เบลกิ้น เผยโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่กลุ่มโซลูชั่นผลิตภัณฑ์ USB-C ขยายการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ให้มากขึ้น เพื่อใช้งานกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่มาพร้อมพอร์ต USB-C เพื่อให้ผู้ใช้งานชาร์จ โอนถ่ายข้อมูล และซิงค์ได้อย่างรวดเร็ว ที่งาน CES 2016...

เบลกิ้น (Belkin) เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Belkin USB-C พร้อมกันครั้งแรกที่บูธ Belkin ในงาน CES2016 ระหว่างวันที่ 6-10 มกราคม 2559 สำหรับ Belkin 4-Port Mini Hub มีการออกแบบมาพร้อมพอร์ต USB-C จำนวน 2 พอร์ต และ USB-A จำนวน 2 พอร์ต เพื่อขยายการเชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์ต่างๆ จากโน้ตบุ๊ก เพียงเสียบ Belkin 4-Port Mini Hub เข้ากับโน้ตบุ๊กและต่ออุปกรณ์ USB-C อื่นๆ เช่น แฟลชไดร์ฟ, เมาส์, คีย์บอร์ด ที่พอร์ตนี้ก็สามารถใช้งานได้ทันที

นอกจากนี้ USB-C ยังสามารถเชื่อมต่อกับ HDTV หรือ 4K/Ultra HDTV ได้ผ่าน USB-C to HDMI รองรับความละเอียดถึง 4K (4K@60Hz) ทำให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ในการรับชมภาพที่ดียิ่งขึ้น

สำหรับการชาร์จอุปกรณ์ภายในรถหรือบ้าน ชุดอุปกรณ์ USB-C to USB-A Charging Kits ได้รับการออกแบบให้สามารถชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ ได้ทั้งในบ้านและในรถได้อย่างสะดวก ประกอบด้วยสาย USB-A to USB-C ความยาว 180 เซนติเมตร และที่ชาร์จ 2.1 แอมป์ ทั้งนี้ USB-A เป็นพอร์ตมาตรฐานที่สามารถใช้งานได้กับทุกดีไวซ์ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต อุปกรณ์สวมใส่ หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ชาร์จผ่านพอร์ต USB-A ได้อย่างสะดวก

...

เมโลดี้ เทคสัน ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ Belkin กล่าวว่า เบลกิ้น มุ่งมั่นที่ในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเพื่อรักษามาตรฐานของแบรนด์ สำหรับ USB-C ที่กำลังจะเปิดตัวในอนาคตอันใกล้นี้ จะสร้างโซลูชั่นการเชื่อมต่อการทำงานได้อย่างสะดวก ไร้ที่ติ ในฐานะผู้นำด้านอุปกรณ์เชื่อมต่อไอที เบลกิ้นตระหนักถึงความสำคัญของการมอบประสบการณ์ผ่านการใช้งานผลิตภัณฑ์ Belkin ให้เป็นไปอย่างราบรื่น อีกทั้งยังสร้างความเข้าใจแก่ผู้ใช้งาน ดังนั้นเบลกิ้นจึงจัดศูนย์การเรียนรู้ USB-C ขึ้นมา เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รู้จักถึงจุดเด่นของสินค้า และค้นหาสาย เพื่อใช้งานให้ตรงกับความต้องการของตนเองได้

สาย MIXIT↑ USB-C to USB-C ที่มีความทนทานและสวยงาม สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ USB-C ได้อย่างลงตัว ปลอดภัยไม่ว่าจะเป็นการชาร์จหรือซิงค์ ด้วยสาย USB-C to USB-A ของ Belkin ในกลุ่ม MIXIT↑ สามารถรองรับการชาร์จอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วได้ด้วย

นอกเหนือจากนี้ Belkin ยังเปิดตัวสาย USB-C และอะแดปเตอร์ โดยเทคโนโลยีของ USB-C จะทำให้ทุกการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต และโน้ตบุ๊กมีประสิทธิภาพ อุปกรณ์ที่ใช้ USB-C มีขนาดเล็กและบางลงกว่าเดิม บวกกับความสามารถของตัวสาย จะช่วยลดจำนวนการพกสายต่างๆ ได้น้อยลง ด้วยสาย USB-C ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายสามารถเสียบกลับด้านได้ จึงทำให้สามารถต่อสาย USB-C กับพอร์ต USB-C โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต่อผิดด้าน และชาร์จแบตได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ผลิตภัณฑ์ USB 3.1 สามารถถ่ายโอนข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ภายนอกได้รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ อย่าง HDMI, VGA, และ DisplayPort ได้โดยผ่านตัวแปลง (Adaptor).