เอสไอเอส ผนึกกำลัง บิทดีเฟนเดอร์ รุกตลาดซิเคียวริตี้ในไทย พร้อมเสิร์ฟโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยปี 2016 หวังตอบโจทย์การปกป้องข้อมูล...
เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ เอสไอเอส (SIS) ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไอที ประกาศความร่วมมือกับ บิทดีเฟนเดอร์ (Bitdefender) ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นระบบรักษาความปลอดภัยจากประเทศโรมาเนีย รุกตลาดซอฟต์แวร์ระบบรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจร เจาะกลุ่มลูกค้าทุกระดับ ตั้งแต่กลุ่มผู้ใช้ทั่วไป ธุรกิจขนาดย่อม และองค์กรขนาดใหญ่ ทั้งนี้ บิทดีเฟนเดอร์ ได้แต่งตั้ง เอสไอเอส ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายรายเดียวในประเทศไทย พร้อมเปิดตัวโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยเวอร์ชั่นล่าสุด Bitdefender 2016 และ Bitdefender Gravity Zone
นายสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ เอสไอเอส (SIS) เปิดเผยว่า บริษัทมีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการแต่งตั้งจากบิทดีเฟนเดอร์ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายเพียงรายเดียวในประเทศไทย เพื่อดูแลการจัดจำหน่ายสินค้าในตลาดไอทีไทย ซึ่งปัจจุบันบิทดีเฟนเดอร์ทำตลาดแล้วกว่า 200 ประเทศทั่วโลก
"ด้วยประสบการณ์ของบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในการให้บริการระบบรักษาความปลอดภัย ตั้งแต่ระดับการป้องกันภัยจากไวรัสบนคอมพิวเตอร์ส่วนตัวจนถึงระดับดาต้าและบนเครือข่ายคลาวด์ เรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถนำโซลูชั่นของบิทดีเฟนเดอร์เจาะกลุ่มผู้ใช้ทุกระดับ ทั้งผู้ใช้ตามบ้านทั่วไป กลุ่มธุรกิจขนาดย่อม และองค์กรขนาดใหญ่ รวมถึงผู้ให้บริการด้านอินเทอร์เน็ต"
นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้าที่บริษัทให้ความสนใจยังรวมถึงภาคการศึกษา โรงพยาบาล ธนาคาร และผู้ให้บริการเกมออนไลน์ โดยกลุ่มลูกค้าองค์กรส่วนใหญ่จะติดตั้งระบบเพื่อใช้ป้องกันภายในองค์กรเอง และปกป้องข้อมูลให้กับผู้ใช้บริการขององค์กรนั้นๆ ส่วนตลาดลูกค้าคอนซูเมอร์ บริษัทวางแผนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านหน้าร้านไอทีชั้นนำ เช่น Banana IT , IT City , JIB , Advice IT และร้านจำหน่ายหนังสือ เช่น SE-ED และ B2S เป็นต้น ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบรักษาความปลอดภัย เพื่อสร้างความตระหนักต่อภัยคุกคามให้กับลูกค้าองค์กรมากขึ้น
นายมิฮาว โดมินิค กรรมการผู้จัดการบิทดีเฟนเดอร์ กลุ่มอินโดไชน่า กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้งานบิทดีเฟนเดอร์มากกว่า 500 ล้านคน ด้วยระบบรองรับการใช้งาน 20 ภาษา รวมถึงภาษาเวียดนามซึ่งเป็นภาษาที่พัฒนาขึ้นล่าสุด
"ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพมากสำหรับบิทดีเฟนเดอร์ เราจึงต้องการพันธมิตรทางธุรกิจที่มีประสบการณ์ ไม่เพียงเข้าใจตลาดและความต้องการของผู้ใช้ หากยังต้องมีความเชี่ยวชาญในการให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง และเอสไอเอสคือพันธมิตรที่เรามองหาและพร้อมที่จะนำพาธุรกิจเติบโตไปพร้อมกัน"
สำหรับการทำตลาดในประเทศไทย บริษัทแบ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มคอนซูเมอร์ กลุ่มธุรกิจขนาดย่อม และองค์กรขนาดใหญ่ โดยปัจจุบันสินค้าของบิทดีเฟนเดอร์มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในกลุ่มคอนซูมเมอร์และกลุ่มธุรกิจขนาดย่อม จากนี้บริษัทมีแผนขยายตลาดสู่กลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ ด้วยการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของ Bitdefender Gravity Zone เจาะกลุ่มลูกค้าดังกล่าว พร้อมกับการให้บริการระดับมืออาชีพจากเอสไอเอส นอกจากนี้มีรายงานการวิจัยพบว่าประเทศไทยเป็น 1 ใน 5 ของประเทศแถบเอเชีย (และเป็นอันดับ 11 ในระดับโลก) ที่เป็นเป้าหมายหลักที่มีอัตราเสี่ยงต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์และมัลแวร์สูง เราจึงตั้งใจนำเสนอโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมระดับโลก เพื่อช่วยปกป้องภัยคุกคามต่างๆ ให้ตลาดและกลุ่มผู้ใช้ในประเทศไทย
ทั้งนี้ Bitdefender 2016 ออกแบบมาให้ง่ายต่อการติดตั้ง จึงเหมาะสำหรับกลุ่มผู้ใช้ตามบ้านทั่วไป โดยเวอร์ชั่นนี้จะมาพร้อมกับระบบป้องกัน Ransomeware มัลแวร์ที่จะเข้าจู่โจมระบบคอมพิวเตอร์ โดยจะทำการล็อกระบบ และแสดงข้อความลวง เพื่อให้ผู้ใช้ต้องจ่ายเงินเพื่อคืนระบบเข้าสู่ภาวะปกติ
นอกจากนี้ Bitdefender 2016 มีระบบ One Click Optimizer ช่วยจัดการเนื้อที่ในหน่วยความจำ เพื่อให้เครื่องทำงานได้เร็วขึ้นเพียงคลิกเดียว ขณะเดียวกัน Bitdefender Gravity Zone2016 ก็เป็นโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยสำหรับลูกค้าองค์กร ที่มาพร้อมการอัพเดตการโจมตีผ่านมัลแวร์รูปแบบใหม่ แบบเรียลไทม์เหมาะสำหรับระบบไอทีแบบผสมผสานที่มีโครงสร้างซับซ้อน สามารถปกป้องข้อมูลหลายระดับชั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่กินพื้นที่ของเครื่องหรือหน่วยความจำ ตรวจจับการทำงาน สแกนไวรัสและมัลแวร์ได้อัตโนมัติ เมื่อเครื่องเปิดทิ้งไว้โดยไม่ถูกใช้งาน.
...