริญทอง ผู้อำนวยการฝ่ายขายกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เอสเอพี ประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทเชื่อว่า SAP Business One on HANA จะเป็นตัวช่วยสนับสนุนและเสริมความแข็งแกร่งให้เจดับเบิ้ลยูดี กรุ๊ป เพื่อมุ่งสู่การเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ระดับอาเซียนในอนาคต และด้วยการสนับสนุนจากฮิวแมนิก้า ในการติดตั้ง SAP Business One on HANA มาเป็นตัวช่วยในการดำเนินธุรกิจครั้งนี้ จะช่วยให้การดำเนินธุรกิจของเจดับเบิ้ลยูดี กรุ๊ป สามารถขยายตัวและเติบโตได้รวดเร็วขึ้น
สำหรับ 3 อันดับแรกของประเทศที่มีความแข็งแรงด้านโลจิสติกส์ คือ สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย อย่างไรก็ตาม มูลค่าตลาดโลจิสติกส์ในไทย คาดว่าในปีนี้จะมีมูลค่ามากกว่า 3 ล้านล้านบาท.
...