เอปสันประเทศไทย โชว์ผลประกอบการปี 2558 ตลาดอิงค์เจ็ตพรินเตอร์เติบโตสูงสุดกว่า 20% อวดธุรกิจขยับเป็น 8% พร้อมตั้งเป้าเติบโตอีก 10% ภายในสิ้นปีนี้...

นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากการดำเนินธุรกิจในปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถเติบโตอยู่ที่ 8% จากเดิม 6% ซึ่งรวมการดำเนินธุรกิจทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศเวียดนาม พม่า กัมพูชา ลาว และปากีสถาน จากความสำเร็จในการขยายตลาดในกลุ่มราคาระดับกลางถึงระดับสูง ผ่านกลุ่มลูกค้าองค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ หน่วยงานราชการและสถาบันการศึกษา เป็นต้น ซึ่งในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตเป็น 10%

สำหรับการเติบโตของกลุ่มสินค้านั้น ตลาดอิงค์เจ็ตพรินเตอร์สามารถสร้างอัตราการเติบโตได้สูงสุด ด้วยสัดส่วนกว่า 20% จากสินค้ากลุ่มแอล ซีรีส์ หรือเครื่องแท็งค์แท้ ซึ่งบริษัทเริ่มทำตลาดเมื่อ 5 ปีก่อนหน้า และยังคงขยายตลาดในกลุ่มดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สินค้ากลุ่มอื่นๆ อาทิ ทีเอ็ม พรินเตอร์ (เครื่องพิมพ์ใบเสร็จ) สามารถเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจได้ราว 16%, โปรเจกเตอร์ เติบโต 3%, พรินเตอร์หน้ากว้างเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม เติบโตได้ 1% เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว ประกอบกับหน่วยงานภาครัฐชะลอการใช้งบประมาณ ทำให้เกิดภาวะการชะลอซื้อ แต่เชื่อว่ากำลังซื้อทั้งในกลุ่มหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจะกลับมาในปีนี้

"ปัจจัยที่กลุ่มอิงค์เจ็ตพรินเตอร์ของเอปสันสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง มาจากความสามารถในการตอบโจทย์ความคุ้มค่าแก่ผู้บริโภค บริษัทพยายามนำเสนอการใช้งานพรินเตอร์ที่มีค่าใช้จ่ายต่อแผ่นในราคาถูก รวมถึงการปรับภาพลักษณ์ของเอปสันสู่ภาพลักษณ์แบรนด์คุณภาพที่มีเครื่องพิมพ์ราคาในระดับกลาง ทำให้สินค้ากลุ่มดังกล่าวได้รับความนิยมจากลูกค้าเอสเอ็มอีและโซโฮ จนสามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดเชิงมูลค่าได้เป็นอันดับ 1 ทั้งในกลุ่มซิงเกิลฟังก์ชั่นและมัลติฟังก์ชั่น ด้วยสัดส่วน 41% จากเดิม 35% แม้ว่าจำนวนการจำหน่ายจะลดลงจากเดิม มากกว่า 1 ล้านเครื่อง เหลือเพียง 9 แสนเครื่องก็ตาม แต่สัดส่วนมูลค่าอิงค์เจ็ตพรินเตอร์ก็ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง"

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทจะใช้กลยุทธ์หลัก 3 ประการ คือ การสร้างมูลค่าแก่ลูกค้า การสร้างมูลค่าทางธุรกิจใหม่ และการสร้างความแข็งแกร่งให้แบรนด์ ผ่านการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ที่น่าสนใจ และราคาคุ้มค่าการใช้งาน อาทิ พรินเตอร์กลุ่มแอล ซีรีส์, โปรเจกเตอร์รุ่นใหม่ที่ให้ความสว่าง 6,000-25,000 ลูเมนส์, เครื่องพิมพ์ใบเสร็จแบบพกพา รุ่น TM-m30 และแว่นตาอัจฉริยะ Moverio BT-2000 ที่สามารถนำเสนอข้อมูล 3 มิติ เป็นต้น นอกจากนี้ก็จะมีความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ การขยายตลาดไปยังต่างจังหวัด การจัดกิจกรรมต่างๆ และการเพิ่มศักยภาพให้บริการหลังการขาย เพื่อสร้างการเติบโตให้กลุ่มธุรกิจต่างๆ ตามที่บริษัทตั้งเป้าหมายไว้ อาทิ กลุ่มอิงค์เจ็ตพรินเตอร์ เติบโตไม่ต่ำกว่า 15%, พรินเตอร์หน้ากว้างเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม 15% และโปรเจกเตอร์ 8%

"บริษัทจะขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายให้ครอบคลุมตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีอยู่ 166 ราย เป็นอย่างน้อย 180 รายในปีนี้ รวมถึงการเพิ่มตัวแทนจำหน่ายที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดเฉพาะด้าน เช่น หน่วยงานราชการ อุตสาหกรรมสิ่งทอ และตลาดเฉพาะทางวิชาชีพ เช่น โรงพยาบาล คลินิก รวมถึงตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคอินโดจีน ที่เอปสันประเทศไทยดูแลอยู่ โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มคอนซูเมอร์และกลุ่มองค์กร อยู่ที่ 40% และ 60% ตามลำดับ ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนในกลุ่มลูกค้าขององค์กรเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 55% และเชื่อว่าในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 65% ได้"

นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมายังเป็นโอกาสครบรอบ 25 ปี ที่บริษัทดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยบริษัทได้ใช้งบประมาณราว 30 ล้านบาท เพื่อทำการตลาดภายใต้แนวคิด EPSON TRUST IN YOU ซึ่งในปีนี้บริษัทจะใช้งบประมาณใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา เพื่อสานต่อการทำตลาดในแนวคิดดังกล่าว และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้ารวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจของเอปสัน เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว.

...